ตำรวจปราบปรามยาเสพติด เปิดยุทธการ X-RAY อ.เชียงดาว บุกค้นพืนที่เป้าหมาย 23 จุด อายัดทรัพย์สิน 1,000 ล้านบาท
เมื่อวันที่ 11 ก.พ. กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด (บช.ปส.) เจ้าหน้าที่ตำรวจภูธรภาค 5 และเจ้าหน้าที่ศูนย์ปฏิบัติการพิเศษเขตพื้นที่ 5 เจ้าหน้าที่ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) เจ้าหน้าที่สรรพากร รวมไปถึงฝ่ายปกครอง จ.เชียงใหม่ เข้าตรวจสอบบ้าหลังหนึ่งหมู่ที่ 8 ต.ปิงโค้ง อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่ ของนางเอ(ขอสงวนชื่อจริง) อายุ 51 ปี หลังถูกชัดถอดจากลุ่มค้ายาเสพติดที่เจ้าหน้าที่ตำรวจ บช.ปส.จับกุมว่าเป็นคนบงการและเชื่อมโยงเครือข่ายมันทุกเม็ด จากการตรวจภายในบริเวณบ้านของนางหลี่ มีบ้านทั้งหมด 3 หลัง ด้านหน้าเป็นบ้านหลังเล็ก มีกล้องวงจรปิด บริเวณหน้าบ้านเพื่อตรวจสอบความเคลื่อนไหวของคนที่เข้ามา ส่วนพื้นที่ถัดไปเป็นโรงงานขนาดเล็กคัดแยกส้ม และมีบ้านหลังขนาดกลางอยู่ ถัดออกไป ส่วนบ้านหลังใหญ่มูลค่าประมาณ 3 ล้านอยู่ด้านในบริเวณข้างๆมีทางเข้าถ้ำได้
จากการตรวจค้นของเจ้าหน้าที่พบอาวุธปืนไทยประดิษฐ์ 1 กระบอก เครื่องเงิน และเงินสดจำนวนหนึ่งจึงอายัดไว้ตรวจสอบพร้อมกันนี้ได้ยึดรถยนต์ เอกสารและสมุดบัญชีไปตรวจสอบความเคลื่อนไหวทางการเงิน รวมถึงได้อายัดบ้านทั้งหมดไว้ตรวจสอบ นอกจากนี้ทางเจ้าหน้าที่ยังได้มีการกระจายกำลังเข้าตรวจค้นบ้านเป้าหมายจำนวน 17 จุด ในพื้นที่ อ.เชียงดาว อ.ดอยหล่อ อ.แม่แจ่ม อ.ดอยสะเก็ด และอ.เวียงแหง จ.เชียงใหม่ ในพื้นที่เชียงราย 2 เป้าหมาย ลำพูน 1 เป้าหมาย ตาก 3 เป้าหมาย เพชรบูรณ์ 1 เพื่อตรวจสอบหลักฐานและเพื่อขยายผลการดำเนินการทางมาตรการทำลายโครงสร้างอิทธิพลของเครือข่าย ทั้งทางด้านทรัพย์สิน มาตรการทางภาษี และการขยายผลเครือข่ายข้ามชาติที่เกี่ยวข้องต่อไป
พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน รอง ผบ.ตร. กล่าวว่า การปฏิบัติการในครั้งนี้เป็นการเข้าปฏิบัติต่อกลุ่มที่ทำหน้าที่ในการจัดหาผู้ขนหรือลำเลียงยาเสพติดจากพื้นที่ตอนบน ลงไปยังพื้นที่ตอนใน โดยในห้วงเดือน ธ.ค. 2561 และเดือน ม.ค. 2562 บช.ปส.ได้เข้าปฏิบัติการในพื้นที่ทางตอนเหนือ คือ อ.แม่สอด จ.ตาก และ อ.เวียงแก่น จ.เชียงราย โดยการปฏิบัติการทั้ง 2 ครั้งเกี่ยวเนื่องทั้งกลุ่มนายทุน กลุ่มประสานงาน และกลุ่มที่ทาหน้าที่ลำเลียงยาเสพติด โดยเฉพาะกลุ่มเครือข่ายในพื้นที่ อ.เวียงแก่น จ.เชียงราย ถือเป็นบุคคลสำคัญในลำดับต้นๆของกลุ่มชาติพันธุ์ ที่ทำหน้าที่ในการประสานกับฝ่ายเจ้าของยาเสพติด และฝ่ายที่จะต้องมาทำหน้าที่ในการรับจ้างลำเลียง โดยกลุ่มเหล่านี้จะใช้บุคคลในเครือญาติที่ใกล้ชิดสนิทสนมกัน เพื่อเป็นการรักษาความลับและเป็นการทางานเป็นทีม โดยเฉพาะกลุ่ม อ.เวียงแก่น จ.เชียงราย, อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่, อ.ปง จ.พะเยา, อ.แม่สอด จ.ตาก, อ.เขาค้อ จ.เพชรบูรณ์ ซึ่งส่วนใหญ่จะรวมเป็นกลุ่มเครือญาติกัน
จากการจับกุมของหน่วยต่างๆ ทั้งตำรวจภูธรภาค 5 ตำรวจภูธรภาค 1 ตำรวจนครบาล ตำรวจภูธรภาค 8 ตำรวจภูธรภาค 9 และกองบัญชาการตารวจปราบปรามยาเสพติด ได้ทำการขยายผลโดยวิเคราะห์จากแผนประทุษกรรม คำให้การของผู้ต้องหา หลักฐานอื่นๆที่ได้จากการปิดล้อมตรวจค้น ของ บช.ปส. อย่างต่อเนื่อง ทำให้พบว่ากลุ่ม ต.ปิงโค้ง อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่ คือกลุ่มที่ทำหน้าที่ในการลำเลียงยาเสพติดรายสำคัญ เชื่อมโยงกลุ่มเครือข่ายทางเครือญาติในแต่ละพื้นที่ของกลุ่มชาติพันธุ์ ที่ได้มาร่วมกันกระทำความผิดโดยมีการแบ่งหน้าที่กันทำอย่างเป็นระบบ ทั้งฝ่ายติดต่อประสานงาน ฝ่ายจัดหาอุปกรณ์เครื่องมือเครื่องใช้ผลิตผลทางการเกษตร อำพราง ยานพาหนะ ฝ่ายขนลำเลียง ทีมทำหน้าที่ด้านการเงิน ทีมถือครองทรัพย์สินแทน และทีมฟอกเงิน สำหรับยุทธการ X-RAY อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่ ได้ทำการสนธิกำลังเข้าจับกุมตรวจค้นยึดทรัพย์ทั้งสิ้น 23 จุด ทั้งในพื้นที่ จ.เชียงใหม่ และพื้นที่ใกล้เคียง รวมมูลค่าทรัพย์สินที่อายัดมูลค่าประมาณ 1,000 ล้านบาท