หลายพื้นที่ของรัฐควีนสแลนด์ ทางตะวันออกของออสเตรเลีย เตรียมรับมือกับฝนตกหนักเพิ่มอีกหลายวัน ขณะที่มีการประกาศเตือนน้ำท่วมครั้งใหญ่ พร้อมกระแสลมแรง สร้างความเสียหายรุนแรง
แอนนาสตาเซีย ปาลาชชุค นายกรัฐมนตรีรัฐควีนสแลนด์ แถลงเมื่อวันอาทิตย์ว่า ปริมาณน้ำฝนในเมืองทาวน์สวิล เมืองชายฝั่ง ที่มีประชากรมากกว่า 185,000 คน มากเป็นประวัติการณ์ วัดปริมาณน้ำฝนได้ประมาณ 1,012 มิลลิเมตร ในช่วง 7 วันที่ผ่านมา ทำลายสถิติเดิมในปี 2541และคาดว่าจะมีฝนตกลงมาเพิ่มอีกในไม่กี่วันข้างหน้านี้ เขื่อนกักเก็บน้ำ ในภูมิภาคนี้ ปริมาณน้ำเพิ่มสูงในช่วงบ่ายวันอาทิตย์ สภาเมืองทาวน์สวิล เรียกร้องให้ประชาชนไปอยู่บนที่สูง เพราะทางเจ้าหน้าที่อาจต้องเปิดประตูระบายน้ำของเขื่อน เพื่อลดปริมาณน้ำในเขื่อน
เจ้าหน้าที่ท้องถิ่น กล่าวว่า มีบ้านเรือนประมาณ 20,000 หลังในเมืองทาวน์สวิล เสี่ยงที่จะได้รับความเสียหายจากน้ำท่วมครั้งนี้ ขณะที่ยังคงมีการอพยพประชาชนหลายร้อยคน ส่วนสำนักงานเขตการศึกษารัฐควีนสแลนด์ ประกาศปิดโรงเรียนในเมืองทาวน์สวิลในวันจันทร์ เนื่องจากน้ำท่วมสูง ไม่ปลอดภัยสำหรับเจ้าหน้าที่และนักเรียน
ก่อนหน้านี้ เมื่อวันศุกร์ที่ 1 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ออสเตรเลียเพิ่งประกาศว่า เดือนมกราคมที่ผ่านมา เป็นเดือนที่มีสภาพอากาศร้อนที่สุดในประวัติศาสตร์ของประเทศ ซึ่งอุณหภูมิเฉลี่ยสูงเกิน 30 องศาเซลเซียสตลอดทั้งเดือนเป็นครั้งแรก
ความร้อนทำให้เกิดไฟป่ามีผู้เสียชีวิตหลายคน และสัตว์ป่าล้มตายเป็นจำนวนมาก เช่น ม้าป่าและค้าว ในดินแดนนอร์ทเธิร์น เทร์ริทอรี ทางภาคเหนือ ความร้อนเป็นสถิติใหม่ ซึ่งทำลายสถิติเก่าในปี 2556 ขณะเกิดคลื่นความร้อนครั้งร้ายแรงที่สุดของประเทศ เป็นสิ่งบ่งบอกว่าการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศโลก รุนแรงขึ้นทุกขณะ เนื่องจากในเวลาเดียวกันนี้ พื้นที่ทางซีกโลกเหนือ ทั้งสหรัฐ แคนาดา และหลายพื้นที่ในยุโรป ต่างเผชิญกับสภาพอากาศหนาวเย็นสุดเป็นประวัติการณ์เช่นกัน