รัสเซียตามล่า “ขุมทรัพย์นโปเลียน”

2019-01-08 09:20:33

รัสเซียตามล่า “ขุมทรัพย์นโปเลียน”

Advertisement

นายอิยาเชสลาฟ ริซคอฟ นักประวัติศาสตร์ชื่อดังชาวรัสเซีย ค้นพบทฤษฎีใหม่ที่จะเป็นเหมือนลายแทง นำไปสู่ขุมทรัพย์มหาสมบัติในตำนาน ที่เล่าขานกันมานานว่า จักรพรรดินโปเลียนแห่งฝรั่งเศส ซุกซ่อนทรัพย์สมบัติมูลค่ามหาศาล ประกอบด้วยเพชรนิลจินดาและทองคำ เต็มรถม้าหลายคัน ที่ปล้นสะดมจากรัสเซีย ในระหว่างการล่าถอยกองทัพอย่างหายนะจากกรุงมอสโก เมื่อปี พ.ศ. 2355

ริซคอฟให้สัมภาษณ์หนังสือพิมพ์ท้องถิ่น “โรบอชี พุต” ว่า บรรดานักล่าสมบัติหลายกลุ่ม ออกค้นหาขุมทรัพย์นโปเลียนผิดที่ ตลอดระยะเวลากว่า 200 ปีที่ผ่านมา หากอยากเจอพวกเขาต้องไปที่รุดเนีย (Rudnya) เมืองชนบทขนาดเล็กทางภาคตะวันตก บ้านเกิดของเขาเอง ใกล้เขตแดนเบลารุส

มีเสียงเล่าลืออย่างต่อเนื่องมากว่า 200 ปีว่า “กองทัพใหญ่” ที่พ่ายแพ้สงครามของนโปเลียน ล่าถอยทัพกลับฝรั่งเศสพร้อมกับทองคำน้ำหนักกว่า 80 ตัน เพชรพลอย และสิ่งของมีค่าอื่น ๆ ที่ปล้นไปจากกรุงมอสโก ทรัพย์สมบัติเหล่านี้ถูกฝังซ่อนไว้กลางทาง เนื่องจากการเดินทางที่ยากลำบากในฤดูหนาวอันแสนหฤโหด ที่แม้แต่ทหารหลายแสนคนยังเอาชีวิตตัวเองไม่รอด




ยังไม่มีผู้ใดค้นพบแม้แต่ร่องรอยของมหาสมบัติชุดนี้ แต่จากการศึกษาค้นคว้าโดยละเอียดของริซคอฟ พบว่า นายพล ฟิลิป เดอ เซกูร์ หนึ่งในนายทหารคนสนิทคู่พระทัยของนโปเลียน เคยเผยเป็นนัยว่า สมบัติถูกฝังไว้ใต้ก้นทะเลสาบเซมโลโว ในแคว้นสโมเลนสก์ ทางภาคตะวันตกเฉียงเหนือสุดของรัสเซีย

สถานที่แห่งนี้มีความเป็นไปได้ เนื่องจากประวัติศาสตร์ระบุว่า กองทัพฝรั่งเศสทิ้งอาวุธยุทธภัณฑ์ไว้ในพื้นที่ใกล้เคียง แต่เจ้าหน้าที่รัสเซีย คณะนักโบราณคดี และนักล่าสมบัติหลายทีม เคยค้นหาในทะเลสาบแห่งนี้หลายครั้งแล้ว นับตั้งแต่คริสต์ทศวรรษ 1830 (พ.ศ. 2373) แต่ก็ไร้วี่แวว



นักประวัติศาสตร์อื่น ๆ อีกหลายคนคิดว่า ข้อกล่าวอ้างของนายพล เดอ เซกูร์ เป็นความพยายามเบี่ยงเบนความสนใจจากจุดที่ซ่อนสมบัติแท้จริง พร้อมกับตั้งข้อสันนิษฐานว่า ใต้ก้นแม่น้ำเบเรซินา ในประเทศเบลารุส เป็นอีกสถานที่ที่มีความเป็นไปได้ แต่ก็เช่นกัน การค้นหาโดยทีมสำรวจร่วม ฝรั่งเศส-เบลารุส เมื่อปี พ.ศ. 2555 ไม่พบร่องรอยใด ๆ

ทฤษฎีของริซคอฟถูกเปิดเผยผ่านสื่อระดับชาติของรัสเซีย เมื่อวันขึ้นปีใหม่ที่ผ่านมา และได้รับความสนใจในวงกว้าง เนื่องจากสมมุติฐานมีเหตุผล และมีความเป็นไปได้สูง

ริซคอฟเชื่อว่า นโปเลียนส่งกองคาราวานรถม้าลากชุดปลอม เพื่อหลอกให้ทีมสายลับรัสเซียคิดว่าทรัพย์สมบัติถูกนำไปซ่อนไว้ในทะเลสาบเซมโลโว ขณะที่นโปเลียนและขบวนคาราวานมหาสมบัติของจริง แอบเล็ดลอดเดินทางลงทางใต้สู่เมืองรุดเนีย และทะเลสาบบอลชายา รูตาเวค ที่อยู่ใกล้เคียง ซึ่งที่นี่นโปเลียนให้ทหารทำช่องทางลับสู่ก้นทะเลสาบ แล้วฝังทองคำและเพชรนิลจินดาไว้ใต้กองโคลนลึกลงไป



เพื่อสนับสนุนทฤษฎีนี้ ริซคอฟอ้างบันทึกของเจ้าหน้าที่ท้องถิ่นเมืองรุดเนีย ที่ระบุว่าเคยมีช่องทางลับลงสู่ก้นทะเลสาบบอลชายา รูตาเวค จริง แต่มันผุกร่อนสูญสลายไปหลังปี พ.ศ. 2355 และการวิเคราะห์ในปี พ.ศ. 2532 แสดงให้เห็นปริมาณเข้มข้นเป็นพิเศษของประจุแร่เงินในน้ำของทะเลสาบ

หากมีเครื่องมืออุปกรณ์ที่ถูกต้อง และทีมผู้เชี่ยวชาญตัวจริง ขุมทรัพย์มหาสมบัติจะถูกกู้ขึ้นจากใต้ก้นทะเลสาบแห่งนี้อย่างแน่นอน

แต่ก็มีหลายคนที่ไม่เชื่อทฤษฎีของริซคอฟ รวมถึงนายวลาดิเมียร์ โพรีวาเยฟ นักล่าสมบัติมืออาชีพชื่อดังชาวรัสเซีย ที่เคยใช้เวลาตามล่าขุมทรัพย์นโปเลียนหลายปี แต่ไม่สำเร็จ โพรีวาเยฟกล่าวว่า ความเชื่อของริซคอฟเป็น “นิยายเพ้อฝันล้วน ๆ” ไม่มีทางเป็นไปได้

เหตุผลแรกคือ ไม่น่าเป็นไปได้ที่นโปเลียนจะละทิ้งทหารทั้งกองทัพ และทิ้งมหาสมบัติ ในขบวนคาราวานที่ต้องใช้ม้าลากถึง 400 ตัวไว้กลางทาง ส่วนช่องทางลับลงสู่ก้นทะเลาสาบ และอุโมงค์ลับใต้ทะเลสาบ เป็นไปไม่ได้ที่จะใช้ทหารเพียงไม่กี่ร้อยคน สร้างโดยใช้เวลาแค่ไม่กี่วัน ท่ามกลางสภาพอากาศหนาวเย็นยะเยือกของปลายฤดูใบไม้ร่วง



โพรีวาเยฟไม่ปฏิเสธว่าขุมทรัพย์นโปเลียนอาจจะมีอยู่จริง แต่การค้นพบตามความคิดของเขา ไม่น่าจะเกิดจากการค้นหา แต่จะพบโดยบังเอิญมากกว่า อยู่ที่ว่าใครจะมีโชค และจะพบเมื่อใด