"อนาคตใหม่" แถลงส่งผู้สมัคร ส.ส.ครบ 350 เขต ปาร์ตี้ลิสต์ 128 คน ชูหัวหน้าพรรคบัญชีนายกคนเดียว “ธนาธร” ชี้ผู้สมัครล้วนคนธรรมดา ไม่ใช่มาจากระบบอุปถัมภ์ ไม่มีบุญคุณต้องทดแทนใคร ลั่นเป็นกองหน้าเพื่อเปลี่ยนแปลงสังคมไทย ชักชวนทุกคนมาสร้างการเปลี่ยนแปลงร่วมกัน
เมื่อวันที่ 5 ก.พ. ที่อาคารไทยซัมมิท ทาวเวอร์ พรรคอนาคตใหม่ แถลงข่าวเปิดภาพรวมผู้สมัคร ส.ส. ทั้งหมดของพรรค โดยแบ่งเป็น ผู้สมัครแบบแบ่งเขต ส่งครบทั้ง 350 เขตทั่วประเทศ และแบบบัญชีรายชื่อ 128 คน
นายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการพรรคอนาคตใหม่ กล่าวว่า พรรคอนาคตใหม่พร้อมเป็นพรรคการเมืองขนาดใหญ่ เป็นพรรคการเมืองระดับชาติ และเป็นพรรคการเมืองทางหลักของสังคม ผู้สมัครทั้ง 478 คน โดยภาพรวมแล้ว สะท้อน 4 เรื่องสำคัญคือ 1.การสร้างรุ่นทางการเมืองใหม่ ด้วยความเป็นคนหน้าใหม่ทางการเมืองไทย และความเป็นคนรุ่นใหม่ 2.ความสำเร็จและประสบการณ์ แม้จะเป็นคนหน้าใหม่และเป็นคนรุ่นใหม่ แต่ทั้งหมดนี้ต่างประสบความสำเร็จในงาน ในแวดวงของตัวเองมาแล้วทั้งสิ้น 3.ความหลากหลายและการหลอมรวมคนทุกกลุ่มทุกเพศ ทั้งผู้ชาย ผู้หญิง เพศหลากหลาย กลุ่มชาติพันธุ์ คนพิการ และ 4.การเป็นตัวแทนของแต่ละประเด็นอย่างครบถ้วน ครบทุกแวดวงอย่างแท้จริง
นายปิยบุตร กล่าวต่อว่า ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา พรรคอนาคตใหม่อาจจะถูกจับตามองว่าเป็นพรรคใหม่ ไม่มีผู้สมัครที่เคยทำงานทางการเมือง แต่เรื่องนี้ไม่ได้ทำให้เรากลัวการทำงานทางการเมือง และในส่วนของแคนดีเดตนายกรัฐมนตรีนั้น พรรคอนาคตใหม่จะส่งรายชื่อของนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ เพียงคนเดียว เหตุผลคือ เพราะนายธนาธรมีคุณสมบัติสำหรับตำแหน่งนายกรัฐมนตรีมากที่สุดในยุคนี้คือ 1.เป็นบุคคลที่ประสบความสำเร็จในการบริหารธุรกิจ 2.มีจุดยืนประชาธิปไตยอย่าชัดเจนและพร้อมชนกับฝ่ายเผด็จการ 3.เป็นบุคคลหน้าใหม่ทางการเมือง ที่ไม่มีบาดแผลทางการเมือง ทั้งนี้ เชื่อว่าพฤติกรรมการเลือกตั้งของคนไทยเปลี่ยนไปแล้ว ประชาชนอยากเห็นความเปลี่ยนแปลง เรามั่นใจว่าพรรคอนาคตใหม่จะได้รับโอกาสให้เข้ามาเปลี่ยนแปลงประเทศ
ด้าน นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ กล่าวว่า ที่ผ่านมาการเมืองไทยถูกผูกอยู่กับระบบอุปถัมภ์แบบเดิมมาตลอด ไม่มีพรรคการเมืองใดที่กล้าแก้ไขปัญหาจากต้นตอ นี่จึงเป็นเหตุให้ตนและชาวอนาคตใหม่ร่วมกันตั้งพรรคอนาคตใหม่ขึ้นมา และวันนี้พรรคอนาคตใหม่ได้เดินทางมาสู่จุดที่ได้ผู้สมัครแบบแบ่งเขตและบัญชีรายชื่อที่ล้วนมาจากคนธรรมดา ไม่ใช่กลุ่มคนที่มาจากระบบอุปถัมภ์แบบเดิมๆ ไม่มีบุญคุณต้องทดแทนกับใคร แต่คือกลุ่มคนที่ต้องการเปลี่ยนแปลงสังคมไทย
“ความฝันของพวกเราจะเป็นจริงไม่ได้เลย ถ้าพวกเราไม่กล้าเดินออกมา ถ้าเราไม่กล้าเสี่ยง ถ้าเราคิดว่าเป็นไปไม่ได้ มันก็จะเป็นไปไม่ได้ ไม่มีความสำเร็จใดๆ ที่จะได้มาถ้าเรานั่งอยู่เฉยๆ พวกเราทุกคนที่อยู่ตรงนี้พร้อมจะเป็นกองหน้าเพื่อเปลี่ยนแปลงสังคมไทย สังคมในฝัน สังคมที่ดีกว่านี้จะเกิดขึ้นไม่ได้ถ้าเรานั่งอยู่กับบ้าน ธนาธรทำคนเดียวไม่ได้ ปิยบุตรทำคนเดียวไม่ได้ ทั้งหมดที่ผ่านมาเกิดจากคนจำนวนมากที่กล้าลุกขึ้นมาเสี่ยง ลุกขึ้นมาลงทุนลงแรงร่วมกันกับเรา ผมอยากชักชวนทุกคนให้มาร่วมกันเดินทางไปกับเรา อย่ารอการเปลี่ยนแปลง แต่ขอให้ลุกขึ้นมาสร้างการเปลี่ยนแปลงร่วมกัน” นายธนาธร กล่าว
ด้าน นายณัฐพล สืบศักดิ์วงศ์ ตัวแทนกลุ่มชาติพันธุ์ม้ง ผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคอนาคตใหม่ กล่าวว่า ตลอดเวลาที่ผ่านมาชาวม้งตกอยู่ในวังวนความขัดแย้งและปัญหาที่ถูกสร้างขึ้นจากส่วนกลางมาโดยตลอด วันนี้ปัญหาถูกนำขึ้นมาถึงบนดอยที่พวกตนอาศัยอยู่ นี่จึงเป็นเหตุให้ตนต้องหาทางออก ไม่อาจเป็นผู้ถูกกระทำรองรับปัญหาได้อีกต่อไป ด้วยการเข้ามาร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการแก้ไขปัญหา พรรคอนาคตใหม่คือพรรคที่ตอบโจทย์มากที่สุดในการเปลี่ยนแปลงสังคม สร้างความเป็นธรรมให้แก่ชนทุกกลุ่ม รวมทั้งกลุ่มชาติพันธุ์ด้วย หากได้เข้าไปเป็นผู้แทนในสภา จะเป็นตัวแทนของชาติพันธุ์ทุกกลุ่มในประเทศไทย เพราะเราคือพี่น้องกันที่เผชิญปัญหาการบังคับใช้กฎหมายที่ไม่เป็นธรรมจากส่วนกลางเหมือนกัน และจะผลักดันต่อสู้เพื่อสิทธิของกลุ่มชาติพันธุ์ไปด้วยกันกับพรรคอนาคตใหม่
ด้าน คณาสิต พ่วงอำไพ นักขับเคลื่อนสิทธิและเสรีภาพทางเพศ กลุ่มนอน-ไบนารี่ไทยแลนด์ ซึ่งเป็นผู้สมัคร ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ กล่าวว่า ในฐานะที่ต่อสู้ด้านสิทธิมนุษยชนมาตลอด การเข้ามาสู่วงการทางการเมืองเพราะเชื่อว่าอำนาจรัฐคืออำนาจในการเปลี่ยนแปลงสังคม สิ่งแรกที่ตั้งใจจะทำคือแก้กฎหมายให้บุคคลและบุคคลแต่งงานกันได้โดยไม่ระบุว่าต้องเป็นหญิงและชาย