ตร.เร่งล่าลูกจ้างแสบลักเพชรนายจ้างมูลค่ากว่า 10 ล้านบาท คาดไม่ได้ก่อเหตุคนเดียว อาจมีผู้ร่วมขบวนการด้วย
เมื่อวันที่ 30 ม.ค. ที่ สภ.ชัยพฤกษ์ จ.นนทบุรี พล.ต.ต.ธนายุตม์ วุฒิจรัสธำรงค์ รอง ผบช.ภ.1 พร้อมด้วย พ.ต.อ.สถิตพร บุณยรัตพันธุ์ ผกก.สภ.ชัยพฤกษ์ พ.ต.ท.อภิชาติ ทองแพ รอง ผกก.สส.สภ.ชัยพฤกษ์ เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนภูธรภาค 1 สืบสวนภูธรจังหวัดนนทบุรี สืบสวน สภ.ชัยพฤกษ์ และเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสอบสวน ประชุมเพื่อเร่งรัดคดีที่ นายไพรัช นาคสระเกษ อายุ 48 ปี เจ้าของร้านเพชรเข้าแจ้งความถูกลูกจ้างสาวอาศัยช่วงเวลาที่นายจ้างไม่ได้มาดูแลร้านเพชรใช้กุญแจไขตู้เซฟลักทรัพย์สินไปกว่า 100 รายการ มูลค่ากว่า 10 ล้านบาท เพื่อวางแนวทางในการติดตามตัวคนร้ายและรวบรวมพยานหลักฐาน เหตุเกิดที่ร้านไดมอนด์ เลิฟเวอร์ ภายในศูนย์การค้าเพียวเพลส สาขาราชพฤกษ์ หมู่ที่ 1 ต.อ้อมเกร็ด อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี โดยผู้เสียหายได้เข้าแจ้งความเมื่อวันที่ 28 ม.ค. ที่ผ่านมา
หลังประชุม พล.ต.ต.ธนายุตม์ พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดทำงาน ได้ลงตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อมทั้งตรวจสอบสภาพแวดล้อมโดยรอบและสถานที่ตั้งตู้เซฟของร้านดังกล่าว จากการตรวจสอบพบว่าสถานที่ตั้งของเซฟ ถูกตั้งในจุดที่เปิดเผยสามารถเข้าถึงได้ง่าย ประกอบกับผู้ต้องสงสัยเป็นพนักงานขายที่ร้านจึงทำให้ง่ายต่อการลักทรัพย์ดังกล่าว
พล.ต.ต.ธนายุตม์ เปิดเผยว่า ได้เร่งรัดติดตามเพื่อคลี่คลายคดีนี้ร้านดังกล่าวอยู่ในห้างเป็นจุดอันตราย ขณะนี้ได้ให้พนักงานสอบสวนทำการรวบรวมหลักฐานไปสู่การขออนุมัติหมายจับ ทางเราทราบตัวผู้ต้องสงสัยแล้ว มีการแบ่งงานทั้งสืบสวนภาค สืบสวนจังหวัด และสืบสวน สภ.ชัยพฤกษ์ ว่าใครจะต้องทำอะไรอย่างไร มีการเร่งตรวจสอบลายพิมพ์นิ้วมือและดีเอ็นเอ รวมทั้งสอบพยานข้างเคียงทั้งหมด ต้องตรวจสอบที่มาของทรัพย์สินด้วยว่ามีความเป็นมาอย่างไร รวมทั้งให้เจ้าของทรัพย์ยืนยันรูปพรรณทรัพย์สิน และอยากฝากให้ผู้ประกอบการหรือร้านเพชรที่รับซื้อจองเพชรที่หายไปจะมีความผิดด้วย ท้้งนี้ไม่ปักใจเชื่อว่าผู้ต้องหาจะก่อเหตุคนเดียวอาจมีผู้ร่วมขบวนการหรือมีผู้ร่วมกระทำผิดจะเร่งปิดคดีให้ได้โดยเร็ว