พปชร.ชูนโยบาย “โคบาลประชารัฐ -พักหนี้ 3 ปี”

2019-01-23 13:00:11

พปชร.ชูนโยบาย “โคบาลประชารัฐ -พักหนี้ 3 ปี”

Advertisement

“สุริยะ- สมศักดิ์ -อนุชา ” ลุยอีสานเปิดตัวผู้สมัครกาฬสินธุ์ ชูนโยบาย “โคบาลประชารัฐ -พักหนี้ประชาชน 3 ปี

เมื่อวันที่ 23 ม.ค. แกนนำพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) นำโดย นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานยุทธศาสตร์ภาคอีสาน นายสมศักดิ์ เทพสุทิน ประธานคณะกรรมการรณรงค์หาเสียงเลือกตั้ง นายอนุชา นาคาศัย ประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์ภาคกลาง และนายเอกราช ช่างเหลา กรรมการยุทธศาสตร์การเลือกตั้งจังหวัดขอนแก่น ลงพื้นที่ภาคอีสาน ที่ อ.ยางตลาด จ.กาฬสินธุ์ พร้อมเปิดตัวผู้สมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.กาฬสินธุ์ ทั้ง 5 เขต คือ นายฉลอง ฆารเลิศ เขต 1 นายชานุวัฒน์ วรามิตร เขต 2 นายจำลอง ภูนวนทา เขต 3 ดร.สิทธิศักดิ์ พัฒนชัย เขต 4 และนายนิพนธ์ ศรีธเรศ เขต 5

นายสมศักดิ์ ปราศรัยว่า พรรคพลังประชารัฐ ได้กำหนดนโยบายโคบาลประชารัฐ เป็นนโยบายหลัก ที่จะต้องทำให้กับประชาชนทั่วประเทศ ซึ่งไม่ใช่เฉพาะภาคอีสานเท่านั้น แต่จังหวัดอื่นๆก็สามารถดำเนินการได้ ส่วนข้อกังวลในการแจกวัวพร้อมกันทั่วประเทศ ต้องบอกว่าการแจกพร้อมกันทั่วประเทศคงเป็นไปไม่ได้ เพราะแม่พันธุ์วัวต้องจัดหา เนื่องจากจะไม่พยายามนำมาจากที่อื่น ตรงนี้เป็นเรื่องต้องค่อยเป็นค่อยไป ส่วนตัวมั่นใจว่า สามารถเป็นอาชีพเสริม และพัฒนาเป็นอาชีพหลักได้


นายสุริยะ ปราศรัยว่า เวลานี้ประชาชนได้รับความเดือดร้อน ความยากจน จากความวุ่นวายที่ผ่านมา ซึ่งส่งผลกระทบต่อปากท้องของประชาชน โดยแนวคิดนโยบายของพรรคพลังประชารัฐ จึงเป็นการช่วยเหลือประชาชนและถ้าเลือกพลังประชารัฐ ก็จะทำทุกทางในการพักหนี้ให้ประชาชน 3 ปี โดยไม่เสียดอกเบี้ย

ขณะที่ นายสุริยะ ให้สัมภาษณ์ว่า การลงพื้นที่ภาคอีสาน 3 วันที่ผ่านมา ได้รับการตอบรับจากประชาชน ทำให้เห็นได้ชัดว่าคะแนนนิยมดีค่อนข้างมาก ส่วนที่พรรคเพื่อไทย เจ้าของพื้นที่เร่งลงพื้นที่เช่นกันนั้น ตนคิดว่าเพื่อไทยเป็นที่ชื่นชอบของภาคอีสานมาตลอด แต่สิ่งที่พรรคพลังประชารัฐต้องทำคือ เสนอนโยบายที่ดีกว่าพรรคเพื่อไทย และสามารถตอบสนองชาวอีสานได้ดีกว่า ตอนนี้ความพร้อมในภาคอีสานของเรา ต้องบอกว่าเราได้ทำตามข้อกำหนดรัฐธรรมนูญ ต้องตั้งสาขาพรรค มีตัวแทน โดยทั้ง 2 อย่าง พลังประชารัฐ เสนอให้ กกต.ครบแล้ว

เมื่อถามถึงกรณีถูกประเมินว่าพลังประชารัฐ ไม่ได้ ส.ส.ตามที่ตั้งเป้าไว้ นายสุริยะ กล่าวว่า การที่มีคนมาประเมิน ทำให้ต้องทำงานหนักขึ้น ทั้งผู้บริหารพรรค ผู้สมัคร ต้องลงพื้นที่ และอธิบายประชาชนว่าพรรคพลังประชารัฐ สามารถตอบสนองความต้องการของประชาชนได้อย่างไร ซึ่งถือเป็นการเตือนให้ต้องทำงานหนักขึ้นและไม่ประมาท การถูกโจมตี ไม่ได้ทำให้ท้อ เพราะที่ตัดสินใจมาเล่นการเมืองอีกครั้ง ก็เพื่อต้องให้ประเทศ สามารถก้าวข้ามความขัดแย้ง ซึ่งเมื่อมีเสียงโจมตีก็ไม่ท้อ และทำให้มีกำลังใจทำงานหนักมากขึ้น

เมื่อถามว่า มองยังไงที่นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ สมาชิกพรรคเพื่อไย ประกาศฝ่ายประชาธิปไตยต้องได้ส.ส. 375 คน นายสุริยะ กล่าวว่า พรรคเพื่อไทยพยามยามโจมตีพรรคพลังประชารัฐว่าสนับสนุนเผด็จการ แต่ข้อเท็จจริงประชาชนทราบดีว่า การที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เข้ามาเกิดจากพรรคเพื่อไทย เสนอ พ.ร.บ.นิรโทษกรรมสุดซอย ทำให้ประชาชนต่อต้าน และเกิดวิกฤตการเมือง เศรษฐกิจเสียหาย พล.อ.ประยุทธ์ จึงจำเป็นต้องออกมาเพื่อให้ประเทศ สู่ความสงบ และเมื่อสงบแล้ว ก็คืนประชาธิปไตยให้ ซึ่งยืนยันฝ่ายตนเอง ก็อยู่ฝ่ายประชาธิปไตย