นายอับเดลาห์ โมฮัมเหม็ด อับเชบี อุปทูตซาอุดีอาระเบียประจำประเทศไทย ได้เข้าพบกับ พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ผู้บัญชาการสำนักงานตำรวจตรวจคนเข้าเมืองของไทย เมื่อวันอังคาร (8 ม.ค.) เพื่อหารือเกี่ยวกับชะตากรรมของ น.ส.ราฮัฟ โมฮัมเหม็ด อัล-กูนุน หญิงสาววัย 18 ปีชาวซาอุดีอาระเบีย ที่หลบหนีมายังประเทศไทย โดย น.ส.อัล-กูนุน กล่าวว่า เธอกลัวว่าครอบครัวจะฆ่าเธอ และเธอเก็บตัวอยู่ในห้องพักโรงแรมในกรุงเทพ เพื่อหลีกเลี่ยงการถูกส่งตัวกลับประเทศ ขณะที่สำนักข้าหลวงใหญ่ผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติ หรือยูเอ็นเอชซีอาร์ กำลังดำเนินการใบยื่นขอสถานะผู้ลี้ภัยของเธอ ก่อนที่เธอจะสามารถแสวงหาที่ลี้ภัยในประเทศที่ 3 
เรื่องราวของ น.ส.อัล-กูนุน ทำให้ทั่วโลกหันมาให้ความสนใจอีกครั้ง กับกฎเกณฑ์ทางสังคมที่เข้มงวดของซาอุดีอาระเบีย ซึ่งรวมถึงสตรีซาอุฯ ต้องได้รับอนุญาตจากผู้ชายที่เป็น “ผู้พิทักษ์” สำหรับการเดินทาง ซึ่งข้อนี้กลุ่มสิทธิมนุษยชนกล่าวว่า สามารถกักกันผู้หญิงหรือเด็กหญิงให้ตกเป็นเหมือนนักโทษของครอบครัวที่ทารุณโหดร้ายได้
พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ เผยเมื่อวันอังคารว่า พ่อของ น.ส.อัล-กูนุน เดินทางมาถึงกรุงเทพฯ แล้ว และต้องการพบหน้าลูกสาว แต่พ่อและพี่ชายของเธอจะต้องรอ และดูว่ายูเอ็นเอชซีอาร์จะอนุญาตให้พบเธอหรือไม่
ล่าสุด น.ส.อัล-กูนุน ได้ย้ำข้อเรียกร้องของเธอในการขอลี้ภัยในแคนาดา, สหรัฐ, ออสเตรเลีย หรือไม่ก็สหราชอาณาจักร ทั้งนี้ ไม่มีโอกาศที่จะกลับไปซาอุดีอาระเบียอีกแล้ว เพราะก่อนหน้าเธอประกาศละทิ้งศาสนาอิสลาม คือการเลิกนับถือไปแล้ว ซึ่งมีโทษหนักถึงประหารชีวิตในซาอุดีอาระเบีย
