“ธนาธร”พร้อมเป็นตัวเลือกที่ดี นำความเปลี่ยนแปลงสู่ กทม.

2019-01-26 20:40:53

“ธนาธร”พร้อมเป็นตัวเลือกที่ดี นำความเปลี่ยนแปลงสู่ กทม.

Advertisement

“อนาคตใหม่” เปิดตัว 30 ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.กทม. “ธนาธร” ลั่นไม่ใช่พื้นที่ใครเป็นเจ้าของ พร้อมเป็นตัวเลือกที่ดี กวาด ส.ส.เข้าสภาฯ นำความเปลี่ยนแปลงมาสู่ กทม.

เมื่อวันที่ 26 ม.ค. ที่หอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร พรรคอนาคตใหม่ จัดงาน “เปลี่ยนกรุงเทพ เปลี่ยนประเทศไทย” แถลงข่าวเปิดตัวว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.กทม.ครบทั้ง 30 เขต นำโดยนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรค นายรณวิต หล่อเลิศสุนทร รองหัวหน้าพรรค นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อ และ น.ส.พรรณิการ์ วานิช โฆษกพรรค พร้อมด้วยว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. แบบบัญชีรายชื่ออีกหลายคน


นายธนาธร กล่าวว่า จากสถิติการเลือกตั้งที่ผ่านมา กทม.คือพื้นที่ๆ ไม่เคยมีพรรคใดพรรคหนึ่งผูกขาดได้มาก่อน และเป็นพื้นที่ที่พร้อมกวาด ส.ส. เข้าสภา เพื่อสร้างความเปลี่ยนแปลง สร้างอนาคตที่ดีกว่า และวันนี้พรรคอนาคตใหม่ก็พร้อมที่จะเป็นตัวเลือกใหม่ให้แก่ชาว กทม.แล้ว ทั้งนี้ปัญหาความเหลื่อมล้ำของประเทศไทย ไม่มีที่ใดที่ชัดเจนยิ่งไปกว่า กทม.อีกแล้ว ไม่ว่าจะในเชิงพื้นที่ระหว่างชั้นในกับชั้นนอก หรือระหว่างผู้มีรายได้น้อยที่เป็นกำลังสำคัญในการสร้าง กทม.ขึ้นมา และผู้มีรายได้ปานกลางที่ต้องกระเสือกกระสนเพื่อชีวิตที่ดีกว่า กับกลุ่มอภิสิทธิ์ชนของ กทม. ซึ่งที่ผ่านมาไม่เคยนำ กทม.ไปสู่การเปลี่ยนแปลงได้ และผู้สมัครของพรรคอนาคตใหม่ทั้งหมด ก็คือคนที่อยู่ในส่วนล่างของความเหลื่อมล้ำ ที่พร้อมจะนำการเปลี่ยนแปลงมาสู่ กทม.อย่างแท้จริง


“ไม่ใช่เพราะเขาคิดเหมือนผม แต่เพราะพวกเขาคิดเหมือนพวกคุณ คนเหล่านี้ต่างหากที่รู้ว่าความเจ็บปวดความยากแค้นของประชาชนรออีกหนึ่งวันก็ไม่ได้ เมื่อประเทศไทยที่คนมีรายได้น้อยไม่เคยได้พบกับความเปลี่ยนแปลง นี่คือคนธรรมดาที่มารวมกัน เพื่อที่จะสร้างพรรคที่ยืนหยัดด้วยอุดมการณ์ ไม่ได้ยืนหยัดด้วยผลประโยชน์หรือนายทุนคนไหน แต่ยืนหยัดด้วยคนธรรมดา ด้วยเหตุนี้ 30 ผู้สมัคร กทม.ของพรรคอนาคตใหม่ ด้วยความที่ต่างเป็นคนธรรมดาเหมือนกับคนส่วนใหญ่ ย่อมเข้าใจถึงปัญหาของ กทม.ได้อย่างลึกซึ้ง และสามารถเป็นตัวเลือกที่ดีกว่าให้แก่ชาว กทม.ได้” นายธนาธร กล่าว


นายธนาธร กล่าวอีกว่า สำหรับพรรคอนาคตใหม่ 350 เขตทั้งประเทศ ผู้สมัครของพรรคเราจนที่สุด นี่คือเหตุผลว่าทำไมถึงควรจะเลือกพรรคอนาคตใหม่ เราพวกเราคือกลุ่มคนที่เข้าใจปัญหา พวกเราคือกรรมกร เราคือพรรคที่จะส่งกรรมกรเข้าสภา ไม่มีพรรคไหนแน่ๆที่มีผู้สมัครเป็นคนขับแท็กซี่ นอกจากพรรคอนาคตใหม่ เรามีศิลปิน ดารา นักร้อง เรามีกลุ่มชาติพันธุ์ เรามีครู เรามีผู้พิการ ผู้ประกอบการร เรามีทั้งคนรุ่นใหม่และคนรุ่นเก่า หลอมรวมกันอยู่ในพรรคนี้ด้วยอุดมการณ์ และนี่คือสิ่งที่เราภูมิใจ


ด้านนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคอนาคตใหม่ กล่าวว่า แม้ทุกคนจะมีที่มาแตกต่างกัน แต่ทุกคนสามารถหล่อหลอมเป็นหนึ่งเดียวกันได้ด้วยอุดมการณ์เดียวกัน ตอนนี้สังคมไทยเดินมาถึงปลายทางของศตวรรษที่ 21 แล้ว โดย กทม. จะเป็นหัวขบวนสู่การเปลี่ยนแปลง ปลุกศักยภาพของต่างจังหวัดให้ตื่นขึ้นด้วยความเท่าเทียมกัน กทม. ต้องเป็นเมืองที่ไร้รอยต่อของระบบคมนาคม ต้องลดความเหลื่อมล้ำของการใช้รถยนต์ส่วนตัว ด้วยเพิ่มขนส่งสาธารณะเพื่อทุกคน กทม. เติบโตมาจากระบบท้องถนนแต่ขาดประสิทธิภาพในระบบคมนาคมขนส่งสาธารณะ คน กทม.ใช้ชีวิตบนถนนมากที่สุด ประมาณ 24 วันต่อหนึ่งปี กทม. เป็นเมืองหลวงที่มีอุบัติเหตุมากที่สุดเป็นอันดับ 2 รองจากฮอนดูรัส จึงถึงเวลาแล้วที่จะพัฒนาระบบคมนาคม ลดระยะเวลาในการโดยสารจากจุดเริ่มต้นจนถึงปลายทาง พัฒนาระบบขนส่งรองรับทั้งภายในตรอกซอกซอย เพื่อให้เชื่อมกับระบบขนส่งหลัก




“ กทม.ในวิสัยทัศน์ของผมคือเมืองแห่งอนาคต ศูนย์กลางเศรษฐกิจดิจิตอล ที่ใช้เทคโนโลยีเพื่อสร้างความเท่าเทียมกันในสังคม เพิ่มความโปร่งใสให้อำนาจประชาชนเข้าถึงตรวจสอบได้ รวมถึงเพื่อเข้าถึงความรู้ ฐานข้อมูลและการสร้างปัญญาประดิษฐ์ นี่คือมหานครที่ผมใฝ่ฝัน เมืองหลวงสำหรับทุกเพศ ทุกช่วงอายุ ทุกศาสนา สำหรับเด็กเราจะยกระดับศูนย์พัฒนาเด็กเล็กทั่วประเทศ สำหรับคนชราเราจะดูแลสร้างสวัสดิการให้ สำหรับคนพิการเราจะรองการศึกษาและการจ้างงานที่มีคุณภาพ โลกใบใหม่กำลังจะก้าวเข้ามาหาพวกเรา ชาวอนาคตใหม่อาสาเป็นทัพหน้าสู่โลกใหม่อย่างสง่างาม” นายพิธา กล่าว


นายพิธา กล่าวอีกว่า การเลือกตั้งครั้งนี้คือการฝ่ากระแสน้ำที่เชี่ยวกรากมากไปกว่านั้น ต้องจุดไฟกลางสายลมอีกด้วย เพราะชาวอนาคตใหม่จะต้องเรียกศรัทธาแก่สังคมให้เชื่อมั่นในระบอบประชาธิปไตยอีกครั้ง จึงขอเชิญชวนชาวอนาคตใหม่ส่งมอบ กทม. และประเทศไทยที่ดีกว่าเพื่อลูกหลานของเราร่วมกับพรรคอนาคตใหม่