นายกฯให้กำลังใจผู้ประสบภัยพายุ “ปาบึก”

2019-01-07 14:50:10

นายกฯให้กำลังใจผู้ประสบภัยพายุ “ปาบึก”

Advertisement

นายกรัฐมนตรีลงพื้นที่ตรวจเยี่ยม ให้กำลังใจผู้ประสบภัยจากพายุโซนร้อนปาบึกที่ จ.นครศรีธรรมราช สั่งสำรวจความเสียหายให้เสร็จใน 15 วัน ซ่อมแซมระบบสาธารณูปโภคภายใน 7 วัน ซ่อมแซมที่อยู่อาศัยโดยเฉพาะความเสียหายทั้งหลังให้เสร็จใน 1 เดือน ขอประชาชนแจ้งความเสียหายกับเจ้าหน้าที่ เพื่อเร่งให้การช่วยเหลืออย่างเร็วที่สุด ระบุลงพื้นที่ด้วยใจ รักทุกคน รักประเทศไทย ประชุม ครม. 8 ม.ค. กำชับการช่วยเหลือให้เป็นไปอย่างเร่งด่วน


เมื่อเวลา 07.00 น. วันที่ 7 ม.ค. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้า คสช. พร้อมคณะเดินทางลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมผู้ประสบภัยจากเหตุพายุโซนร้อนปาบึกที่ จ.นครศรีธรรมราช เมื่อเดินทางมาถึง จ.นครศรีธรรมราช นายกรัฐมนตรีพร้อมคณะเดินทางไปยังบ้านเลขที่ 116 หมู่ที่ 7 ต.คลองน้อย อ.ปากพนัง เพื่อวางพวงหรีดเคารพศพนายปรีชา จันทร์แก้ว ผู้เสียชีวิตจากเหตุพายุโซนร้อนปาบึก ซึ่งก่อนเสียชีวิตได้ช่วยเหลือชาวบ้านอพยพจากเหตุน้ำท่วม และญาติได้พบศพใกล้บริเวณบ้านพัก คาดว่าเป็นตะคริวหรือเป็นลมทำให้เสียชีวิตในวันที่ 4 ม.ค. 2562 ขณะนี้ศพอยู่ในพระบรมราชานุเคราะห์จนเสร็จสิ้นงาน ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีได้พูดคุยให้กำลังใจกับญาติผู้เสียชีวิต พร้อมมอบเงินช่วยเหลือให้แก่ครอบครัวผู้เสียชีวิตตามระเบียบราชการ จำนวน 50,000 บาท


จากนั้น นายกรัฐมนตรีได้กล่าวพบปะกับประชาชนที่มาให้การต้อนรับตอนหนึ่งว่า ได้ติดตามสถานการณ์อยู่ตลอดเวลา รู้สึกเศร้าใจกับเหตุการณ์และความสูญเสียที่เกิดขึ้น แต่ก็ดีใจที่ได้เห็นรอยยิ้มของประชาชน พร้อมฝากให้ อสม. ผู้นำส่วนท้องถิ่นดูแลประชาชนในพื้นที่อย่างเต็มที่ ในส่วนของรัฐบาลพร้อมให้การช่วยเหลือในทุก ๆ ด้าน พร้อมสั่งการให้หน่วยงานราชการในพื้นที่เร่งฟื้นฟูซ่อมแซมบ้านเรือน ถนน ทาง รวมถึงความเสียหายอื่น ๆ เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนให้กับประชาชน โดยให้เร่งสำรวจความเสียหายให้แล้วเสร็จภายใน 15 วัน ซ่อมแซมระบบสาธารณูปโภคให้แล้วเสร็จภายใน 7 วัน และซ่อมแซมที่อยู่อาศัยโดยเฉพาะความเสียหายทั้งหลังให้แล้วเสร็จภายใน 1 เดือน

จากนั้นเวลา 11.00 น. นายกรัฐมนตรีพร้อมคณะเดินทางต่อไปยังสามแยกเนินตาขำ ต.บางพระ อ.ปากพนังเพื่อตรวจเยี่ยมให้กำลังใจผู้ประสบภัย และตรวจสภาพความเสียหายบริเวณแหลมตะลุมพุก โดยมีผู้ประสบภัยมาให้การต้อนรับกว่า 3,000 คน


นายกรัฐมนตรีได้กล่าวพบปะผู้ประสบภัยตอนหนึ่งว่า การลงพื้นที่มาวันนี้ เพื่อมาเยี่ยมเยียนให้กำลังใจประชาชน ซึ่งทุกครั้งที่มาก็มารับฟังปัญหาความเดือดร้อนจากประชาชนแล้วนำไปแก้ไข โดยเฉพาะแผนการบริหารจัดการน้ำ รัฐบาลได้ดำเนินการไปแล้วในหลาย ๆ ส่วน พร้อมกล่าวว่าช่วงระยะเวลาที่ผ่านมารู้สึกไม่สบายใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น จนมาถึงวันนี้ได้มาเห็นกับตา เห็นรอยยิ้มของประชาชนรู้สึกคลายความกังวลขึ้นมาก ไม่ว่าพายุปาบึกจะรุนแรงแค่ไหน ก็สู้กำลังใจและความเข้มแข็งของประชาชนไม่ได้ และกล่าวขอบคุณประชาชนที่ให้ความร่วมมือเชื่อฟังส่วนราชการ อพยพออกจากพื้นที่ ทำให้ความเสียหายเกิดขึ้นน้อยกว่าที่ผ่านมา


นายกรัฐมนตรี กล่าวต่อว่า ไม่ว่าเกิดเหตุที่ไหน เป็นหน้าที่ของรัฐบาลในการดูแล ปกป้อง ช่วยเหลือประชาชน สำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นรัฐบาลจะระดมเจ้าหน้าที่เร่งให้การช่วยเหลืออย่างเร็วที่สุด ขอให้ประชาชนเร่งแจ้งความเสียหายด้านต่างๆ กับเจ้าหน้าที่ เพื่อที่จะได้ให้ความช่วยเหลือต่อไป ในส่วนที่สามารถช่วยเหลือได้ตามระเบียบราชการขอให้การช่วยเหลือทันที โดยรัฐบาลไม่ต้องการให้ประชาชนเดือดร้อน เน้นหลักบริหารราชการทำเพื่อส่วนร่วมเป็นหลัก จะต้องไม่ทำให้ส่วนรวมเสียหาย และกระทบกับระบบงบประมาณของประเทศ

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า แผ่นดินไทยเป็นแผ่นดินที่ศักดิ์สิทธิ์ แผ่นดินที่ศักดิ์สิทธิ์ต้องอยู่คู่กับคนมีคุณธรรม ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นขอให้ทุกคนเข้มแข็ง และก้าวผ่านไปให้ได้ด้วยความรัก ความสามัคคี ทั้งนี้ ขอนำความห่วงใยจากสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวที่ทรงมีต่อประชาชน ทรงรับสั่งกำชับให้รัฐบาลทำหน้าที่อย่างเต็มที่ให้ดีที่สุด ให้ทำงานอย่างบูรณาการในทุก ๆ ด้าน พร้อมรับสั่งให้นำรายได้จากการจัดงานอุ่นไอรักบางส่วนมาช่วยเหลือผู้ประสบภัย

ต่อมาเวลา 12.00 น. นายกรัฐมนตรีพร้อมคณะเดินทางไปยังโรงเรียนราชประชานุเคราะห์ ตำบลแหลมตะลุมพุก อำเภอปากพนัง เพื่อเยี่ยมผู้ประสบภัย และนักเรียนโรงเรียนราชประชานุเคราะห์ ทั้งนี้ โดยนายกรัฐมนตรีได้เดินทักทายอย่างเป็นกันเอง ทั้งนี้ ผู้ประสบภัยต่างเปล่งเสียงให้กำลังใจ บอกให้นายกรัฐมนตรีอยู่ต่อไปนาน ๆ และบอกรักนายกฯ ประยุทธ์ ซึ่งนายกรัฐมนตรีได้กล่าวขอบคุณพร้อมสอบถามความเดือดร้อนของผู้ประสบภัยด้วยความห่วงใย




นายกฯ กล่าวตอนหนึ่งว่า มาลงพื้นที่ด้วยใจ รักทุกคน และรักประเทศไทย อะไรที่เป็นปัญหาของประชาชน รัฐบาลพร้อมรับไปพิจารณา ซึ่งในวันที่ 8 ม.ค. จะมีการประชุม ครม. โดยจะกำชับเรื่องการช่วยเหลือให้เป็นไปอย่างเร่งด่วนอีกครั้งหนึ่ง ซึ่งรัฐบาลจะทำอย่างเต็มที่ ในส่วนเรื่องของปัญหาสินค้าเกษตร และการประมง ขอให้ประชาชนปรับเปลี่ยนพฤติกรรมให้สอดคล้องกับสภาพปัจจุบัน อย่านำปัญหาเหล่านั้นมาเป็นปัญหาการเมือง อย่าให้ใครมาสร้างความขัดแย้ง เพราะกำลังเดินหน้าสู่การเลือกตั้งด้วยความบริสุทธิ์ยุติธรรม ขอให้เลือกคนดีเข้ามาทำหน้าที่แทนประชาชน

โอกาสนี้ นายกรัฐมนตรีได้ปรุงอาหารคั่วกลิ้งหมูที่โรงครัวกองบัญชาการกองทัพไทย และชิมไข่เจียวหมูทอดจากโรงครัว ก่อนจะร่วมรับประทานอาหารกับผู้ประสบภัย ณ อาคารโรงเรียนราชประชานุเคราะห์ และมอบอุปกรณ์กีฬาให้ผู้แทนโรงเรียน