"บอย" ควง "เจี๊ยบ" เข้าประตูวิวาห์สุดชื่นมื่น

บอย : บอกก็ไม่เซอร์ไพรส์สิครับ (หัวเราะ)



แต่มีเตรียมไว้ใช่ไหม?
บอย : ไม่รู้ครับ ไม่ทราบเลยครับ บอกไม่ได้เลยครับ



เจี๊ยบต้องรอลุ้นเอาเองใช่ไหม?

เจี๊ยบ : ใช่ค่ะ ไม่รู้เหมือนกัน ไม่รู้อะไรเลย จำอะไรมีได้เลย เมื่อวานทีรันทรู แต่ก็ยังจำอะไรไม่ค่อยได้เท่าไหร่ค่ะ

บอย : เมื่อวานมีซ้อมพิธีเราก็ยังคงกังวลในเรื่องของสเต็ปต่างๆว่าจะหันซ้าย หันขวา เดินยังไง แบบนี้มากกว่าที่ยังกังวล





เมื่อคืนนอนหลับไหม?

บอย : หลับไหม หลับครับ (หัวเราะ) เหนื่อยจนหลับครับ

เจี๊ยบ : เหนื่อยจนหลับครับ แต่ก็หลับๆตื่นๆ กังวลบ้าง ตื่นเช้ามาเช็ก ว่าทีมงานมีอะไรเปลี่ยนแปลงไหม อะไรแบบนี้ค่ะ



มีอะไรเปลี่ยนแปลงไหมหลังจากก้าวเข้ามาอีกสเต็ป?

บอย : จริงๆถ้าจะพูดว่าก้าวไปอีกสเต็ป มันคือเหมือนความฝันแหละครับ เราก็ฝันว่าวันหนึ่งจะได้ใช้ชีวิตร่วมกัน วันหนึ่งเราจะได้เป็นครอบครัวเดียวกัน ไม่ว่างานมันจะออกมาเป็นแบบไหน มันก็คือสิ่งที่เราฝันไว้นั่นแหละครับ มีงานแต่งงาน มีครอบครัว ใช้ชีวิตด้วยกัน เป็นสามี ภรรยากัน นี่แหละครับคือสิ่งที่เราฝันไว้ครับ



หลังจากนี้ต้องใช้คำว่าสามี ภรรยาแล้ว รู้สึกอย่างไรบ้าง?

เจี๊ยบ : จริงๆแล้วเจี๊ยบว่าความผูกพัน สิ่งที่เราทำให้กันในทุกๆวันที่ผ่านมา มันก็คงเหมือนเดิม อาจจะมีเป้าหมายที่ใหญ่ขึ้นกว่าเดิมนิดหนึ่ง หลังจากที่หนี้ทุกอย่ามันเคลียร์แล้ว ก็อาจจะมีเป้าหมายใหม่อีกเป้าหมายหนึ่งที่ก้าวไปอีกสเต็ปหนึ่ง หลังจากวันนี้ ถ้าเป้าหมายใหญ่สุดก็ปลดหนี้ก่อน (หัวเราะ)

บอย : คืออยากให้เป็นครอบครัวที่มีความสุขที่สุดมากกว่า เราก็อยากจะทำให้เขามีความสุขที่สุด เขาก็อยากจะทำให้เรามีความสุขที่สุด ผมว่าอันนี้มันเป็นสิ่งที่เป็นเป้าหมายหลัก แล้วก็เป็นเป้าหมายใหญ่ที่สุดที่เราสองคนเคยคุยกันและคิดว่าหลังจากที่แต่งงานไปเป็นสามี ภรรยากัน เป็นครอบครัวเดียวกัน ยังไงก็จะต้องเป็นครอบครัวที่มีความสุข จะต้องเผื่อแผ่ความสุขให้กับคนรอบข้างให้ได้มากที่สุดครับ



เรามองภาพความเป็นภรรยาของตัวเองว่าจะเป็นภรรยาแบบไหน?

เจี๊ยบ : ถ้าจะให้เป็นแม่บ้านแม่เรือนเลยคงจะไม่ร้อยเปอร์เซ็นต์ (หัวเราะ)

บอย : คงเป็นแม่อย่างเดียวก่อน

เจี๊ยบ : คือหลักๆ เจี๊ยบคงยังจะทำงานอยู่ คือ ตกลงกันแล้วว่าหลังจากที่ตอนแรกคุณบอยไม่ยอมให้รับละคร หลังจากแต่งงานก็จะขอรับละคร ขอทำงานในวงการก่อน แล้วถ้าวางแผนที่จะมีน้องหรืออะไรค่อยหยุดอีกทีค่ะ



จะไปฮันนีมูนที่ไหน?

บอย : เรื่องฮันนีมูนยังไม่ได้คิดเลยครับว่าจะไปที่ไหน เพราะตลอดเวลาตั้งแต่ปีที่แล้วจนถึงวันนี้จะวุ่นๆ กับเรื่องวางแผนงานแต่งงาน ผมว่าเรื่องฮันนีมูนค่อยคิด ค่อยคุยกันอีกทีหนึ่งว่าเขาอยากจะไปไหน อยากจะไปทำอะไรบ้างครับ



เรื่องมีน้องก็คงจะอีกนานใช่ไหม?

บอย : อีกนานไหม

เจี๊ยบ : ก็ยังอีกสักพักหนึ่งค่ะ ยังไม่เปิดอู่เลย ยังไม่ใช่ แต่งงานก็ขอทำงานก่อน แล้วหลังจากนั้นค่อยตัดสินใจกันว่าจะยังไงค่ะ



ถ้าไม่แพลนมีลูกตอนนี้ กลัวจะไม่ทันหรือมียากไหม?

เจี๊ยบ : ทันค่ะ เพราะว่าได้ปรึกษาคุณหมอแล้ว จริงๆ สมัยนี้คุณหมอค่อนข้างเก่ง ยังทันอยู่ค่ะ ยังไม่ 60 ยังได้อยู่ (หัวเราะ)

บอย : ก็มีญาติๆครับ ที่ผู้หญิงมีลูกตอนอายุ 44 เพิ่งไปคุยกับญาติมา ถ้าเกิดดูแลสุขภาพดีๆ ให้ร่างกายของทั้งสามี ภรรยา แข็งแรงทั้งคู่ก็คิดว่าไม่น่าจะมีปัญหากับทั้งคู่ตอนอายุเลย 40 ไปแล้วครับ






ถามถึงพิธีในวันนี้เป็นอย่างไรบ้าง?

บอย : ในวันนี้ก็คงจะมีทานเลี้ยงธรรมดาในช่วงแรก แต่ว่าพิธีที่จริงจังเลย ที่เราตั้งใจที่จะมีในวันนี้ก็คือพิธีแต่งงานแบบคริสต์ ที่เราเหมือนยกโบสถ์มาไว้ที่งานเลยครับ ก็อยากให้แขกที่ไม่เคยได้เห็นพิธีการแบบคริสเตียนจริงๆได้เห็น เพราะบางคนไม่สะดวกในการเดินทางไปที่โบสถ์ในตอนกลางวัน เราก็เลยคิดว่าเหมารอบมาเลยทีเดียว ตอนกลางคืนครับ ก็จะมีบาทหลวงมาด้วยครับ



ถือฤกษ์กี่โมง?

บอย : จริงๆงานวันนี้ ในเซ็ตทุกอย่าง ไม่มีฤกษ์เลยครับ แต่ว่าจะเซ็ตเวลาทุกอย่างตามตารางงาน ให้เหมาะสมกับช่วงเวลา เช่นตอนเย็นให้แขกมาถ่ายรูปกับเราก่อน แล้วก็ทานอาหารให้เต็มที่ก่อน



ชุดเจ้าสาววันนี้มีทั้งหมดกี่ชุด?

เจี๊ยบ : มี 3 ชุดค่ะ ชุดแถลงข่าว ชุดงาน แล้วก็อาฟเตอร์ปาร์ตี้ค่ะ แค่ 3 ก็พอแล้วค่ะ เยอะแล้ว”

บอย : “ส่วนของผมก็มีชุดนี้ที่ใส่อยู่ แล้วก็ชุดตอนพิธีจริง แล้วตอนอาฟเตอร์ก็จะเป็นชุดธรรมดาแล้วครับ ไม่ได้เป็นสูท



แหวนแต่งงานกี่กะรัต?

เจี๊ยบ : จริงๆแล้วเจี๊ยบว่า การที่เราสองคนคบกันมาค่อนข้างนาน เรื่องกะรัตมันอาจจะไม่ใช่เป็นเครื่องวัดอะไร เพราะตอนที่เราเลือกแหวนกัน เราก็คุยกันแล้วว่าเอาที่แบบพอที่เราจะใส่ในชีวิตประจำวันได้

บอย : คือบางทีเราเลือกใหญ่ไป พอถึงวันที่ต้องใส่ในชีวิตปกติ มันก็จะไม่ได้ ต้องมานั่งระวัง เราก็เลยเลือกที่พอเหมาะพอดี สวยงาม และเราสองคนชอบ



คบกันมาด้วยกันปีแล้ว?

เจี๊ยบ : 14 ปีค่ะ

บอย : จริงๆผู้ใหญ่หลายๆท่านบอกว่าหลังแต่งงาน เราจะเหมือนนับหนึ่งชีวิตคู่จริงๆอีกครั้ง ฟังผู้ใหญ่มาก็เก็บมาคิดว่าชีวิตเรามันก็ต้องเรียนรู้กันไปเรื่อยๆ 14 ปีจริงๆมันอาจจะน้อยไปด้วยซ้ำ สำหรับบางคน หรือสำหรับเราเอง เพราะฉะนั้นเราสองคนก็คงจะต้องเรียนรู้กันไปเรื่อยๆ คงจะต้องศึกษาและเข้าใจกันต่อๆไปครับ



มีคำมั่นสัญญาในชีวิตคู่ให้กันว่าอย่างไรบ้าง?

เจี๊ยบ : จริงๆเราสองคน ไม่ได้มีคำมั่นสัญญาว่าเธอต้องเป็นอย่างนั้น ฉันต้องเป็นอย่างนี้ เพียงแต่ว่าทำทุกๆวันให้ดีที่สุด ทำให้เหมือนเป็นวันสุดท้ายที่จะได้เจอกันอะไรประมาณนี้ค่ะ ไม่ได้มีคำมั่นสัญญาอะไรเลย

บอย : คำสัญญาของเรามันคงเป็นการกระทำมากกว่า ที่เราทำปฎิบัติต่อกันมาโดยตลอด ว่าเราจะดูแลกัน จะทำให้อีกฝ่ายมีความสุขที่สุด



จดทะเบียนสมรสกันเลยไหม?

บอย : คิดว่าหลังจากงานแต่งสักพักหนึ่งครับ ฤกษ์ก็ไม่มีเหมือนเดิม



เจี๊ยบจะเปลี่ยนนามสกุลไหม?

เจี๊ยบ :หลังจดทะเบียนก็คงต้องเปลี่ยนค่ะ



จะใช้นาง หรือ นางสาว ?

บอย : ก็แล้วแต่เขาครับ ตรงนี้ไม่ซีเรียสเลยครับ

เจี๊ยบ : จริงๆเจี๊ยบก็ไม่ได้ติดค่ะ เป็นนางก็ได้ค่ะ





เรือนหอตอนนี้เป็นอย่างไรบ้าง?

บอย : ยังเลยครับ เดี๋ยวหลังจากแต่งงานจะเริ่มทำเรือนหอที่สร้างค้างไว้ คิดว่าคงทำต่อให้เสร็จ แล้วก็ย้ายเข้าสู่ในเร็ววัน



หลังจะจากนี้ชีวิตการทำงานจะเป็นอย่างไรต่อ?

บอย : ผมก็คงลุยเรื่องเพลงต่อ จริงๆแล้วเมื่อวานก่อนแต่งงานก็เริ่มปล่อยผลงานออกมาแล้ว ชื่อเพลง ไม่ไหวบอกไหวครับ จริงๆแพลนจะปล่อยตั้งแต่ปีที่แล้วแล้วครับ มิวสิควิดีโอนางจะเป็นต้นเดือนกุมภาพันธ์ครับ ส่วนเจี๊ยบเขาก็ขอกลับมารับละครเยอะหน่อย แล้วก็อยากจะลุยเรื่องทำงานให้มากขึ้น ในปีที่ สองปีที่ผ่านมา ผมขอให้เขาช่วยหยุดก่อน



มีอะไรอยากจะบอกกันและกันไหม?

บอย : ก็คงจะดูแลเขาให้ดีที่สุด ให้เต็มที่เท่าที่เราจะทำได้ สุดกำลังของคนคนนี้ที่จะดูแลเขาได้ครับ จะดูแลให้มากที่สุด ให้เขามีความสุขที่สุดเป็นผู้หญิงที่มีความสุขที่สุดเลยครับ

เจี๊ยบ : เหมือนกันค่ะ (ยิ้ม) ก็คล้ายๆกันแหละค่ะ ที่ผ่านมาก็ดูแลเขายังไง ทุกวันนี้ก็คงดูแลมากขึ้นกว่าเดิม ใส่ใจรายละเอียดเหมือนเดิม และก็ดูแลกันเหมือนเดิมค่ะ