“อุตตม” เผย “บิ๊กตู่” รับเทียบเชิญ พปชร.เสนอเป็นนายกฯ แต่ขอเวลาตัดสินใจ เผยระหว่างรอตอบรับจะไม่ใช้ชื่อนายกฯไปหาเสียงก่อน
เมื่อช่วงเย็นวันที่ 1 ก.พ. ที่ทำเนียบรัฐบาล นายอุตตม สาวนายน หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ให้สัมภาษณ์หลังเข้าพบ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้า คสช. ว่า เรามาเรียนเชิญตามมติของพรรคที่จะเสนอชื่อพล.อ.ประยุทธ์ ให้อยู่ในบัญชีนายกฯในนามพรรค นำเอกสารสรุปนโยบายของพรรคประกอบการพิจารณา โดยนายกฯได้นำเอกสารไปดูและระบุว่าเมื่อพร้อมจะให้คำตอบ ขณะที่พรรคพร้อมที่จะพูดคุยหากนายกฯต้องการทราบรายละเอียดที่มากขึ้น ทั้งนี้นายกฯฝากไปถึง พปชร.ว่าให้ทำการเมืองอย่างสร้างสรรค์ เน้นการปองดอง การแข่งขันมีทุกพรรคแต่อยากเห็นทุกพรรคเน้นประโยชน์ของประชาชนเป็นสูงสุดโดยแข่งขันในกฎเกณฑ์กติกา ซึ่งบรรยากาศพูดคุยดีมาก ทั้งนี้พปชร.คาดหวังว่านายกฯจะรับคำเชิญและเรารอถึงวันที่ 8 ก.พ.นี้ได้ ส่วนการติดต่อนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี ที่พรรคมีมติจะเสนอชื่อเป็นนายกฯด้วยนั้น ต้องรอให้ท่านกลับจากตามปฏิบัติราชการก่อน จากนั้นคงจะติดต่อเพื่อไปเรียนเชิญเช่นเดียวกัน อย่างไรก็ตามในระหว่างรอการตอบรับจากพ.อ.ประยุทธ์ พรรคจะไม่นำชื่อไปใช้ในการหาเสียงก่อนแน่นอน
ผู้สื่อข่าวถามว่าแนวนโยบายของพรรคจะสอดคล้องกับนโยบายหรือแนวคิดของนายกฯหรือไม่ นายอุตตม กล่าวว่า เราเชื่อว่านโยบายของเราไม่ขัดแย้งกับสิ่งที่รัฐบาลนี้ทำมา แต่พรรคก็มีนโยบายเป็นของตัวเอง หลายส่วนเป็นของใหม่ และได้ชี้แจงหมวดหมู่และข้อมูลสนับสนุนทุกนโยบายให้นายกฯรับทราบ เพื่อประกอบการพิจารณา ต่อข้อถามว่าหาก พล.อ.ประยุทธ์ ไม่ตอบรับจะมีแนวทางหาเสียงอย่างไร นายอุตตม กล่าวว่า ให้นายกฯพิจารณาก่อน อย่าเพิ่งไปพูดว่าถ้าไม่รับ ไปพูดก่อนคงไม่เหมาะสม ต้องให้เกียรติท่านพิจารณา
เมื่อถามกรณีที่นายสมชัย ศรีสุทธิยากร สมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ ระบุว่าการใช้สถานที่ราชการเรียนเชิญพล.อ.ประยุทธ์ อาจขัดต่อระเบียบของคณะกรรมการการเลือกตั้ง นายอุตตม กล่าวว่า เราประสานคณะทำงานของนายกฯได้แจ้งให้มาพบเพื่อเรียนเชิญในสถานที่ทำงานหลังเวลาราชการแล้ว
ด้านนายสนธิรัตน์ กล่าวว่า การมาพบวันนี้เพื่อแสดงจุดยืนว่าพรรคต้องการทำอะไร มีโยบายอะไรที่เป็นรูปธรรมที่จะเชื่อมต่อกับนโยบายเดิมที่เหมาะสม โดยรวมการพูดคุยจะเน้นเรื่องเหล่านี้เป็นหลัก ซึ่งนายกฯเปิดกว้างและฝากบอกว่าพรรคใดที่จะมาเรียนเชิญก็พร้อมรับหนังสือเชิญไม่ใช่เฉพาะพรรคพลังประชารัฐ เพราะอยากเห็นการเมืองที่เปิดกว้างหากพรรคใดประสงค์จะมาเชิญก็ยินดี เพื่อให้ทุกฝ่ายช่วยกันปฏิรูปการเมืองไปสู่ประชาธิปไตย ส่วนจะตัดสินใจอย่างไรเป็นดุลยพินิจของท่าน เมื่อถามว่าคิดว่าชื่อของพล.อ.ประยุทธ์ จะขายได้ นายสนธิรัตน์ กล่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์ มีคุณสมบัติครบถ้วน เหมาะสมกับบริบทปัจจุบัน มีความรู้และประสบการณ์เป็นที่ยอมรับของประชาชน มีความซื่อสัตย์สุจริต จึงเป็นเหตุผลที่นำเสนอชื่อให้อยู่ในบัญชีนายกฯของพรรค เมื่อถามว่าพปชร.จะมีแนวทางการหาเสียงเรื่องความปรองดองอย่างไร นายสนธิรัตน์ กล่าวว่า จุดยืนของพรรคก้าวข้ามความขัดแย้ง คือต้องการแก้รากปัญหาจองสังคมไทยคือความขัดแย้ง เราจะไม่เป็นคู่ขัดแย้ง ไม่ทำตัวเป็นคู่ขัดแย้งกับใคร จะสร้างความสมานฉันท์ให้การเมืองไทยเดินหน้าต่อไปข้างหน้าอย่างราบรื่น