โรงเจปรับธรรมเนียมปฏิบัติ แก้ปัญหาควันธูปตรุษจีน

2019-01-31 11:00:11

โรงเจปรับธรรมเนียมปฏิบัติ แก้ปัญหาควันธูปตรุษจีน

Advertisement

จากปัญหาวิกฤติฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 ที่กำลังส่งผลกระทบต่อสุขภาพประชาชนอย่างเป็นวงกว้างในหลายพื้นที่ของประเทศไทย โดยเฉพาะจังหวัดราชบุรี ที่พบว่ามีฝุ่นละอองเกินค่ามาตรฐานในปริมาณสูง และเพื่อเป็นการแก้ไขปัญหา นายชยาวุธ จันทร ผวจ.ราชบุรี จึงได้มีการจัดตั้งกองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณะภัย พร้อมทั้งประกาศขอความร่วมมือจากหน่วยงานและประชาชน งดการเผาเศษวัสดุในครัวเรือนและภาคการเกษตรทุกชนิด หากฝ่าฝืนจะต้องได้รับโทษตามกฎหมาย

วันที่ 31 ม.ค. ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่สอบถามความเห็นจากชาวบ้านในเขตเทศบาลเมืองบ้านโป่ง ในกรณีที่ใกล้จะเข้าสู่ช่วงเทศกาลตรุษจีนที่ชาวคนไทยเชื้อสายจีนจะต้องจุดธูปไหว้ เผากระดาษเงินกระดาษทอง ซึ่งจะมีควันในปริมาณมาก

นายประสิทธิ์ ลิ้มอารีย์ ชาวบ้าน เปิดเผยว่า จากการที่ทางจังหวัดได้ขอความร่วมมือจากประชาชน ก็ถือว่าเป็นเรื่องดี แต่ในช่วงเทศกาลตรุษจีนที่จะถึงนี้ สำหรับตนก็ยังคงจะจุดธูป และเผากระดาษเงินกระดาษทอง ตามประเพณีเช่นเคย แต่จะลดปริมาณการเผากระดาษเงินกระดาษทองให้น้อยลง




โดยส่วนตัวแล้ว คิดว่าปัญหาวิกฤติฝุ่นละอองของราชบุรี ส่วนใหญ่เกิดจากภาคอุตสาหกรรม จากรถยนต์ รวมถึง การลักลอบเผาไร่อ้อย และนาข้าว ควันจากภาคครัวเรือนน่าจะเป็นเพียงส่วนน้อยเท่านั้น

ด้าน นายวรายุทธ ลีลากิจทรัพย์ ผู้ประกอบพิธีกรรมโรงเจบ้วนฮกตั้ว บ้านโป่ง เปิดเผยว่า โรงเจ ได้มีมาตรการลดฝุ่นควัน ตามที่ทางจังหวัดได้ขอความร่วมมือ โดยเริ่มจากการลดจำนวนกระถางธูปจากเดิม 9 ใบ ให้เหลือเพียงกระถางหลัก 1 ใบ ในส่วนของธูปที่ใช้จุดก็ลดปริมาณจาก 18 ดอก เป็นครั้งละ 3 ดอก ขณะเดียวกันทางโรงเจ ได้ประชาสัมพันธ์ทำความเข้าใจต่อศาสนิกชนให้เน้นการบูชาจากความศรัทธาด้วยจิตใจ ไม่ใช่จากควันธูป ซึ่งนอกจากจะมีผลดีต่อสุขภาพแล้ว ยังเป็นผลดีต่อภาพวาดภายในโบสถ์ ที่กลุ่มฝุ่นควันมีส่วนทำให้สีซีดจาง หม่นหมองดูไม่สวยงามไปด้วย



สำหรับในช่วงเทศกาลตรุษจีน การเซ่นไหว้บูชาเทพเจ้าและบรรพบุรุษ ด้วยการเผากระดาษเงินกระดาษทอง และข้าวของเครื่องใช้ต่างๆ ที่ทำจากกระดาษ เป็นการแสดงความกตัญญูอย่างหนึ่งตามความเชื่อ ซึ่งตนได้แนะนำให้งดการเผากระดาษเงินกระดาษทองแต่ให้เก็บแขวนบูชาไว้ เมื่อครบปีจึงจะจำเริญออก หรือหากเผา แนะนำให้เผาเพียงกระดาษเงินและกระดาษทองเท่านั้น ส่วนข้าวของเครื่องใช้ต่างๆ ไม่จำเป็นต้องเผา เพราะตามความเชื่อที่ได้สืบทอดกันมาจากอาจารย์ เงินทองที่เผาไปบรรพบุรุษสามารถนำไปซื้อสิ่งของได้ทุกอย่างแล้ว ส่วนในทางโลกแห่งความเป็นจริง ถือว่าช่วยลูกหลานประหยัดค่าใช้จ่าย และช่วยลดมลพิษต่อสิ่งแวดล้อมด้วย