พรรคเดโมแครตลงมติเห็นชอบกฎหมายงบประมาณ ซึ่งมีจุดมุ่งหมายเพื่อยุติปัญหา “ชัตดาวน์” หน่วยงานรัฐ แต่ไม่อนุมัติเงินสร้างกำแพงปิดพรมแดนตามที่โดนัลด์ ทรัมป์ต้องการ แม้ทำเนียบขาวขู่วีโต้ก็ตาม
สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐ ซึ่งมีพรรคเดโมแครตครองเสียงข้างมาก ลงมติเมื่อวันพฤหัสบดี ยุติ “ชัตดาวน์” หรือการปิดหน่วยงานบางส่วนของรัฐบาลแล้ว แต่อาจถูกประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐ ใช้สิทธิวีโต้ หรือยับยั้ง ซึ่งทรัมป์ กล่าวว่า เขาจะปฏิเสธมาตรการใดก็ตามที่ไม่ได้ส่งเสริมงบประมาณในการก่อสร้างกำแพงกั้นพรมแดนสหรัฐ-เม็กซิโก ตามที่เขาเสนอ
แนนซี เปโลซี ประธานสภาผู้แทนราษฎรจากพรรคเดโมแครต กล่าวว่า จะไม่มีการอนุมัติเงินงบประมาณเพื่อสร้างกำแพงแน่นอน ขณะที่ วุฒิสภา ซึ่งมีพรรครีพับลิกันครองเสียงข้างมาก บอกว่า อาจไม่ลงมติรับรองร่างงบประมาณของพรรคเดโมแครต เป็นกฎหมาย
มิทช์ แม็คคอนเนล ผู้นำเสียงข้างมากในวุฒิสภา กล่าวว่า สมาชิกพรรครีพับลิบันในวุฒิสภา จะไม่สนับสนุนมาตรการต่าง ๆ ที่ทรัมป์ไม่เห็นด้วย และเรียกการเคลื่อนไหวของพรรคเดโมแครตว่า “ล้มเหลวตั้งแต่เริ่มต้น” และ “เป็นการแสดงละครการเมือง”

กฎหมายที่ผ่านโดยสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรนั้น จะเพิ่มงบประมาณให้หน่วยงานความมั่นคงแห่งมาตุภูมิ ไปจนถึงวันที่ 8 กุมภาพันธ์ และหน่วยงานอื่น ๆ อีกหลายแห่งจนถึงเดือนกันยายน
ทั้งนี้ การปิดหน่วยงานรัฐบาลบางส่วน เริ่มต้นขึ้นเมื่อรัฐสภาและประธานาธิบดีทรัมป์ ไม่สามารถบรรลุข้อตกลงกันได้เกี่ยวกับร่างกฎหมายงบประมาณในเดือนธันวาคมที่ผ่านมา โดยสมาชิกพรรครีพับลิกันของทรัมป์ ได้ผ่านร่างงบประมาณเบื้องต้นสำหรับการสร้างกำแพง รวมทั้งสิ้น 5,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เมื่อครั้งที่พรรครีพับลิกันยังครองเสียงข้างมากในสภาผู้แทนราษฎร แต่กลับไม่สามารถได้เสียงสนับสนุนที่ต้องการคือ 60 เสียงในวุฒิสมาชิก ที่มี 100 ที่นั่ง

ตามผลดังกล่าวนี้ คาดว่ากฎหมายฉบับนี้ของพรรคเดโมแครตจะถูกตีตกในวุฒิสภา ซึ่งก็จะทำให้พรรคเดโมแครต และรัฐบาล งัดข้อกันต่อไป และจะทำให้การปิดหน่วยงานรัฐยืดเยื้อต่อไป ซึ่งผ่านสัปดาห์ที่ 2 แล้ว