เผาสรีรสังขารหลวงพ่อคูณ น้อมส่งดวงวิญญาณสู่สรวงสวรรค์

2019-01-30 09:42:29

เผาสรีรสังขารหลวงพ่อคูณ น้อมส่งดวงวิญญาณสู่สรวงสวรรค์

Advertisement

หลังเสร็จสิ้นกระบวนพิธีขอขมาสรีรสังขารหลวงพ่อคูณ ที่ฌาปนสถานชั่วคราวนกหัสดีลิงค์เทินบุษบก พุทธมณฑลอีสาน วัดหนองแวง พระอารามหลวง จ.ขอนแก่นในพิธีพระราชทานเพลิงจริงสรีรสังขาร พระครูใหญ่พระเทพวิทยาคม (หลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ) อดีตเจ้าอาวาสวัดบ้านไร่ อ.ด่านขุนทด จ.นครราชสีมา เมื่อเวลา 18.45น. เจ้าหน้าที่ บุคลากรและนักศึกษามหาวิทยาลัยขอนแก่นได้ร่วมเคลียร์พื้นที่รอบมณฑลพิธีฐานแปดเหลี่ยม โดยนำเอาดอกไม้จันทน์ที่แต่งประดับไปกองสุมกันไว้เพื่อรอที่จะเผาไปพร้อมกับสรีรสังขารหลวงพ่อคูณ และนกหัสดีลิงค์ ครูพราหมณ์ยอดแก้ว ได้อัญเชิญยอดนพสูญ ซึ่งเป็นยอดที่อยู่สูงที่สุดของหีบสรีรสังขารหลวงพ่อคูณ ลงมามอบให้มหาวิทยาลัยขอนแก่น ซึ่งเป็นชิ้นส่วนเดียวที่จะเหลือจากพิธีกรรมนี้ เพื่อนำไปประดิษฐานในอนุสรณ์สถานหลวงพ่อคูณ

เมื่อถึงฤกษ์พิธีพระราชทานเพลิงตามกำหนดพระพรหมมังคลาจารย์ หรือเจ้าคุณธงชัย ที่ปรึกษาเจ้าคณะภาค 8 วัดไตรมิตรวรวิหาร กรุงเทพมหานคร เป็นประธานจุดเตาสรีรสังขารภายในตัวนกหัสดีลิงค์ โดยมี รศ.ดร.กิตติชัย ไตรรัตนศิริชัย อธิการบดีมหาวิทยาลัยขอนแก่น ร่วมกับ รศ.นพ.ชาญชัย พานทองวิริยะกุล คณบดีคณะแพทยศาสตร์ พล.ต.สมชาย ครรภาฉาย ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 23 นายสมศักดิ์ จังตระกุล ผวจ.ขอนแก่น นายสมศักดิ์ ปะริสุทโธ เหมธานนท์ อดีตผวจ.ตรัง ร่วมกันขึ้นประจำแท่นจุดลูกหนูเพลิง จำนวน 5 ดอก ยิงจากทิศเบื้องหน้าของนกหัสดีลิงค์เพื่อให้เผาไหม้ไล่ลงมาจากด้านบน ถึงเตาอิฐด้านล่าง ภายในตัวนกหัสดีลิงค์ ซึ่งเตาที่ใช้เผาสรีรสังขารของหลวงพ่อคูณนั้น ช่างได้นำอิฐมาผสานกันเป็นสองชั้น ในชั้นแรกเป็นชั้นที่วางหีบสรีรสังขารของหลวงพ่อคูณ และชั้นที่สองจะมีถาดสแตนเลส วางไว้รองรับเถ้าอัฐิเมื่อเผาเสร็จสิ้น

บรรยากาศในระหว่างที่ไฟกำลังลุกโชนด้วยความรุนแรง ทำให้มีไอความร้อนจากเปลวเพลิงกระจายในวงรัศมีไม่ต่ำกว่า 10 เมตร จากตัวเมรุลอยมาถึงจุดที่ตั้งไว้สำหรับรองรับแขกและผู้เกี่ยวข้อง ซึ่งกรมการป้องกันและบรรเทาสาธารณะภัย(ปภ.) ได้นำหุ่นยนต์ฉีดพ่นน้ำแรงดันสูงมาประจำไว้รอบบริเวณจำนวน 4 เครื่อง เพื่อป้องกันอันตรายจากเปลวไฟ




ขณะเดียวกันมีประชาชนจำนวนมาก ยังคงปักหลักเฝ้ารอชมพิธีพระราชทานเพลิงสรีรสังขารของหลวงพ่อคูณอย่างต่อเนื่องจนกว่าจะจบพิธี ทางเจ้าหน้าที่จึงได้ขอความร่วมมือจากประชาชนให้อยู่ในจุดที่เจ้าหน้าที่จัดเตรียมไว้ให้เพื่อความปลอดภัย ท่ามกลางการดูแลรักษาความปลอดภัยในพื้นที่ตลอด 24 ชั่วโมง

สำหรับตัวนกหัสดีลิงค์ใช้เวลาเผาเพียงเวลาประมาณ 15 นาทีเท่านั้น จึงเผยให้เห็นส่วนที่เป็นเตาเผาสรีระสังขารหลวงพ่อคูณ โดยตลอดเวลาที่ทำการพระราชทานเพลิงศพจะมีพระอาจารย์จาก จ.อุดรธานี เป็นผู้ดูแลทั้งหมดจนถึงขั้นตอนการเก็บเถ้าอัฐิสังขารหลวงพ่อคูณ ซึ่งขณะเก็บเถ้าอัฐินั้น จะมีญาติหลวงพ่อคูณ และพระสงฆ์จากวัดบ้านไร่ รวมแล้วประมาณ 10 คน คอยเป็นสักขีพยาน แต่ไม่มีใครสามารถแตะต้องหรือสัมผัสเถ้าอัฐิหลวงพ่อคูณ ได้แม้แต่คนเดียว โดยจะทำได้เพียงสังเกตการณ์เท่านั้น



อย่างไรก็ตาม หลังจากการจุดไฟพิธีพระราชทานเพลิงสรีรสังขารของหลวงพ่อคูณ ประชาชนต่างเห็นควันไฟลอยขึ้นเป็นวงกลม คล้ายกับวงแหวนของเทวดา ทำให้ทุกคนต่างพากันกราบไหว้

ส่วนสภาพอากาศโดยรวมมีท้องฟ้าปลอดโปร่ง มองเห็นหมู่ดาวได้อย่างชัดเจน ซึ่งตลอดพิธี ได้มีการโยนดอกไม้จันทน์เพื่อเติมเป็นเชื้อไฟอยู่อย่างต่อเนื่อง