“ศรีสุวรรณ” จี้ กกต.สอบ พปชร.เงินโต๊ะจีนหาย 560 ล.

2019-01-19 11:05:22

“ศรีสุวรรณ” จี้ กกต.สอบ พปชร.เงินโต๊ะจีนหาย 560 ล.

Advertisement

“ศรีสุวรรณ” ออกแถลงการณ์ เรียกร้องให้ กกต.ไต่สวนทำความจริงให้ปรากฎ กรณีเงินโต๊ะจีน พปชร. หายไปไหน 560 ล้านบาท

เมื่อวันที่ 19 ม.ค.นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย ออกแถลงการณ์ สมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย เรื่อง ขอเรียกร้องให้ กกต.ไต่สวนทำความจริงให้ปรากฎ กรณีเงินโต๊ะจีน พปชร.หายไปไหน 560 ล้านบาท ระบุว่า ตามที่พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ได้นำเอกสารบัญชี ผู้สนับสนุนการจัดกิจกรรมโต๊ะจีนระดมทุนของพรรค เมื่อวันที่ 19 ธ.ค. 2561 และ บัญชีผู้บริจาคในนามบุคคลธรรมดา มาติดประกาศบริเวณห้องโถงชั้นล่างที่ทำการพรรคเมื่อวันที่ 18 ม.ค.2562 ที่ผ่านมานั้น สมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย เห็นความผิดปกติหลายประการซึ่งอาจขัดหรือแย้งต่อ มาตรา 59 ประกอบมาตรา 64 และมาตรา 65 แห่ง พ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมือง 2560 กล่าวคือ 1)การแสดงบัญชีผู้บริจาคงานระดมทุนเมื่อวันที่ 19 ธ.ค.2562 มียอดเพียง 90 ล้านบาท ซึ่งขัดต่อคำให้สัมภาษณ์ของ หัวหน้าพรรค เลาธิการพรรค โฆษกและรองโฆษกพรรค ที่ยืนยันต่อสื่อมวลชนว่ามีการจำหน่ายบัตรโต๊ะจีน 200 โต๊ะ ๆ ละ 3 ล้านบาท ซึ่งได้เงินเกินเป้าถึง 650 ล้านบาท แต่เวลามาทำบัญชีรายงานพบว่า ตามบัญชีมีเพียง 90 ล้านบาท ส่วนที่เหลือ 560 ล้านบาทนำไปซ่อนไว้ในบัญชีใด เพราะถ้าจะอ้างว่าแต่ละรายบริจาคซื้อไม่ถึง 1 แสนบาทไม่ต้องรายงานนั้น ไม่น่าจะสอดคล้องกับราคาโต๊ะจีนต่อเก้าอี้นั้นจะตก 3 แสนบาทต่อเก้าอี้ ซึ่งจะเกินกว่าจำนวนที่กฎหมายยกเว้นให้ หรือเงินบริจาค 650 ล้านบาทเป็นแค่ราคาคุยเท่านั้น ถ้าเช่นนั้นก็อาจเข้าข่ายความผิดฐานหลอกลวงประชาชน

2)กรณีเงินบริจาคของกลุ่มบริษัทคิงเพาเวอร์ที่บริจาคถึง 24 ล้านบาทนั้น แม้จะแยกบริจาคเป็น 3 บริบัทลูก แต่ผู้บริหารสูงสุดเป็นคนๆเดียวกันหรือไม่ ซึ่งอาจขัดต่อ มาตรา 66 แห่ง พ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมือง 2560 ที่กำหนดห้ามบุคคลบริจาคเกิน 10 ล้านบาทต่อปี และห้ามนิติบุคคลใดหรือบริษัทเอกชนบริจาคเกิน 5 ล้านบาทต่อปี หรือไม่เช่นนั้นก็อาจขัดต่อมาตรา 28 และมาตรา 29 ที่บัญญัติห้ามมิให้พรรคการเมืองและผู้ใดกระทำการใดอันเป็นการควบคุม ครอบงำ หรือชี้นำกิจกรรมของพรรคการเมืองในลักษณะที่ทำให้พรรคการเมืองหรือสมาชิกขาดความอิสระ ทั้งนี้ ไม่ว่าโดยทางตรงหรือโดยทางอ้อม

3)ตามบัญชีที่ พปชร.แสดงนั้นไม่ปรากฎการบริจาคของหน่วยงานราชการหรือพนักงานเจ้าหน้าที่ของรัฐเลยนั้น ทั้งๆ ที่ผังการจัดโต๊ะจีนที่ปรากฎโดยสำนักข่าวอิศรานั้นมีชื่อหน่วยงานรัฐอยู่ด้วยอย่างชัดเจน กรณีดังกล่าวมีการหลบเลี่ยงปกปิดข้อเท็จจริงที่ต้องแจ้งให้สาธารณชนและ กกต.ทราบหนือไม่ด้วย

กรณีเช่นนี้สมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย จึงขอเรียกร้องให้ กกต.ใช้อำนาจตาม พ.ร.ป.ว่าด้วยคณกรรมการการเลือกตั้ง 2560 ในการไต่สวน และสอบสวนกรณีดังกล่าวข้างต้นเพื่อทำความจริงให้ปรากฎต่อสาธารณชน หากพบความผิดให้ดำเนินการตามกฎหมายอย่างเข้มงวดต่อไปโดพลัน เพื่อให้เจตนารมณ์ของกฎหมาย เป็นกฎหมายที่แท้จริงต่อไป