"วันคล้ายวันมรณภาพสมเด็จพระพุทธชินวงศ์”
วันนี้ ๓ มกราคม เมื่อปี ๒๕๕๑ เวลา ๐๗.๕๓ น. เป็นวันที่วงการคณะสงฆ์ พุทธศาสนิกชน และลูกศิษย์ทุกคน ได้สูญเสียครั้งสำคัญที่สุดครั้งหนึ่งในชีวิต
เป็นวันที่สมเด็จพระพุทธชินวงศ์ หรือที่ลูกศิษย์เรียกว่า หลวงพ่อสมเด็จฯ ได้ละขันธ์ มรณภาพด้วยอาการอันสงบ ณ รพ.ศิริราช สิริอายุ ๘๑ ปี ๕ เดือน ๑๒ วัน
ยังความเศร้าโศกเสียใจยิ่งนักแก่พุทธศาสนิกที่เคารพศรัทธาโดยทั่วไป และลูกศิษย์ทุกคน
ตลอดระยะเวลานับแต่ถือกำเนิดเมื่อวันที่ ๑๔ มิถุนายน ๒๔๖๙ ที่บางแพ ราชบุรี
บรรพชา ๔ พฤศจิกายน ๒๔๘๐ ขณะอายุได้ ๑๒ ปี ที่วัดบางแพเหนือ และอุปสมบทวันที่ ๒๒ เมษายน ๒๔๘๙ ขณะอายุได้ ๒๐ ปี ณ พระอุโบสถวัดมกุฎกษัตริยารามราชวรวิหาร
หลวงพ่อสมเด็จ ฯ ได้ขวนขวายศึกษาเล่าเรียนด้วยความอุตสาหะ และวิริยะ จนประสบความสำเร็จอย่างดียิ่ง ทั้งทางโลกและทางธรรม เป็นพระมหาเถระรูปแรก ที่สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาเอก (เท่าที่สืบค้นพบ)
อีกทั้งแม้ในขณะ และหลังจากได้บำเพ็ญอัตตประโยชน์จนสมบูรณ์บริบูรณ์แล้ว
หลวงพ่อสมเด็จ ฯ ได้บำเพ็ญคุณูปการเพื่อตอบแทนพระพุทธศาสนา และหิตานุหิตประโยชน์แก่พุทธศาสนิกชนโดยทั่วไป อย่างใหญ่หลวง เป็นอเนกอนันต์
ได้สนองงานดูแลการปกครองคณะสงฆ์ เป็นอย่างดีเรื่อยมา จนได้รับพระมหากรุณาโปรดเกล้า ฯ พระราชทานสมณศักดิ์เป็นสมเด็จพระราชาคณะ มีพระราชทินนนามตามที่จารึกในพระสุพรรณบัฎว่า "สมเด็จพระพุทธชินวงศ์ ฯ"
สมเด็จพระพุทธชินวงศ์ (ประจวบ กนฺตาจาโร) เป็นสมเด็จพระราชาคณะฝ่ายธรรมยุติกนิกาย อดีตเคยดำรงตำแหน่งสำคัญ เช่น คณะผู้ปฏิบัติหน้าที่สมเด็จพระสังฆราช รักษาการเจ้าคณะใหญ่คณะธรรมยุต กรรมการมหาเถรสมาคม ประธานอำนวยการฝึกอบรมพระธรรมทูตไปต่างประเทศ (ธรรมยุต) อธิการบดีมหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัย เจ้าอาวาสวัดมกุฏกษัตริยารามราชวรวิหาร เป็นผู้ถึงพร้อมด้วยสีลาจารวัตรมีความรอบรู้ทั้งในทางคดีโลกและคดีธรรม กล่าวได้อย่างเต็มภาคภูมิว่า เป็นสมเด็จพระราชาคณะรูปแรกของไทยที่สำเร็จการศึกษาในทางคดีโลกถึงชั้นปริญญาเอก
นอกจากการปกครองคณะสงฆ์แล้ว ด้วยวิสัยทัศน์ที่กว้างไกล และด้วยความเมตตาอันหาประมาณมิได้ หลวงพ่อสมเด็จ ฯ ได้ร่วมก่อตั้งวัดญาณรังษี ที่สหรัฐอเมริกา และวัดมกุฎคีรีวัน ที่เขาใหญ่ เพื่อเผยแผ่และสืบทอดพระศาสนา
อีกทั้งได้รับภารธุระดูแลการศึกษาคณะสงฆ์ และร่วมสืบพระปณิธานด้วยการร่วมก่อตั้งสถาบันการศึกษาพระปริยัติธรรม คือ "มหาวชิราลงกรณราชวิทยาลัย" ซึ่งเป็นสถาบันการศึกษาที่ทรงเกียรติ
นอกเหนือจากการดำรงตำแหน่งเป็นอธิการบดีมหาวิทยาลัยมหามกุฎราชวิทยาลัย (ครั้งตั้งแต่เป็นสภาการศึกษามหามกุฎราชวิทยาลัย) จะเห็นได้ว่า ตลอดระยะเวลานับเนื่องมานั้น หลวงพ่อสมเด็จ ฯ ได้เมตตาบำเพ็ญคุณูปการอย่างใหญ่หลวงแก่พระพุทธศาสนา พุทธศาสนิกชน และบรรดาลูกศิษย์ทั้งหลาย
เป็นพระมหาเถระที่ติดดิน อุทิศเวลาแทบทั้งหมดเพื่อส่วนรวม เพื่อพระพุทธศาสนา เพื่อพุทธศาสนิกชนและเหล่าลูกศิษย์ พักผ่อนน้อยมาก ด้วยการทำงานที่หนักมากโดยต่อเนื่อง ทำให้สุขภาพเสื่อมถอย โดยลำดับ และต้องเข้ารับการรักษา และละสังขารจากไปอย่างไม่มีวันกลับ ทิ้งไว้แต่คุณูประการที่หลวงพ่อได้สร้างไว้เป็นมรดกของพระศาสนาสืบไป
หากหลวงพ่อสมเด็จ ฯ ยังดำรงธาตุขันธ์อยู่ ณ วันนี้ จะมีอายุได้ ๙๓ ปี
แม้หลวงพ่อสมเด็จ ฯ จะได้ละขันธ์มรณภาพแล้ว แต่จะยังดำรงอยู่ในดวงใจลูกศิษย์เสมอ ตราบนิจนิรันดร
ขอญาติโยม พุทธศาสนิกชน และลูกศิษย์ทั้งหลาย น้อมจิตน้อมใจรำลึกถึงความเมตตาอันไม่มีประมาณของหลวงพ่อสมเด็จ ฯ ที่ได้มอบให้ และบำเพ็ญกุศลอุทิศถวาย เพื่อแสดงออกซึ่งกตัญญูกตเวทิตา โดยพร้อมเพรียงกัน
สาธุ สาธุ สาธุ
วันพฤหัสบดี ๓ มกราคม ๒๕๖๒
วิริยะ ขันติ สัจจะ กตัญญู
สมาคมศิษย์เก่ามหาวชิราลงกรณราชวิทยาลัย