ม.วลัยลักษณ์เปิดโรงครัวพร้อมรับบริจาคเงินและสิ่งของช่วยเหลือผู้ประสบภัย “พายุปาบึก” ขณะที่ รฟท.ประกาศปรับเปลี่ยนการเดินรถ หลังน้ำท่วมเส้นทางรถไฟ
วันที่ 6 ม.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่าหลังจากพายุ “ปาบึก” พัดถล่มพื้นที่ จ.นครศรีธรรมราช ส่งผลให้ประชาชนจำนวนมากได้รับความเดือดร้อน โดยเฉพาะเรื่องอาหารการกิน เนื่องจากมีผู้ได้รับผลกระทบและอพยพมาอาศัยในศูนย์อพยพเกือบ 200 จุดทั่วจังหวัดมีจำนวนมาก เกินความคาดหมาย อย่างไรก็ตามได้มีการเปิดโรงครัวพระราชทานขึ้นหลายจุด หน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชนได้เปิดโรงครัวประกอบอาหารนำไปช่วยเหลือผู้ประสบภัยอย่างต่อเนื่อง ในขณะที่กระแสธารน้ำใจจากทั่วประเทศหลั่งไหลลงมาช่วยเหลือผู้ประสบภัยในพื้นที่ 6 อำเภอตลอดแนวชายฝั่งที่ประสบภัยอย่างต่อเนื่อง
ศ.ดร.สมบัติ ธำรงธัญวงศ์ อธิการบดี ม.วลัยลักษณ์ เปิดเผย ถึงการช่วยเหลือผู้ประสบภัยจากพายุโซนร้อนปาบึกในพื้นที่จังหวัดนครศรีธรรมราชและใกล้เคียงว่า ขณะนี้ได้มีการจัดตั้งศูนย์อพยพและช่วยเหลือผู้ประสบภัยพายุปาบึกขึ้น โดยได้เปิดอาคารต่างๆภายในศูนย์กีฬาและสุขภาพ เพื่อรองรับเป็นศูนย์อพยพเพื่อรองรับประชาชนผู้ประสบภัย โดยจะรองรับคนได้ประมาณ 5,000 คน
ในขณะเดียวกันนักศึกษา คณาจารย์ เจ้าหน้าที่ ม.วลัยลักษณ์ ได้ร่วมกันเปิดโรงครัวผลิตอาหารกล่องแจกจ่ายให้แก่ประชาชนในพื้นที่ชุมชนรายรอบมหาวิทยาลัย พื้นที่อำเภอท่าศาลา และอำเภอใกล้เคียงในจังหวัดนครศรีธรรมราชเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนในเบื้องต้นไปก่อน โดยโรงครัวจะมีการผลิตอาหารกล่องวันละ 2,000 กล่อง ในระหว่างวันที่ 4-6 ม.ค.นี้ ผู้สนใจจะรับข้าวกล่องสามารถติดต่อมายัง คุณปิยวัชน์ คงอินทร์ หัวหน้าส่วนกิจการนักศึกษา โทร.083-190-4570 และ 084-5824132
นอกจากนี้ ม.วลัยลักษณ์ยังเปิดรับบริจาคเงิน ยาและเวชภัณฑ์ รวมถึงสิ่งของจำเป็นต่างๆ เพื่อนำช่วยเหลือผู้ประสบภัยดังกล่าว โดยสามารถร่วมบริจาคเงินได้ที่บัญชีธนาคารกรุงไทย สาขาท่าศาลา ประเภทออมทรัพย์ ชื่อบัญชี ศูนย์ช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วม มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์ เลขที่บัญชี 828-0-85961-6 และรับบริจาคสิ่งของ ณ อาคารกิจกรรมนักศึกษา โทรศัพท์ 094-2656423, 083-1904570, 063-5916454, 063-0809039
โดยหลังจากที่พายุ “ปาบึก” พัดขึ้นฝั่งและเคลื่อนตัวไปตามแนว อ.เมือง พระพรหม ลานสกา ช้างกลาง ทุ่งสง ทุ่งใหญ่ ทำให้เกิดฝนตกหนักไหลบ่าท่วมพื้นที่หลายอำเภอ โดยเฉพาะ ในเขตตัวเมืองนครศรีธรรมราช และทำให้มีมวลน้ำท่วมสูงไหลเข้าท่วมทางรถไฟและน้ำไหลเซาะหินโรยทางระหว่างสถานีโคกคราม – นครศรีธรรมราช หลายจุด จนทางการรถไฟไม่สามารถปล่อยการเดินรถตามปกติได้ เพื่อความปลอดภัยในการเดินทางของผู้โดยสาร ทางการรถไฟจึงประกาศปรับเปลี่ยนการเดินรถในเส้นทางสายใต้ตั้งแต่วันที่ 5 ม.ค. 2562 โดยให้เดินรถ ถึงแค่สถานีชุมทางทุ่งสง และจะทำการขนถ่ายผู้โดยสารโดยรถยนต์ไปยังสถานีปลายทางต่อไป ประกอบด้วย เที่ยวไป ขบวนรถเร็วที่ 173 กรุงเทพฯ – นครศรีธรรมราช ออกกรุงเทพฯ เวลา 17.35 น. ถึงชุมทางทุ่งสง เวลา 08.22 น. ขบวนรถด่วนที่ 85 กรุงเทพ ฯ– นครศรีธรรมราช ออกกรุงเทพฯ เวลา 19.30 น. ถึงชุมทางทุ่งสง เวลา 09.27 น. ขบวนรถด่วนที่ 83 กรุงเทพฯ – ตรัง ออกจากกรุงเทพฯ เวลา 17.05 น. ถึงชุมทางทุ่งสง เวลา 06.25 น. ขบวนรถเร็วที่ 167 กรุงเทพฯ – กันตัง ออกจากกรุงเทพเวลา 18.30 น. ถึงชุมทางทุ่งสง เวลา
ในขณะที่เที่ยวกลับ ขบวนรถเร็วที่ 174 นครศรีธรรมราช- กรุงเทพ ออกชุมทางทุ่งสง เวลา 14.24 น. ถึงกรุงเทพ เวลา 05.10 น. ขบวนรถด่วนที่ 86 นครศรีธรรมราช - กรุงเทพ ออกชุมทางทุ่งสง เวลา 16.20 น. ถึงกรุงเทพ เวลา 06.30 น. ขบวนรถด่วนที่ 84 ตรัง – กรุงเทพ ออกชุมทางทุ่งสง เวลา 15.17 น. ถึงกรุงเทพ เวลา 05.35 น.ขบวนรถเร็วที่ 168กันตัง-กรุงเทพ ออกชุมทางทุ่งสง เวลา 15.17 น. ถึงกรุงเทพ เวลา 05.35 น.
นอกจากนี้การรถไฟยังมีการปรับเปลี่ยนการเดินรถในขบวนรถท้องถิ่น ตั้งแต่วันที่ 5 ม.ค.62 ที่เดินรถระหว่างสถานีนครศรีธรรมราช - สุไหงโกลก และนครศรีธรรมราช - ยะลา โดยเปิดให้เดินรถได้ถึง สถานีชุมทางเขาชุมทอง และสถานีพัทลุงทั้งไป–กลับ จำนวน 4 ขบวน ประกอบด้วย ขบวนรถท้องถิ่น ขบวนรถท้องถิ่นที่ 451 นครศรีธรรมราช – สุไหงโกลก งดเดิน ช่วงสถานีนครศรีธรรมราช – ชุมทางเขาชุมทอง ขบวนรถท้องถิ่นที่ 455 นครศรีธรรมราช – ยะลา งดเดิน ช่วงนครศรีธรรมราช – พัทลุง ขบวนรถท้องถิ่นที่ 452 สุไหงโกลก –นครศรีธรรมราช งดเดิน ช่วงชุมทางเขาชุมทองสถานีนครศรีธรรมราช ขบวนรถท้องถิ่นที่ 456 ยะลา - นครศรีธรรมราช งดเดิน ช่วงพัทลุง – นครศรีธรรมราช
อย่างไรก็ตามจึงขอให้ผู้โดยสารที่มีความประสงค์จะเดินทางในเส้นทางรถไฟสายใต้ ตรวจสอบและติดต่อสอบถามรายละเอียดก่อนเดินทาง หากผู้โดยสารที่มีตั๋วโดยสารไม่ประสงค์จะเดินทาง สามารถคืนตั๋วโดยสารได้เต็มราคา และหากระดับน้ำลดหรือมีการเปลี่ยนแปลงทางการรถไฟจะประชาสัมพันธ์แจ้งให้ทราบทั่วกัน