“วรวัจน์”แนะรัฐบาลมีมาตรการชัดเจนแก้ปัญหาฝุ่นพิษทั้งระยะสั้น กลาง ยาว บังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัดก่อสร้าง โรงงานอุตสาหกรรม
เมื่อวันที่ 16 ม.ค. นายวรวัจน์ เอื้ออภิญญกุล อดีต รมว.วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี แกนนำพรรคไทยรักษาชาติ กล่าวถึงปัญหาฝุ่นพิษเกินค่ามาตรฐานใน กทม.และปรมณฑล ว่า รัฐบาลต้องมีมาตรการฉุกเฉิน ระยะสั้น ระยะกลางและระยะยาวในการแก้ไข ซึ่งปัญหานี้ไม่ได้เกิดขึ้นครั้งนี้เป็นครั้งแรก การที่ พล.อ.ประวิทย์ วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ออกมาบอกว่าให้รออีก 3 ปีสร้างรถไฟฟ้าแล้วเสร็จ ปัญหาฝุ่นละอองจะลดลงถือว่าเป็นการปล่อยประชาชนไปตามยถากรรม เพราะฝุ่นพิษนี้เป็นภัยร้ายแรงที่คุกคามชีวิตสุขภาพของคนที่อาศัยอยู่ในเขตกรุงเทพฯเป็นอย่างมากโดยเฉพาะต่อระบบทางเดินหายใจ เพิ่มโอกาสของโรคหัวใจและโรคเกี่ยวกับทางเดินหายใจได้ง่าย ทั้งๆที่เป็นเรื่องเร่งด่วน รัฐบาลกลับต้องให้ประชาชนรอถึง 3 ปี ถ้าต้องรอนานขนาดนั้น เชื่อว่าปอดของประชาชน คงมีแต่ฝุ่นละอองจับเต็มไปหมด
นายวรวัจน์ กล่าวอีกว่า การใช้รถฉีดน้ำในขณะที่ฝุ่นควันขนาด PM 2.5 เป็นฝุ่นควันขนาดเล็กที่ลอยอยู่สูงในชั้นบรรยายกาศ มาตรการของรัฐบาลแบบนี้เป็นเพียงวิธีการแก้ไขปัญหาที่ปลายเหตุ และบางมาตรการไม่สามารถแก้ไขปัญหาได้ ส่วนการแก้ไขปัญหาระยะยาว เพื่อลดปริมาณฝุ่นและควัน ควรบังคับใช้กฎหมายและกวดขันอย่างเข้มงวด ฝุ่นละอองที่เกิดจากการปล่อยควันของโรงงานอุตสาหกรรมต่างๆ ฝุ่นควันจากการก่อสร้างอย่างจริงจังในทุกประเภท
“ รัฐบาลควรกวดขัน อย่างเข้มงวดและบังคับใช้กฎหมายที่จะคุ้มครองชีวิตและความปลอดภัยของประชาชน ตลอดจนบังคับใช้กฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการควบคุมฝุ่นละอองมาใช้จริงจังเสียที ถึงเวลาหรือยัง ที่รัฐบาลต้องจริงจังกับปัญหานี้เพราะที่ผ่านมาละเลยมาโดยตลอด โดยเฉพาะเด็กที่มีความเสี่ยงต่อการเกิดโรคและปัญหาต่อการดำรงชีพ การก่อสร้างโครงการขนาดใหญ่ไม่ว่าจะเป็นรถไฟฟ้า หรืออาคารสูงรัฐบาลก็ควรใช้มาตรการเข้มงวดกวดขัน เพื่อปกป้องประชาชน ไม่ใช่ปกป้องผลประโยชน์ของผู้ประกอบการ” นายวรวัจน์ กล่าว