ส่ง 3 โจ๋รุมโทรมสาว 16 เข้าสถานพินิจ

2019-01-10 18:25:52

ส่ง 3 โจ๋รุมโทรมสาว 16 เข้าสถานพินิจ

Advertisement

ส่ง 3 โจ๋รุมโทรม สาว 16 ริมหาดปากน้ำปราณเข้าสถานพินิจหลังไม่ได้ประกันตัว

เมื่อวันที่ 10 ม.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีที่แม่เด็กร้องกองบังคับการปราบปรามว่าลูกสาววัย 16 ปี ถูกเพื่อน 3 โจ๋ ญาตินักการเมืองท้องถิ่นรุมโทรมที่บริเวณห้องน้ำสาธารณะริมชายทะเลปากน้ำปราณ หมู่ที่ 3 ต.ปากน้ำปราณบุรี อ.ปราณบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์ แต่คดีไม่มีความคืบหน้าเกรงว่าไม่ได้รับความเป็นธรรมจากการดำเนินคดีของเจ้าหน้าที่ตำรวจ นั้น


ทั้งนี้มีรายงานจาก สภ.ปากน้ำปราณ ระบุว่าคดีนี้เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 1 ธ.ค.2561 เวลา 04.30 น. หลังจากเกิดเหตุผู้เสียหายและกลุ่มผู้ต้องหาได้แยกย้ายกันไปโดยไม่ได้มาแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวนแต่อย่างใด ต่อมาเมื่อวันที่ 2 ธ.ค.2561 พนักงานสอบสวน สภ.ปากน้ำปราณได้รับคำร้องทุกข์จากฝ่ายผู้เสียหายโดยได้ดำเนินการสืบสวนสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐานตามขั้นตอนของกฎหมายมาโดยตลอด พร้อมส่งตัวผู้เสียหายไปตรวจร่างกายกับแพทย์เพื่อนำผลการตรวจมาประกอบคดี โดยพนักงานสอบสวนได้แจ้งขั้นตอนการดำเนินคดีให้กับผู้ปกครองของผู้เสียหายทราบว่าเนื่องจากผู้เสียหายและกลุ่มผู้ต้องหาเป็นเยาวชนจะต้องสอบสวนปากคำต่อหน้าพนักงานอัยการ นักจิตวิทยา ทนายความ สหวิชาชีพตามกฎหมาย

จากนั้นวันที่ 9 ม.ค.2562 พล.ต.ต.สุรศักดิ์ สุขแสวง ผบก.ภ.จว.ประจวบคีรีขันธ์ มอบหมายคณะทำงานพนักงานสืบสวนสอบสวนของ ภ.จว.ประจวบคีรีขันธ์ ดำเนินการร่วมกับพนักงานอัยการ นักจิตวิทยา ร่วมกันสอบปากคำ น.ส.เอ (นามสมมติ) ผู้เสียหายที่สำนักอัยการจังหวัดหัวหินและสอบสวนเพิ่มเติมแม่เด็กผู้เสียหายที่ สภ.ปากน้ำปราณ พร้อมทั้งให้เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานจังหวัดทำการตรวจเก็บดีเอ็นเอของผู้ต้องหาเด็กชายอายุระหว่าง 16-17 ปีที่ก่อเหตุทั้งหมด 3 คนรวมทั้งเสื้อผ้า ชุดชั้นในที่ผู้เสียหายสวมใส่ในวันเกิดเหตุและแจ้งข้อหาทั้ง 3 คนร่วมกันข่มขืนหญิงอื่นลักษณะโทรมหญิงและร่วมกันพรากผู้เยาว์ไปเพื่อการอนาจาร ก่อนนำตัวผู้ต้องหาทั้งหมดส่งศาลเยาชนและครอบครัว จ.ประจวบคีรีขัน์เพื่อขอให้ศาลออกหมายขังซึ่งศาลอนุญาตจึงได้นำตัวผู้ต้องหาทั้ง 3 คน ส่งสถานพินิจวบคุมตัวไว้ดำเนินคดีตามกฎหมาย โดยผู้ต้องหาทั้ง 3 คนไม่ได้รับการประกันตัว


พล.ต.ต.สุรศักดิ์ กล่าวว่าได้สั่งการให้พนักงานสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐานด้วยความโปร่งใส เป็นธรรมกับทุกฝ่าย โดยให้ดำเนินการสอบสวนสำนวนคดีให้แล้วเสร็จภายในกรอบระยะเวลาที่กฎหมายกำหนด หากพบว่ามีข้อบกพร่องในการปฏิบัติหน้าที่ก็จะมีการลงโทษทางวินัยอย่างเด็ดขาด