“สุเทพ” ระบุเดินคารวะแผ่นดินมาแล้ว 72 จังหวัด ทุกจังหวัดบอกเป็นเสียงเดียวกันเศรษฐกิจชาวบ้านย่ำแย่ มีปัญหาแทบยืนไม่อยู่ จนมาก ลำบากมาก
เมื่อวันที่ 9 ก.พ. ผู้สื่อข่าวรายงานจาก จ.บึงกาฬ ว่า นายสุเทพ เทือกสุบรรณ แกนนำผู้ก่อตั้งพรรครวมพลังประชาชาติไทย (รปช.) เดินคารวะแผ่นดิน คารวะประชาชน วันที่ 81 กล่าวตอนหนึ่งในระหว่างพบปะกลุ่มเกษตรกรผู้ปลูกยางพารา ที่ บ้านป่าแฝก ต.ป่าแฝก อ.พรเจริญ จ.บึงกาฬ ว่า เรามาพูดคุยกันสวนยาง ตนก็เกิดในสวนยางพ่อแม่ทำสวนยางตอนเด็กๆยางพารากิโลละ 25บาท เมื่อ 60 กว่าปีก่อน วันนี้ราคาเท่าเดิม วันนี้เดินมาแล้ว 72จังหวัด ทุกจังหวัดบอกเสียงเดียวกันว่า เศรษฐกิจชาวบ้าน ย่ำแย่ กำลังมีปัญหาอย่างมากแทบจะยืนไม่อยู่ จนมาก ลำบากมาก คนที่บ่นเสียงดังคือเจ้าของสวนยางทั้งหลาย ตนเข้าไปในตลาดสด เดินทุกตลาด ทุกอำเภอ ทุกจังหวัด ที่ไป แม่ค้าก็บอกว่า ลุงกำนันของขายไม่ได้ เมื่อก่อนเคยขายได้วันละ 400-500 บาท เดี๊ยวนี้เหลือ200 ตามห้องแถวก็บ่น ร้านทองก็เงียบมีแต่คนเอาทองไปขาย เครื่องเรือน กระเบื้อง วัสดุก่อสร้างฮวบเลย ทุกอย่างสิ่งที่จำเป็นในชีวิตขายไม่ได้ ยอดขายต่ำลง เดินไปร้านขายยา ถามเขาว่า ร้านขายยาคงไม่กระทบเพราะเป็นของจำเป็นเจ้าของบอกน้อยลงเหมือนกัน ขนาดหมอเขียนในสั่งยาวันละ3 มื้อคนไข้บอกเอาแค่สองมื้อหรือมื้อเดียวพอ เพราะไม่มีเงิน พ่อค้า แม่ค้าเรียกร้องบอกว่า ให้รีบไปช่วยเกษตรกรให้เร็ว เพราะถ้าคนพวกนี้ไม่มีเงิน ตลาดล้มหมด เจ๊งหมดเศรษฐกิจชาวบ้านพัง
นายสุเทพ กล่าวว่า ตนเป็นคนแรกที่ออกมาพูดกับสื่อว่า ขณะนี้ชาวบ้านประสบปัญหาเศรษฐกิจอย่างรุนแรง ทุกภาคส่วนในสังคมต้องช่วยกันแก้ไข และมันไม่ได้เพิ่งเกิด เมื่อเดือนเมื่อปีแล้วหรือเพิ่งเกิดเมื่อพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา มาเป็นนายกฯ มันเกิดมา8-9 ปีแล้วราคายางตั้งแต่วันที่พ้นตำแน่งรองนายกฯ ราคาก็เริ่มตกต่ำลงและตกต่ำมาเรื่อย8- 9 ปี พูดอย่างนี้เพื่อบอกว่า แล้วระหว่างนั้นนักการเมืองทำอะไรกันอยู่ ทำไมเขาไม่ขวนขวายดิ้นรนแก้ปัญหาให้พี่น้อง เพราะอะไร เพราะนักการเมืองไม่มีเวลา ยุ่งมาก ยุ่งเรื่องต้องไปแก้ปัญหาให้เจ้าของพรรคคนที่เป็นหัวหน้าของนักการเมือง คือหัวหน้าพรรค ครอบครัวหน้าพรรคต้องไปแก้ปัญหาเรื่องนั้นก่อน ไม่มีเวลามาสนใจเรื่องของประชาชน
นายสุเทพ กล่าวต่อว่า ถึงเวลาแล้วที่คนธรรมดาสามัญ ต้องคิดต้องตัดสินใจแล้ว ว่าถึงเวลาแล้วที่เราต้องเป็นเจ้าของพรรคการเมือง ตั้งพรรคการเมืองของประชาชนขึ้นมา เพราะเมื่อพรรคการเมืองเป็นของเรา นักการเมือเหล่านั้น เป็นลูกน้องเราเขา ต้องทำตามคำสั่งเราถ้าไม่ทำเราก็ไม่ส่งลงสมัครรับเลือกตั้ง เขาก็จะไม่เป็นส.ส. ไม่ได้เป็นรัฐมนตรี คนที่เป็นเจ้าของพรรคต้องลุงทุนเป็นพันล้าน หมื่นล้าน และลองคิดดูว่าส.ส.ประเทศไทยวันนี้มี 350 เขต พรรคการเมืองที่ต้องส่งคนลงสมัครรับเลือกตั้งคนหนึ่งใช้เงิน 30 - 40 ล้าน ดังนั้นพรรคการเมืองต้องใช้เงินเป็นพันล้านหมื่นล้าน ชนะเลือกตั้งมาได้เป็นรัฐบาล เป็นรัฐมนตรีก็มาถอนทุนคืน มันก็โกงประเทศ ไม่เฉพาะเอาทุนคืนอย่างเดียวมันเอากำไรด้วย การเมืองถึงเลวร้ายชีวิตพวกเราจึงไม่ดีขึ้น