พ่่อแม่เด็กช่างกลโดน ตร.ยิงตาย ขอ กทม. ตรวจสอบกล้องวงจรปิดเชื่อลูกชายบริสุทธิ์ ด้าน รอง ผบก.น.3 พร้อมให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย
จากกรณีตำรวจชุดปราบปรามยาเสพติด บก.น.4 จับกุมผู้ต้องหาคดียาเสพติด 5 คน โดยควบคุมตัวไว้บนรถกระบะแต่ระหว่างทางพบเจอกับกลุ่มเด็กเทคโนชื่อดังย่านมีนบุรี ขี่รถ จยย.กลับจากงานเลี้ยงสังสรรค์วันคล้ายวันสถาปนาสถาบัน ก่อนจะใช้ปืนยิงเข้าใส่กลุ่มตำรวจที่คอยดูแลรถกระบะ กระสุนถูกที่หน้าขาของเจ้าหน้าที่นายหนึ่งได้รับบาดเจ็บ จนเกิดการยิงต่อสู้กันขึ้น กระทั่งนายเอกชัย บุญรัตน์ อายุ 22 ปี นักศึกษาสถาบันเทคโนชื่อดัง ถูกกระสุนของเจ้าหน้าที่เสียชีวิต ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น
ล่าสุดเมื่อวันที่ 12 ก.พ. ที่สำนักงานพิสูจน์หลักฐานกลาง สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนกองบังคับการตำรวจนครบาล 4 นำรถกระบะมาสด้า 4 ประตู รุ่นไฮแลนเดอร์ สีเงิน ทะเบียน ษห7672 กรุงเทพมหานคร ของเจ้าหน้าที่ตำรวจที่เกิดการยิงปะทะกับนักเรียนช่างกลย่านมีนบุรี ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตเข้าตรวจหาวิถีกระสุนปืนและร่องรอยการยิงรวมถึงเก็บพยานหลักฐานอื่นๆเพิ่มเติม
พ.ต.อ.ชาญวิทย์ พุ่มโพธิ์ รอง ผบก.น.3 เปิดเผยว่า ในขณะนี้กำลังตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดที่อยู่ตรงข้ามกับบริเวณจุดเกิดเหตุ โดยมีการทำหนังสือถึงผู้รับผิดชอบและมีการส่งเจ้าหน้าที่ตำรวจลงไปตรวจสอบหาหลักฐานเพิ่มเติมในบริเวณจุดเกิดเหตุ ทั้งนี้ยืนยันว่ารถที่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจใช้ในการจับตัวผู้ต้องหาคดีค้ายาเสพติดเป็นรถส่วนตัวของทางเจ้าหน้าที่ตำรวจเอง
พ.ต.อ.ชาญวิทย์ กล่าวต่อว่า เป็นเรื่องปกติที่ฝ่ายเสียหายฝั่งผู้ตายจะรู้สึกขัดแย้งเราถึงพยายามสอบสวนให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย โดยตำรวจจะแบ่งสำนวนออกเป็น 3 สำนวน คือ 1.สำนวนการชันสูตรพลิกศพ 2.สำนวนผู้ตายต้องหาว่าพยายามฆ่าเจ้าพนักงาน และมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในความครอบครอง 3.สำนวนที่ตำรวจตกเป็นผู้ต้องหาร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยเจตนาโดยอ้างว่าปฏิบัติตามหน้าที่ ซึ่งขณะนี้ได้รับคำร้องทุกข์ทั้ง 3 สำนวนไว้แล้ว อยู่ในขั้นตอนของการแจ้งข้อกล่าวหา
ขณะเดียวกันในวันที่ 12 ก.พ. พ่อของผู้ตายได้ประสานงานกับ กทม. เพื่อขอตรวจสอบกล้องวงจรปิดเยื้องจุดเกิดเหตุด้วยตัวเอง เพราะเชื่อว่า ลูกชายเป็นผู้บริสุทธิ์ ไม่ได้เป็นตามที่ตำรวจกล่าวอ้าง
พล.ต.ต.ทิวธวัช นครศรี ผู้บังคับการกองพิสูจน์หลักฐานกลาง(ผบก.พฐก.) กล่าวว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างการปฏิบัติหน้าที่และรวบรวมพยานหลักฐานของเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน เพื่อส่งมอบให้กับพนักงานสอบสวนในคดี โดยเบื้องต้นยังไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้ ขอเวลาในการทำงานจึงจะทราบข้อเท็จจริง
