'องอาจ' จี้รัฐถกเพื่อนบ้านตีทะเบียนแรงงาน

2017-07-02 12:10:51

'องอาจ' จี้รัฐถกเพื่อนบ้านตีทะเบียนแรงงาน

Advertisement


เมื่อวันที่ 2 ก.ค.นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่รัฐบาลออก พ.ร.ก.การบริหารจัดการการทำงานของคนต่างด้าว พ.ศ.2560 ซึ่งมีบทลงโทษที่สูงเกินไป มีผลใช้บังคับทันที ว่าจะก่อให้เกิดผลกระทบอย่างกว้างขวางในภาคอุตสาหกรรม ภาคธุรกิจท่องเที่ยว และบริการ กลุ่มผู้ประกอบการเอสเอ็มอี และกลุ่มวิถีชุมชนที่จ้างแรงงานต่างด้าว  จนรัฐบาลต้องใช้คำสั่ง คสช. มาตรา 44 ผ่อนปรนการบังคับใช้กฎหมายออกไปอีก 120 วัน ในมาตรา 101, 102, 122 เพื่อให้แรงงานต่างด้าวดำเนินการขอใบอนุญาตให้ถูกต้อง ทั้งนี้ ถ้ารัฐบาลจัดให้มีศูนย์จดทะเบียนแรงงานต่างด้าวก็น่าจะเป็นทางออกที่ดี  แต่รัฐบาลได้ออกมายืนยันว่าจัดตั้งไม่ได้  เพราะขัดต่อบันทึกความเข้าใจ หรือเอ็มโอยู 3 ประเทศ คือ สปป.ลาว  เมียนมา และกัมพูชา รวมไปถึงพันธสัญญา ไอยูยู จะทำให้แรงงานต่างด้าวทะลักเข้าไทย

นายองอาจ กล่าวว่า กังวลว่าแรงงานต่างด้าวที่เข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย  ซึ่งมีจำนวนมากนับล้านคนจะสามารถดำเนินการให้ถูกต้องตามกฎหมายภายในระยะเวลา 120 วัน ได้ทันหรือไม่  เพราะแรงงานต่างด้าวเหล่านี้ต้องกลับไปยังประเทศของตนเพื่อทำเรื่อง และผ่านเข้าสู่กระบวนการอย่างถูกต้อง  ซึ่งอาจต้องใช้เวลา 1 – 2 เดือน  และมีค่าใช้จ่ายประมาณคนละ 20,000 บาท สิ่งที่รัฐบาลควรดำเนินการในขณะนี้ก็คือเร่งเจรจากับประเทศเพื่อนบ้าน  เพื่อลดขั้นตอนในกระบวนการเข้าสู่ระบบแรงงานต่างด้าวที่ถูกกฎหมาย รวมทั้งเร่งเจรจาแก้ไขกฎเกณฑ์ต่างๆ เพื่อขจัดข้อยุ่งยากต่างๆ รวมทั้งระยะเวลาในการดำเนินการให้ถูกต้องเป็นไปอย่างรวดเร็ว เพื่อให้แรงงานต่างด้าวที่ทำงานในไทยอยู่แล้วสามารถกลับเข้ามาทำงานกับนายจ้างคนเดิมได้ เพราะถ้าต้องดำเนินการตามกฎหมาย และต้องใช้เวลา 1-2 เดือนนายจ้างอาจไม่สามารถรอได้  และงานบางประเภทก็ไม่มีคนไทยสนใจจะทำ


นอกจากนั้น รัฐบาลต้องเข้มงวดไม่ให้เจ้าหน้าที่ของรัฐทุกหน่วยงานเข้าไปหาประโยชน์โดยมิชอบจากการบังคับใช้กฎหมายตาม พ.ร.ก.ฉบับนี้  เพราะถ้าปล่อยปละละเลยให้มีการหาประโยชน์จากแรงงานต่างด้าวผิดกฎหมาย  และนายจ้างที่จ้างแรงงานต่างด้าวผิดกฎหมายเวลานี้จะยิ่งซ้ำเติมสถานการณ์ให้เลวร้ายหนักขึ้น  เนื่องจากขณะนี้ผู้ประกอบการต่างๆ ก็ได้รับผลกระทบจากปัญหาเศรษฐกิจอยู่แล้ว



ภาพ Facebook: องอาจ คล้ามไพบูลย์