ตั้งคณะกรรมการสืบข้อเท็จจริง ครูหญิงเบิกเงินสหกรณ์ฯ

2019-01-24 16:55:48

ตั้งคณะกรรมการสืบข้อเท็จจริง ครูหญิงเบิกเงินสหกรณ์ฯ

Advertisement

สพป.กาฬสินธุ์เขต 3 ออกคำสั่งให้ ผอ.โรงเรียนตั้งคณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริงข้าราชการครูหญิงที่ถูกกล่าวหาเป็นนายหน้าหักหัวคิว 13 เปอร์เซ็นต์และเบิกเงินกู้สหกรณ์ออมทรัพย์ครูกาฬสินธุ์ ขณะที่ตำรวจ สภ.เมืองกาฬสินธุ์เรียกตัวข้าราชการครูหญิงมารับทราบข้อกล่าวแล้ว

จากกรณีนางเยาวลักษณ์ ภูชุม อายุ 34 ปี ครูวิทยฐานะชำนาญการ โรงเรียนแห่งหนึ่งใน อ.หนองกุงศรี จ.กาฬสินธุ์ พร้อมด้วยนางไสว บรรลือเสียง อายุ 60 ปี มารดาเข้าร้องทุกข์กับศูนย์ดำรงธรรม จ.กาฬสินธุ์ เพื่อขอความช่วยเหลือ หลังจากได้ขอกู้เงินจากสหกรณ์ออมทรัพย์ครูกาฬสินธุ์ จำกัด แต่ถูกนายหน้าที่เป็นข้าราชการครูหญิงเรียกเก็บค่าดำเนินการ 13 เปอร์เซ็นต์ และปลอมเอกสารเบิกเงินไปจำนวน 1,580,300 บาท โดยมีชื่อรองปลัดเทศบาลตำบลแห่งหนึ่งเป็นผู้เบิกเงิน กระทั่งนายไกรสร กองฉลาด ผวจ.กาฬสินธุ์ สั่งตั้งคณะกรรมการขึ้นมาตรวจสอบเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าว โดยเบื้องต้นสำนักงานสหกรณ์จังหวัดตรวจพบข้อบกพร่องหละหลวมไม่ปฏิบัติตามระเบียบและขัดกับข้อบังคับ พร้อมสั่งให้แก้ไขภายใน 30 วันตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น

ล่าสุดเมื่อวันที่ 24 ม.ค.นายภัณฑ์รักษ์ พลตื้อ ผอ.สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษากาฬสินธุ์ เขต 3 (สพป.กาฬสินธุ์ เขต 3) กล่าวว่า ได้รับรายงานเรื่องดังกล่าวแล้ว ซึ่งหลังทราบข่าว ประกอบกับมีผู้มาร้องเรียนว่า มีข้าราชการครูหญิงในโรงเรียนแห่งหนึ่ง ต.กุดค้าว อ.กุฉินารายณ์ จ.กาฬสินธุ์เป็นนายหน้าเรียกเก็บค่าดำเนินการกู้เงินสหกรณ์ออมทรัพย์ครูกาฬสินธุ์ จำกัด 13 เปอร์เซ็นต์ และร่วมกันเบิกเงินกู้ของนางเยาวลักษณ์ ออกจากสหกรณ์ฯ จำนวน 1,580,300 บาท นั้น ขณะนี้ทางสพป.กาฬสินธุ์ เขต 3 ซึ่งเป็นหน่วยงานต้นสังกัดได้ออกหนังสือคำสั่งไปถึง ผอ.โรงเรียนดังกล่าว ซึ่งเป็นผู้บังคับบัญชาโดยตรงของข้าราชการครูหญิง เมื่อวันที่ 21 ม.ค.ที่ผ่านมา เพื่อให้ตั้งคณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริงเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าวเพื่อที่จะดำเนินการเกี่ยวกับการสอบวินัยให้แล้วเสร็จภายใน 15 วัน




ทั้งนี้หากผลการสืบข้อเท็จจริงของคณะกรรมการสรุปออกมาพบว่ามีมูล ในเรื่องของวินัยไม่ร้ายแรงทาง สพป.กาฬสินธุ์เขต 3 จะดำเนินการสอบวินัยไม่ร้ายแรงเอง แต่หากพบว่าเป็นความผิดในเรื่องวินัยร้ายแรงก็จะส่งเรื่องไปยังศึกษาธิการ จ.กาฬสินธุ์ เพื่อดำเนินการสอบวินัยร้ายแรงต่อไป ส่วนทางคดีก็เป็นหน้าที่ของตำรวจ อย่างไรก็ตามยืนยันว่าการดำเนินการสืบสวนข้อเท็จจริงทาง สพป.กาฬสินธุ์เขต 3 จะต้องให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย ซึ่งขณะนี้มีผู้เข้ามาร้องเรียนข้าราชการหญิงในเรื่องลักษณะดังกล่าวที่ สพป.กาฬสินธุ์เขต 3 แล้วจำนวน 2 ราย

สำหรับความคืบหน้าของคดีนั้นพล.ต.ต.ทินณะรัตน์ เพ็ชรพันธ์ศรี ผู้บังคับการตำรวจภูธร จ.กาฬสินธุ์ กล่าวว่า ได้รับรายงานจาก พ.ต.อ.รัชพล เสริมศรัญย์ ผกก.สภ.เมืองกาฬสินธุ์ว่า นางเยาวลักษณ์ ภูชุม ได้เดินทางเข้าให้ปากคำเพิ่มเติมกับพ.ต.ท.ชูชาติ อุทธิสินธ์ พนักงานสอบสวนสภ.เมืองกาฬสินธุ์เจ้าของคดี พร้อมกับเขียนลายมือชื่อ เพื่อนำไปเปรียบเทียบกับเอกสารที่อ้างว่ามีการปลอมแล้วนำไปเบิกเงิน ซึ่งขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ติดต่อไปยังข้าราชการครูหญิง เพื่อเข้ามาให้ปากคำและรับข้อกล่าวหาเบื้องต้น ร่วมกันปลอมเอกสารและใช้เอกสารปลอมแล้ว