“อัจฉริยะ” จ่อแจ้งความกลับ “ทนายตั้ม”

“อัจฉริยะ”สวนกลับ“ทนายตั้ม” กล่าวหาปลอมแปลงเอกสารทำลายความน่าเชื่อถือเพื่อล้างแค้น จ่อแจ้งความกลับนำสำเนาบันทึกประจำวันมาเผยแพร่ต่อสื่อมวลชนได้มาซึ่งเอกสารโดยไม่ชอบ

เมื่อวันที่ 9 ม.ค. นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม เดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวนกองกำกับการ 2 กองปราบปราม เพื่อสอบถามถึงกรณีถูกนายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือ ทนายตั้ม แจ้งความข้อหาร่วมกันปลอมแปลงเอกสารราชการ และร่วมกันสร้างพยานหลักฐานเท็จ จากกรณีให้ตำรวจ สภ.บางปะอิน คัดลอกสำเนาทะเบียนราษฎร์ของภรรยานายเศรษฐ์ เดชสุภา ลูกเพจ Red Skull

นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม เดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวนกองกำกับการ 2 กองปราบปราม เพื่อสอบถามกรณีที่ถูกนายษิทรา แจ้งความข้อหาร่วมกันปลอมแปลงเอกสารราชการ แล้วร่วมกันสร้างพยานหลักฐานเท็จ จากกรณีให้ตำรวจ สภ.บางปะอิน คัดลอกสำเนาทะเบียนราษฎร์ของภรรยานายเศรษฐ์ เดชสุภา ลูกเพจ Red Skull

นายอัจฉริยะ ระบุว่า นายษิทรา กล่าวหาว่าตนเองร่วมกับ รอง ผกก.สืบสวน สภ. บางปะอิน รวมกันแก้ไขข้อความในรายงานบันทึกประจำวัน โดยเขียนแทรกเรื่องการแจ้งความของตนไว้ท้ายคดีอื่น ซึ่งตนยืนยันว่าในวันที่ 28 พ.ย.ได้ไปแจ้งความจริง ไม่ได้เป็นการเขียนบันทึกประจำวันย้อนหลัง แต่ไม่ทราบว่าทำไมเจ้าหน้าที่จึงเขียนท้ายคดีอื่น เบื้องต้นหลังจากการสอบถามพนักงานสอบสวนกองบังคับการปราบปราม ทราบว่าตนยังไม่ถูกแจ้งข้อหาหรือดำเนินคดี เนื่องจากคู่กรณีเพียงมาลงบันทึกให้พนักงานสอบสวนทำการตรวจสอบข้อเท็จจริงเท่านั้น

นายอัจฉริยะ กล่าวด้วยว่า จากการที่นายษิทรานำสำเนาบันทึกประจำวันฉบับดังกล่าวมาเผยแพร่ต่อสื่อมวลชน เป็นการได้มาซึ่งเอกสารโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย เนื่องจากไม่มีการเซ็นรับรองสำเนาจากพนักงานสอบสวน และไม่ได้เป็นคู่ความในคดี ดังนั้นในสัปดาห์หน้าตนจะเดินทางไปสอบถามกับตำรวจ สภ.บางปะอิน ว่านายษิทราได้เอกสารดังกล่าวไปได้อย่างไร หากพบว่าได้เอกสารไปโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย ก็จะดำเนินการแจ้งความดำเนินคดีกับผู้ที่เกี่ยวข้องต่อไป ยืนยันว่าการแจ้งความกลับนั้น ไม่ได้ทำไปเพราะความแค้นส่วนตัว แต่ถ้านายษิทราทำผิดกฎหมาย จึงต้องดำเนินการตามขั้นตอน ทั้งนี้มองว่านายษิทราออกมาทำลายความน่าเชื่อถือของตนเพื่อล้างแค้นที่เคยไปกล่าวหา ก่อนหน้านี้หากเรื่องดังกล่าวไม่จริง เหตุใดจึงไม่เคยออกมาชี้แจงเลย