“อุตตม” ประชุมเตรียมเลือกตั้ง ลั่นพร้อมเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล “ณัฏฐพล” เผยได้เงินระดมทุน 622 ล้าน “กอบศักดิ์”ระบุบัตรสวัสดิการแห่งรัฐเดินหน้าต่อ
เมื่อเวลา 10.00 น. วันท่ี 18 ม.ค. ที่ทำการพรรคพลังประชารัฐ(พปชร.) นายอุตตม สาวนายน หัวหน้าพรรค เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการยุทธศาสตร์การเลือกตั้งพรรค มีกรรมการบริหาร กรรมการยุทธศาสตร์ กรรมการรณรงค์หาเสียงเลือกตั้ง เข้าร่วมประชุม อาทิ นายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ รองหัวหน้าพรรค นายสุวิทย์ เมษินทรีย์ รองหัวหน้าพรรค นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ เลขาธิการพรรค นายกอบศักดิ์ ภูตระกูล โฆษกพรรค นายสมศักดิ์ เทพสุทิน นายพงศ์กวิน จึงรุ่งเรืองกิจ นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ นายสุชาติ ตันเจริญ น.ส.วทันยา วงษ์โอภาสี นายสันติ พร้อมพัฒน์ นายสนธยา คุณปลื้ม ทั้งนี้เพื่อเตรียมพร้อมเดินหน้าสู่การเลือกตั้ง รวมถึงความพร้อมในการเปิดนโยบายพรรค และเปิดตัวผู้สมัคร ส.ส. หลังจากที่คาดว่าพระราชกฤษฎีกาเลือกตั้ง ส.ส.จะประกาศ ในสัปดาห์หน้า และเลือกตั้งในวันที่ 24 มี.ค.
ต่อมาเวลา 14.00 น. นายอุตตม แถลงว่า พปชร.มีความพร้อมแล้วในการเลือกตั้ง โดยการประชุมวันนี้ได้มีการคัดสรรผู้สมัคร ส.ส.แบบเขตทั้ง 350 เขต คาดว่าสัปดาห์หน้าทุกอย่างจะเรียบร้อย ได้รายชื่อ ส.ส.เขตทั้งหมด นอกจากนี้ยังมีการพิจารณานโยบายพรรคเป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยจะสามารถเปิดเผยได้เมื่อ พ.ร.ฎ.เลือกตั้ง ประกาศแล้ว และเมื่อมีความจัดเจนในวันเลือกตั้ง พรรคจะเดินหน้าทำกิจกรรมอย่างต่อเนื่อง ส่วนการลาออกจากตำแหน่งของ 4 รัฐมนตรีในพรรคนั้น ยืนยันว่าจะลาออกในเวลาที่เหมาะสม ขอให้รอดู เพราะทั้ง 4 คนเคลียร์งานเกือบหมดแล้ว
นายอุตตม กล่าวว่า พปชร.ไม่มีความกังวล กรณีการเลือกตั้งที่เลื่อนออกไปเป็นวันที่ 24 มี.ค. เพราะเราได้เตรียมการมาโดยตลอด มีความพร้อมที่จะเดินหน้าสู่การเลือกตั้ง ไม่ว่าจะประกาศวันเลือกตั้งเมื่อใด เราพร้อมเมื่อนั้น อย่างไรก็ตาม การประชุมครั้งนี้ยังไม่มีการหารือเรื่องการเสนอชื่อนายกรัฐมนตรี ส่วนจะมีการเสนอชื่อ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้า คสช. หรือไม่นั้น จะต้องผ่านการพิจารณาของกรรมการบริหารและสมาชิกพรรคพรรคก่อน
“ผมยังยืนยันไม่ได้ว่าจะเชิญใครมาอยู่ในบัญชีนายกฯของพรรค ขอให้เป็นเรื่องของพรรค ที่จะร่วมกันตัดสินใจ ส่วนจะได้ ส.ส.กี่ที่นั่งนั้นเราจะทำให้ดีที่สุด แต่ไม่ได้ตั้งเป้าว่าจะได้เท่านั้นเท่านี้ แต่ต้องทำให้ดีที่สุด และผลออกมาให้ได้มากที่สุด เท่าที่จะทำได้ แต่เชื่อว่าเรามีศักยภาพเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลได้” นายอุตตม กล่าว
นายอุตตม ยังกล่าวเพิ่มเติม ถึงค่าใช้จ่ายของพรรคตามระเบียบของคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) กำหนดให้ 35 ล้านบาท ว่า ให้เท่าไหร่ก็เท่านั้น เขาให้แค่นี้ ไม่มีสิทธิ์พูด เมื่อถามว่าพรรคคาดการณ์ว่าจะได้จำนวนส.ส.เท่าไหร่ถึงจะได้เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล นายอุตตม กล่าวว่า รอให้สูตรคณิตศาสตร์ต่างๆลงตัวก่อน ตอนนี้ทำให้เต็มที่ เราประเมินทุกวันทุกเวลาว่าพื้นที่เป็นอย่างไร และต้องดูว่าแต่ละพรรคส่งใคร และเชื่อว่าวันนี้กระแสความนิยมของพรรคมีมาต่อเนื่อง
ผู้สื่อข่าวถามถึงความเหมาะสมในช่วงเวลาที่จะลาออกคือเมื่อไหร่ นายอุตตม กล่าวว่า เมื่อถึงเวลาจะชัดเจน ให้เดาว่าจะเป็นช่วงไหน และเมื่อถึงเวลาจะต้องไปยื่นกับนายกรัฐมนตรี ที่เป็นผู้บังคับบัญชาอยู่แล้ว เวลานี้นายกฯก็รับทราบตามที่เราพูดไปว่าเมื่อถึงเวลาที่เหมาะสมจะมายื่นลาออกมาตั้งแต่ต้นและไม่ได้ทักท้วงอะไร ปล่อยให้เราตัดสินใจเพราะไว้ใจ
ด้าน นายณัฏฐพล กล่าวถึงรายละเอียดการจัดงานระดมทุนพรรคว่า ได้ส่งรายงานการระดมทุนพรรคให้กรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) เป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยมีผู้แสดงเจตจำนงสนับสนุนพรรคทั้งหมด 622,347,950 บาท แต่จะบันทึกเข้าบัญชีการระดมทุน 90 ล้านบาท 24 รายการ ที่เหลือจะเอาเข้าบัญชีผู้บริจาค เนื่องจากส่วนที่เหลือเป็นการบริจาคหลังวันที่ 19 ธันวาคม 2561 ซึ่งเลยวันระดมทุนไปแล้ว เพราะ กกต.กำหนดให้มีวันระดมทุนวันเดียวคือวันที่ 19 ธันวาคม ดังนั้น เงินบัญชีการระดมทุนจึงอยู่ที่ 90 ล้านบาทเท่านั้น ทั้งนี้ จากการตรวจสอบอย่างเข้มข้น พรรคได้คืนเช็คบางส่วนที่อาจร่วมระดมทุนไม่ถูกต้องตามกฏหมาย 1 ราย เพราะเป็นนิติบุคคลที่มีสัดส่วนผู้ถือหุ้นคนไทยไม่ถึง 50 เปอร์เซนต์ หลังจากนี้พรรคจะติดประกาศการรายงานต่อ กกต.ในวันที่ 21 ม.ค. เป็นต้นไป ที่ทำการพรรค พร้อมกับติดประกาศรายชื่อผู้บริจาคเงินให้พรรคอย่างต่อเนื่อง ยืนยันว่าไม่มีหน่วยงานราชการร่วมระดมทุนในงานด้วย ซึ่งสื่อมวลชนสามารถตรวจสอบได้
นายกอบศักดิ์ กล่าวว่า สำหรับนโยบายนั้น ทางพรรคได้เตรียมการได้พอสมควรแล้ว ซึ่งก็จะมีหลากหลายมิติ ครอบคลุมทั้งประเด็นเศรษฐกิจ สังคม รวมถึงสวัสดิการต่างๆ โดยรายละเอียดทั้งหมดจะเปิดเผยเมื่อมีพระราชกฤษฎีกาให้มีการเลือกตั้งออกมาแล้ว ทั้งนี้ เรามีความตั้งใจที่จะเดินหน้าเรื่องสวัสดิการในการช่วยเหลือประชาชนให้สามารถยืนได้ และดำเนินการเรื่องเศรษฐกิจให้เกิดความเข้มแข็ง ขณะเดียวกันก็จะดูแลสังคมให้ลดความเหลื่อมล้ำ ขอให้อดใจรออีกนิดเดียว พอเรียบร้อยจะประกาศรายละเอียดลงไปทั้งหมดเลยว่าในแต่ละด้านเรามีกี่หัวข้อ และแต่ละด้านเราจะทำอะไรบ้าง ซึ่งจะมีทั้งนโยบายใหม่และเก่า บางอันที่เราชอบ และคิดว่าจะไปได้ดี เราก็จะเดินหน้า พรรคเราเป็นพรรคที่รับฟังความคิดเห็นจากทุกภาคส่วน ระหว่างทางที่ไปเจอประชาชนในพื้นที่ต่างๆ เขาชอบอะไร อยากได้อะไร สิ่งเหล่านั้นก็ถูกรวบรวมมาเป็นนโยบาย บางส่วนที่เราเห็นว่าทำได้ดีอยู่แล้ว อย่างนโยบายบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ เราก็เดินหน้าต่อไป