เผยหุ่นล้อการเมือง ฟุตบอลจุฬาฯ-ธรรมศาสตร์ ครั้งที่ 73

2019-02-09 17:30:52

เผยหุ่นล้อการเมือง  ฟุตบอลจุฬาฯ-ธรรมศาสตร์ ครั้งที่ 73

Advertisement

เป็นประจำทุกปีสำหรับหุ่นล้อการเมืองฟุตบอลประเพณีจุฬา-ธรรมศาสตร์ ครั้งที่ 73  ที่จะเป็นธรรมเนียมก่อนเริ่มการแข่งขันฟุตบอล ที่จะมีหุ่นล้อการเมือง โดยหุ่น 4 ชุด จาก มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์  มีดังนี้


นำขบวนหุ่นด้วยมาสคอตล้อฯ "ฮาคีม" ชายร่างสูงถือลูกบอลเข้าสนาม ทว่าใส่ชุดสีน้ำตาลแก่ๆ และคล้องโซ่ที่ข้อมือ เราไม่ได้เพียงแต่จะล้อผู้เชิญลูกบอลเข้าสู่สนามศุภชลาศัย แต่แท้จริงแล้วเรากำลังแสดงให้ทุกท่านเห็นว่า มีนักฟุตบอลคนหนึ่งต้องมาไร้อิสรภาพในเมืองไทยทั้งๆ ที่ไม่ได้ทำอะไรผิด และเป็นผู้ลี้ภัยที่ได้การคุ้มครองจากประเทศอื่น



เรากำลังพูดถึงนักฟุตบอลสัญชาติบาห์เรน เล่นในตำแหน่งกองหลัง ที่ปัจจุบันลี้ภัยอยู่ในออสเตรเลีย และเล่นฟุตบอลอยู่ในประเทศนั้น แต่ขณะที่เขามาเที่ยวกับภรรยาในประเทศไทย เขากลับถูกจับกุมเป็นนักโทษ และถูกกล่าวหาในความผิดที่เขาไม่ได้ก่อ ในขณะนี้ชะตากรรมของเขากำลังแขวนอยู่บนเส้นด้าย ระหว่างการกลับไปเผชิญโทษเดนตายที่บาห์เรน กับได้รับอิสรภาพอีกครั้งและกลับไปเล่นฟุตบอลอันเป็นชีวิตของเขา เช่นเดียวกับนักฟุตบอลอีกจำนวนมากที่กำลังรอลงสนามสู่งานฟุตบอลประเพณี

ล้อการเมืองฯ มีความเห็นว่าหากประเทศไทยได้ส่งเขากลับไปยังดินแดนอันเป็นที่ๆเขาหนีตายมานั้น ต่อไปนี้ไทยคงไม่ใช่ที่สำหรับผู้ “หนีร้อนมาพึ่งเย็น” เป็นแน่แท้ และภาพลักษณ์ของไทยทั้งในด้านมนุษยธรรมกับด้านกีฬา คงจะด่างพร้อยไปอีกนาน หรือหากจะเห็นว่าชีวิตของผู้ลี้ภัยคนหนึ่งเป็นเพียง “เครื่องมือ” ในเกมระหว่างประเทศ ก็สุดแท้แต่จะรู้ว่าทางผู้มีอำนาจจะมีความคิดอย่างไรในสองทางนี้








1.Game of Trade

เมื่อช้างสารชนกัน หญ้าแพรกก็แหลกลาญ สุภาษิตนี้สามารถใช้ได้ในบริบทของการเผชิญหน้ากันของมหาอำนาจ โดยเฉพาะในปัจจุบันที่มหาอำนาจทั้งจีนและสหรัฐฯ ที่นำโดยหมีพูห์ตัวจ้ำม่ำ และกัปตันผู้มีโล่ทวิตเตอร์เป็นอาวุธตามลำดับ แต่ในโลกยุคปัจจุบันที่มหาอำนาจมักไม่เผชิญหน้ากันทางสงครามโดยตรง สงครามที่เกิดขึ้นจึงเป็นเกมเศรษฐกิจ ที่ต่างฝ่ายต่างหลบหลังกำแพงของตน และต่างออกมาตรการสารพัดมากีดกันฝั่งตรงข้าม



ดังนั้นกำแพงในที่นื้คือกำแพง “ภาษี” ที่ป้องกันไม่ให้สินค้าจากประเทศอื่นเข้ามายังประเทศของตน ส่งเสริมแบรนด์ของตัวเอง และทำลายแบรนด์อื่น แล้วนอกจากกำแพงนี้แล้ว มหาอำนาจทั้งสองยังมีกำแพงอันเป็นเอกลักษณ์ของตน กล่าวคือทางจีนมีกำแพงเมืองจีน ที่เอาไว้ปกป้องจักรวรรดิของตนจากศัตรูคนเถื่อนในอดีต ส่วนอเมริกามีกำแพงชายแดน (ที่อาจจะไม่ได้สร้าง)

การเผชิญหน้ากันทางเศรษฐกิจนี้ ก็มีเป้าหมายเพื่อแย่งชิงบัลลังก์เงิน หรือความเป็นเจ้าเศรษฐกิจของโลกใบนี้ ที่ผู้ครองบัลลังก์เก่าย่อมไม่ยอมสละตำแหน่งให้กับผู้ท้าทายง่ายๆ และการเผชิญหน้าของมหาอำนาจนี้ก็จะยังดำเนินต่อไป ส่วนบรรดาหญ้าแพรกตัวเล็กตัวน้อยย่อมกลายเป็นหมากในเกมของมหาอำนาจ ซึ่งประเทศไทยเองก็ต้องได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์นี้ด้วยเช่นกัน





2. พลัง.ประสาน.ช่วย.รัฐทหาร

เป็นเรื่องธรรมดาที่การตั้งพรรคการเมืองพรรคหนึ่ง ก็ต้องดูดนักการเมือง สส.เก่า หรือผู้กวางขวางในท้องที่ต่างๆ มาอยู่ในสังกัดของตน ทว่าในสถานการณ์ที่รัฐบาลจะหันมาเล่นเกมการเมือง พวกเขาย่อมใช้พลังทรัพยากรของรัฐที่ย่อมมหาศาลในการ “ดูด” นักการเมืองและ สส. มาได้ดีกว่า ไม่ว่าจะด้วยเงินตรา อำนาจ หรือเส้นสายที่มากกว่าพรรคอื่นๆ โดยไม่สนว่านักการเมืองเหล่านั้น จะเคยเป็นมิตร หรือเป็นศัตรู แต่ด้วยเหตุที่ผลประโยชน์สำคัญกว่าอุดมการณ์ ดังนั้นนักการเมืองเหล่านั้นจึงยอมให้โดนดูดด้วยความเต็มใจ

แม้ว่าเดิมทีจะเคยด่านักการเมืองเหล่านั้นว่าเป็น “นักการเมืองน้ำเน่า” แต่เมื่อต้องการจะเล่นเกมการเมือง ดังนั้นพรรคของเขาจึงเป็นดังเครื่องสูบขนาดยักษ์ ที่จะเอาตัวเองมาสืบทอดอำนาจเป็นรัฐบาลต่อไป เปรียบดังเครื่องสูบน้ำขนาดใหญ่ที่สูบมาอย่างไม่เลือกหน้า นอกจากพรรคตัวเองแล้ว พรรคอื่นๆที่ออกหน้าออกตาว่าสนับสนุนการสืบทอดอำนาจในครั้งนี้ ก็เป็นตัวตุ๊กตาช่วยหนุนให้พรรคพลังดูดยิ่งได้เปรียบขึ้นไปอีก และสถาบันพรรคการเมืองก็จะยิ่งห่างไกลจากอุดมการณ์ และกลายเป็นว่าใครจะดูดคนเข้าพรรคได้ดีมากกว่ากัน





3.เลือกตั้งไม่ผิด ผิดที่สัญญา

การเลือกตั้งถือเป็นปัจจัยหลักในระบบประชาธิปไตย ที่ยืนยันในหลักการที่ว่า “การปกครองโดยเสียงข้างมาก และเคารพในสิทธิของเสียงส่วนน้อย” และเพื่อให้การเลือกตั้งเป็นไปโดยบริสุทธิ์ยุติธรรมที่สุด จึงต้องมีการกำหนดกติกาขึ้น ประเทศต่างๆ อาจจะมีการเลือกตั้งที่แตกต่างออกไปในรายละเอียด แต่สิ่งหนึ่งที่นานาอารยประเทศมีร่วมกันคือกติกาที่เป็นธรรม และทำให้เสียงของประชาชนนั้นมีความหมายมากที่สุด





ทว่าในบ้านเมืองของเรา การเลือกตั้งไม่ได้เป็นการแสดงออกถึงอำนาจของประชาชน แต่กลับเป็นเครื่องมือรองรับการสืบทอดอำนาจ เป็นเหมือนกับละครที่เล่นให้คนดูว่า “ฉันมาอย่างชอบธรรมนะ” แท้จริงแล้วกลับเป็นคนละด้าน ไม่ว่าจะเป็นการผลัดวันประกันพรุ่งการเลือกตั้งไปเรื่อยๆ จากหนึ่งปีจนล่วงเลยมาเป็นสี่ปี และใช้เวลาที่ยีดยาวอยู่นั้นค่อยๆ สรรหากฏกติกาที่จะทำให้ตนเองได้เปรียบที่สุด ตัวอย่างที่เห็นได้ชัดที่สุดคือการที่รัฐบาลแต่งตั้งวุฒิสภา 250 คน เพื่อให้มาโหวตรับรองนายกฯ ที่อาจจะไม่ได้เป็นแม้แต่ สส. ที่ได้รับเลือกตั้งเข้ามา


ดังนั้นกฏดังกล่าวจึงเอื้อให้นายกรัฐมนตรีเป็นใครก็ได้ ที่บรรดา สว.เหล่านั้นเห็นชอบ และสว.เหล่านั้นก็ย่อมตอบแทนผู้ที่แต่งตั้งตนเป็น สว.ขึ้นมา กฎกติกาเช่นนี้มีแต่จะสร้างความเสียหายแก่สังคมไทยในระยะยาว และจะทำให้เราได้เห็นอะไรแปลกๆ ที่เราไม่คิดว่าจะได้เห็นในช่วงชีวิตของเรา





4.เขารัฐ ท.

อนุสาวรีย์คือสิ่งที่สร้างขึ้นเพื่อเชิดชูวีรกรรมหรือผลงานของบุคคลสำคัญในอดีต ควรค่าแก่การจดจำและรำลึกถึง อนุสาวรีย์ยังมีทั้งเชิดชูในด้านดีและด้านที่แย่ปนกันไป และมีหลากหลายรูปแบบทั้งที่เป็นรูปปั้น เป็นสิ่งก่อสร้าง หรือแม้แต่เป็นการสลักใบหน้าบนภูเขา เช่นกรณีของภูเขารัชมอร์ในสหรัฐ ที่เป็นหน้าของประธานาธิบดีทั้ง 4 ที่ทำคุณประโยชน์ให้ชาติ

แต่ทว่าหากมีอนุสาวรีย์แบบหุ่นนี้ในรัฐไทย ก็คงเป็นอนุสาวรีย์ที่ชวนให้ตั้งคำถาม เพราะแม้การสลักใบหน้าอาจเป็นการทำให้จดจำ แต่จดจำในด้านใดนั้น ก็ต้องดูที่มรดกที่เขาสร้างไว้ ซึ่งเราได้เลือกผลงานบางเรื่องมาจัดแสดงในหุ่น เช่น ม.44 ที่เป็นดังหลักศิลา ที่ให้อำนาจนายกฯ อยู่เหนือกฎหมายทั้งปวง หรือรัฐธรรมนูญฉบับที่ร่างเองกับมือ เรือดำน้ำ รถไฟจีนแดง ฯลฯ

ซึ่งมรดกที่พวกเขาทิ้งไว้ อาจจะยังไม่มากพอเท่ากับระยะเวลาที่พวกเขาอยากจะผูกขาดอำนาจ ผ่านสิ่งที่เรียกว่าแผนยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี ที่จะทำให้รัฐบาลใดๆ ที่จะเข้ามาในอนาคตนั้น ต้องอยู่ใต้การควบคุมของแผนดังกล่าว และขาดอิสระในการดำเนินนโยบายของตน และจะกลายเป็นมรดกระยะยาวอันเปรียบได้กับภูเขาที่แกะสลักบุคคลทั้งสี่เอาไว้ และจะเป็นมรดกชิ้นใหญ่อยู่คู่สังคมไทยไปอีกนานแสนนาน