เจาะใจ “คิม ไทยแลนด์” จบ ม.3 เป็นเถ้าแก่ 100 ล้าน

2019-02-10 20:55:45

เจาะใจ “คิม ไทยแลนด์” จบ ม.3 เป็นเถ้าแก่ 100 ล้าน

Advertisement

เจาะใจ “คิม ไทยแลนด์” จบแค่ ม.3 ประสบความสำเร็จเป็นเถ้าแก่ 100 ล้านก่อนวัย 40 ปี เจ้าตัวนิยมสะสมเหรียญหลวงพ่อคูณ พญาครุฑ หลวงพ่อวราห์ เชื่อว่าประสบความสำเร็จ เพราะคิดดี ทำดีตามที่ท่านสอน เผยลูกเห็น “ คิม จ็อง อึน” ผู้นำเกาหลีเหนือในทีวีถามปะป๊าไปทำอะไรในนั่น เลยนึกสนุกตัดชุดใส่เหมือนตัวจริง วางแผนไปเที่ยวโชว์ตัวเวียดนามช่วงผู้นำเกาหลีเจรจาทรัมป์ 


เมื่อวันที่ 10 ก.พ. ที่บ้านเลขที่ 666 ถนนสุขุมวิท อ.เมือง สมุทรปราการ ผู้สื่อข่าวเดินทางไปพบนายอุเทน เหลืองแสงทอง หรือ ริช ปากน้ำ อายุ 41 ปี ผู้จัดการบริษัท ริช นีออนไลท์ จำกัด ธุรกิจด้านสื่อป้ายโฆษณา ผู้ซึ่งมีใบหน้าบุคลิกท่าทางนายคิม จ็อง อึน ผู้นำของเกาหลีเหนือ

นายอุเทน หรือ คิม ไทยแลนด์ เปิดเผยเรื่องราวว่า ต้องย้อนกลับไปประมาณ 5 ปีที่แล้ว ได้เห็นข่าวทางโทรทัศน์ออกข่าวผู้นำเกาหลีเหนือ เรารู้สึกว่าหน้าเราแลดูคล้ายๆ คนนี้เหมือนกันนะ พอมาระยะปีสองปีหลังลูกๆ เห็นข่าว คิม จ็อง อึนใน ทีวีก็ทักว่าปะป๊าไปทำอะไรในนั่นล่ะ ตนก็นึกสนุกบอกลูกๆ ไปว่า พ่อไปออกข่าวน่ะ ต่อมามีโอกาสไปงานปีใหม่ที่ห้างพันทิป งามวงศ์วาน ได้ตัดผมและแต่งชุดคล้ายๆ ผู้นำเกาหลีไปเดินร่วมงานด้วย คนอื่นๆ ในงานก็พากันมาทักทายชมกันว่าเหมือนจริง


นายอุเทน กล่าวต่อว่า เมื่อเห็นคนมีความสุขเลยนึกสนุกบ้าง คราวนี้ได้ไปสั่งตัดชุดเสื้อ กางเกงคล้ายกับที่ผู้นำเกาหลีเหนือใส่ ครั้งแรกสั่งร้านเสื้อสูทตัดมา 1 ชุดก่อน แก้ไปแก้มาเสร็จเอามาลองใส่เทียบดูก็ยิ่งใกล้เคียงมากเข้าไปอีก มานั่งนึกๆ ดูว่าถ้าเราต้องไปที่ต่างๆ อากาศร้อนเหงื่อออกก็ต้องส่งซักแห้ง เลยให้ร้านสูทตัดเพิ่มมาอีก 2 ชุดรวมเป็น 3 ชุดแล้ว


“4-5 เดือนที่แล้วใส่ชุดนี้ไปร่วมงานของกลุ่มเพื่อนๆ ที่ขับขี่รถ จยย.ฮาร์เล่ย์ เดวิดสันกัน ทุกคนเห็นก็พากันเรียกตนว่า คิม ไทยแลนด์ จึงเป็นที่มาของฉายาดังกล่าว มีคนถามว่าผมกับท่านประธานคิม เกาหลีเหนือใครเหมือนใคร ผมก็บอกว่า อายุผมปีนี้ 41 ปี ส่วน คิม จ็อง อึน เกาหลีเหนือปัจจุบันอายุ 35 ปี ผมเกิดก่อน 6 ปี จะเรียกว่าเป็นฝาแฝดเขาหรืออะไรก็ว่ากันไป มันอาจจะเป็นความบังเอิญที่มีใบหน้าไปคล้ายคลึงกัน”นายอุเทน กล่าว


นายอุเทน กล่าวอีกว่า เวลาไปไหนมาไหนก็จะมีคนมองเสมอแม้จะไม่ใส่ชุดที่สั่งตัดมาก็ตาม ส่วนใหญ่คนมักจะแค่มองๆ กันไม่ค่อยกล้าเข้ามาทักทายอะไร เพราะบุคลิกคิม จ็อง อึน เขาไม่ค่อยยิ้ม ทำให้คนเกรง ตนเองไปเที่ยวห้างกับลูกๆ ก็สนุกสนานกัน พอมีคนเข้ามาทักทายและขอถ่ายรูปตนก็ยินดีให้ถ่ายเซลฟี่ได้ไม่ขัดข้อง เมื่อมีคนแรกขอถ่ายได้ คนอื่นๆ ที่เห็นและยืนดูก็จะทยอยมาขอถ่ายกันทุกราย เป็นอย่างนี้ประจำ ตนและลูกๆ ก็รู้สึกมีความสุขว่าเราเป็นเหมือนคนดังมีคนมาขอถ่ายรูปด้วย ยินดีและเต็มใจที่ได้แบ่งปันความสุขให้คนอื่น มีอยู่ครั้งหนึ่งเดินทางไปมาเก๊า ฮ่องกง คนจีนเห็นไม่มีใครเกรงใจเลย คิดว่าเป็นเป็น คิม จ็อง อึน ตัวปลอมของฮ่องกงซะอีก พากันมาของถ่ายรูปกันเต็มไปหมด จนต้องวิ่งหนี ไม่งั้นก็ไม่ได้เข้าพักโรงแรมซะที




สำหรับธุรกิจป้ายโฆษณาที่ทำอยู่ทุกวันนี้ นายอุเทน เล่าว่า ตัวเองเรียนหนังสือไม่เก่ง จบแค่มัธยมปีที่ 3 รร.วัดสระเกศ สมัยนั้นยังเด็กคิดว่า แค่มีเสื้อวินมาขับวิน จยย.รับจ้างก็อยู่ได้แล้ว ประสบอุบัติเหตุขาหัก 2 ข้าง ผ่านมา 1 ปี คุณพ่อส่งไปช่วยงานคุณลุงที่เชียงใหม่ ซึ่งเป็นร้านรับจ้างทำป้ายโฆษณาอยู่ย่านตลาดสมเพชร ช่วยงานคุณลุงทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็นด้านผลิต ด้านบัญชี การตลาด ติดต่อลูกค้า เหมือนกับเราเป็นเจ้าของร้านเองเลย ทำให้เราได้รับประสบการณ์ตรงนั้นมาครบวงจร อยู่ช่วยงานคุณลุงอยู่ 2 ปี ก็กลับมาเปิดร้านเองที่ถนนสุขุมวิท สำโรง สมุทรปราการแห่งนี้ ทำเป็นกิจการของครอบครัว แรกๆ ก็เช่าตึกอื่นขึ้นป้ายโฆษณาขนาดใหญ่บนหลังคาตึก มีกำไรก็ขยับขยายซื้ออาคารพาณิชย์เป็นของเราเองเพื่อติดตั้งป้ายเอง เอาไว้รับงานโฆษณา ช่วงสิบปีก่อนธุรกิจอสังหาริมทรัพย์หมู่บ้านต่างๆ บูมมาก มาใช้บริการเราเต็มหมดทุกป้าย ปัจจุบันก็ลดๆ ลงไป


นายอุเทน กล่าวด้วยว่า รายได้ทั้งหมดตนมอบให้คุณแม่เป็นคนบริหารจัดการเป็นกงสีของครอบครัว ตนมีพี่น้องที่ช่วยกันทำงานบริษัทนี้ 3 คน พี่ชายคนโตจบปริญญาตรี รามคำแหงมหาวิทยาลัย ตนจบ ม.3 น้องชายจบ ม.6 แต่งานแล้วอยู่กับภรรยา มีบุตร 3 คน ชาย 2 หญิง 1 คน รายได้ที่หาได้จากการทำธุรกิจสื่อโฆษณานี้ตนทำมาประมาณ 10 ปีกว่า เริ่มต้นจากศูนย์ ปัจจุบันมีทรัพย์สินรวมๆ ประมาณ 100 ล้านบาท สามารถพูดได้เต็มปากว่าประสบความสำเร็จในชีวิตด้วยวัยแค่ยังไม่เต็ม 40 ปี สิ่งที่ทำให้ตนประสบความสำเร็จในเวลารวดเร็วเพราะถือหลักคิดดี ทำดี ทุกสิ่งทุกอย่างในชีวิตก็มีแต่สิ่งดีๆ ตนไม่ถึงขั้นเรียกว่าเป็นเซียนพระเครื่อง แค่นิยมสะสมพระเครื่องหลวงพ่อคุณ มีสะสมอยู่จำนวนหนึ่ง ที่ภูมิใจมีไว้บูชาคือเหรียญหลวงพ่อคุณ รุ่นเจริญพร ปี 2536 เนื้อทองคำ ด้านหลังหลวงพ่อคูณท่านเมตตาจารด้วยตัวท่านเอง มีเพียง 9 เหรียญ เหรียญที่ตนครอบครองบูชาอยู่จะตอกเลข 1 ไว้ ส่วนเหรียญอื่นอีก 8 เหรียญจะไม่มีกาตอกเลข คนในวงการที่เลื่อมใสศรัทธาในหลวงพ่อคูณ จะรู้และยอมรับกัน ตนเป็นที่มาของชื่อในวงการว่า “ริช ปากน้ำ” นอกจากนั้นก็สะสมพญาครุฑ ของพระอาจารย์วรา หลวงพ่อวราห์ ปุญฺญวโร วัดโพธิทอง มีไว้บูชาอยู่หลายองค์ บูชามากว่า 20 ปี ที่พกติดตัวเสมอก็เป็นพญาครุฑ ล้างอาถรรพ์ รุ่นแรกเนื้อทองคำ


นายอุเทน กล่าวอีกว่า เป็นคนง่ายๆ ไม่เรื่องมาก กินอาหารได้ทุกอย่าง เหล้าไม่กิน บุหรี่ไม่สูบ ดื่มเพื่อเข้าสังคมจิบๆ นิดหน่อยพอได้เพราะเคยไปงานเลี้ยงเพื่อนที่รู้จักต้องบอกคนอื่นแทนไม่งั้นเขาจะหาว่าเราหยิ่ง ส่วนการพนันไม่เล่น เพราะเคยเข้าบ่อนแทงไฮโลจนเงินหมด เหลือธนบัตร 20 อยู่ใบเดียว เอาไปแทงไพ่ ได้เงินกลับมาหลายพัน แต่พอกลับไปแทงไฮโลอีกก็โดนเจ้ามือกินเรียบอีกตามเดิม จึงรู้ตัวว่าไม่มีดวงด้านการพนัน ตั้งแต่นั้นไม่เล่นอีกเลย





นายอุเทน กล่าวด้วยว่า สำหรับรถจักรยานยนต์ยี่ห้อ Harley-Davidson Road Glide ปี 2018 ซึ่งเป็นตัวท็อปสุดของฮาเลย์ ราคา 2,866,000 บาท เมื่อ10 มิ.ย.2561 เอามาตกแต่งเพิ่มหมดเงินไปอีกเกือบ 300,000 บาท รวมมูลค่าทั้งสิ้นประมาณ 3 ล้านบาท ซึ่งมีปัญหาเครื่องยนต์มีกลิ่นเหม็นไหม้น้ำมันเครื่องจนต้องไปร้องเรียน สคบ.เมื่อวันที่ 8 ก.พ.นั้น นายอุเทน หรือ คิม ไทยแลนด์ กล่าวว่า เป็นรถจักรยานยนต์ฮาเลย์ฯ คันที่ 4 แล้ว ตนซื้อมาใช้ขับขี่ไปเที่ยวต่างจังหวัดกันมีเพื่อนๆ ร่วมกลุ่ม “HD SAMUT PRAKARN” ที่มีพี่เอ๋ ชมสวัสดิ์ อัศวเหม เป็นประธานกิติตมาศักดิ์ เหตุผลที่ตนเลือกใช้รถยี่ห้อนี้เพราะเราคำนึงถึงความปลอดภัยเป็นหลัก แม้ราคาสูงแต่เทียบกับสมรรถนะของรถจักรยานยนต์อื่นแล้วฮาเลย์ฯ เหนือกว่าทุกด้าน แต่เมื่อมาเจอปัญหานี้ ก็เลยต้องไปพึ่ง สคบ.เป็นตัวกลางในการเจรจาก่อนอันดับแรก ถ้ายังตกลงกันไม่ได้อาจจะต้องให้ทนายความยืนฟ้องร้องศาลเป็นอันดับต่อไป



นายอุเทน กล่าวว่า เคยเจอพี่หม่ำ จ๊กม๊ก เข้าไปขอถ่ายรูปกับแกๆ เห็นก็ชอบใจบอกเหมือนจริงๆ ก่อนจะขอเบอร์ติดต่อเอาไว้ เผื่อมีโอกาสจะได้ชวนไปเล่นหนังด้วย สำหรับเป้าหมายของตนก็อยากจะเลียนแบบ คิม จ็อง อึน ไปเรื่อยๆ แบบนี้สนุกดี ไม่ต้องทำอะไรมาก ยืนนิ่งๆ ไม่ต้องยิ้ม ยกมือท่าแบบผู้นำเกาหลีเหนือ แค่นี้คนก็มีความสุข เป็นการแบ่งปันความสุขให้คนอื่นคืนสังคม



นายอุเทน กล่าวอีกว่า เป้าหมายชีวิตเวลานี้ กำลังวางแผนกับเพื่อนๆ ว่าจะไปเที่ยวเวียดนามกันอยู่พอดี ซึ่งเห็นข่าวล่าสุดการเจรจาระหว่างผู้นำเกาหลีเหนือ นายคิม จอง อึล กับ โดนัลด์ ทรัมป์ กำหนดไว้ ปลายเดือน ก.พ.ที่เวียดนาม หากมีโอกาสก็อาจจะได้ไปประกาศความเป็น คิม ไทยแลนด์ ให้สื่อมวลชนที่นั่นเป็นสีสันข่าวได้บ้าง สำหรับเรื่องการเมืองก็สนใจอยู่บ้าง วันก่อนเดินกลับขึ้นรถผ่านหน้า กกต.พอดี มีสื่อฯมาขอถ่ายรูปและสัมภาษณ์ก็บอกไปว่ามีพรรคเป็นของตัวเองคือ พรรคนิวเคลียร์ เพื่อนๆ ช่วยกันคิดและตั้งให้ทำภาพอินโฟกราฟฟิคออกมาโพสต์เฟซบุ๊กสนุกๆ ขำๆ ที่เลือกชื่อนิวเคีลยร์เพราะมันครอบคลุมหมด ไม่ว่าจะเป็น ระเบิด ปรมาณู ขีปนาวุธ เรือดำน้ำ โดยมีนโยบายพรรคขำๆ ว่า 1.ใครยืมเงิน ไม่จ่าย...ยิง 2.ใครไม่ไลท์ เฟซบุ๊ก...ยิง 3.ใครไม่แชร์...ยิง 4.ใครหน้าตาหล่อกว่า...ยิง 5.ใครกวนTeen ในเฟซบุ๊ก...ยิง 6.ใครไม่รักท่านผู้นำ...ยิง หมายเลข 168 วันที่ 30 ก.พ. พบกัน ประเทศผมมี แล้วเราจะโดนปรับทัศนคติไปด้วยกัน”



อันนั้นทำมาเอาสนุกสนานฮาๆ ขำๆ กัน แต่ขอฝากถึงประชาชนพี่น้องชาวไทยทั่วประเทศที่มีสิทธิเลือกตั้ง ว่า วันที่ 24 มี.ค.นี้ประเทศเราจะมีโอกาสเลือกตั้ง หลังจากโดนยึดอำนาจไปกว่า 5 ปี เมื่อมีโอกาสก็ขอให้ออกไปใช้สิทธิใช้เสียงกัน อย่านอนหลังทับสิทธิ จะเลือกพรรคไหนก็ได้มีใครว่ากัน เพราะเราเคารพในความคิดเห็นไม่ว่าจะเหมือนกันหรือเห็นต่าง