นักรบชาวพุทธในรัฐยะไข่บุกโจมตีฐานตำรวจชายแดน 4 แห่งเมื่อวันศุกร์ สังหารตำรวจ 7 นาย และจับเป็นตัวประกันอีก 14 นาย เหตุเกิดขณะที่ทั่วประเทศกำลังฉลองครบรอบ 71 ปีวันเอกราช
รัฐยะไข่ ทางภาคตะวันตกสุดของเมียนมา กลับคืนสู่ความรุนแรงอีกรอบเมื่อต้นเดือน ธ.ค. เมื่อการสู้รบเพิ่มความถี่ขึ้น ระหว่างทหารกองทัพรัฐบาล กับนักรบกองทัพอาระกัน หรือ เอเอ (Arakan Army) ที่ต้องการสิทธิปกครองตนเองมากขึ้น สำหรับชนกลุ่มน้อยชาวพุทธในรัฐยะไข่
เดือน ส.ค. 2560 กองทัพเมียนมาปฏิบัติการกวาดล้างกลุ่มติดอาวุธชาวมุสลิมโรฮีนจาในรัฐยะไข่ เพื่อตอบโต้การโจมตีฐานตำรวจชายแดน ส่งผลให้พลเรือนโรฮีนจาราว 720,000 คน หลบหนีข้ามแดนเข้าสู่บังกลาเทศ
นายขิ่น ธู ข่า โฆษกเอเอ เผยว่า นักรบเอเอโจมตีฐานตำรวจชายแดนเมียนมา 4 แห่ง ในเมืองทางเหนือของรัฐยะไข่ และต่อมาได้ล่าถอยพร้อมกับศพ "ศัตรู" 7 ศพ และควบคุมตำรวจไปเป็น "เชลยศึก" อีก 14 นาย นายขิ่นกล่าวว่า เอเอจะไม่ทำอันตรายเชลยเหล่านี้ โดยจะจัดการตามหลักกฎหมายระหว่างประเทศ
นายขิ่นกล่าวว่า การโจมตีฐานตำรวจชายแดนเมื่อวันศุกร์ เป็นการตอบโต้ปฏิบัติการทางทหารของกองทัพเมียนมา ที่มีต่อเอเอในระยะหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา
ทางด้าน นายซอ มิน ตุน โฆษกกองทัพเมียนมา กล่าวว่า หน่วยความมั่นคงได้ออกปฏิบัติการตอบโต้การโจมตีเมื่อวันศุกร์ ซึ่งเกิดขึ้นทางตอนเหนือของเมืองบูทิด่องและเมืองมองดอว์ ใกล้เขตแดนบังกลาเทศ ปฏิบัติการทางทหารในพื้นที่จะดำเนินต่อไป จนกว่าจะมั่นใจในความสงบ
นายซอเผยอีกว่า เอเอเป็นกลุ่มติดอาวุธชาวพุทธยะไข่ ไม่ใช่ชาวมุสลิมโรฮีนจา การโจมตีเริ่มขึ้นเพียงไม่กี่นาที หลังจากพิธีชักธงชาติทั่วประเทศ เพื่อรำลึกครบรอบ 71 ปีวันเอกราช นับตั้งแต่เมียนมาพ้นจากการเป็นดินแดนอาณานิคมของอังกฤษ