หน่วยกู้ภัยรัสเซียช่วยเหลือเด็กทารกเพศชายวัย 11 เดือน รอดชีวิตดุจปาฏิหาริย์ หลังติดอยู่ใต้ซากตึกที่พังถล่มจากแก๊สหุงต้มระเบิดนานเกือบ 36 ชั่วโมง ท่ามกลางสภาพอากาศหนาวเหน็บอุณหภูมิใต้จุดเยือกแข็ง
การระเบิด ซึ่งเชื่อว่าน่าจะเกิดจากแก๊สรั่วไหล ทำลายอาคารที่พักอาศัยแบบอพาร์ตเมนต์ขนาด 10 ชั้น ในเมืองอุตสาหกรรม แมกนาโตกอร์สก์ แถบเทือกเขาอูราล ซึ่งเป็นเมืองที่ตั้งของหนึ่งในโรงงานเหล็กกล้าขนาดใหญ่ที่สุดของรัสเซีย ห่างจากกรุงมอสโกไปทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ประมาณ 1,700 กิโลเมตร เมื่อช่วงรุ่งสางของวันจันทร์ (31 ธ.ค.) ทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 9 ราย และยังสูญหายอีกกว่า 30 คน
เมื่อวันอังคาร หน่วยกู้ภัยดึงร่างของ ด.ช.อิวาน โฟคิน อายุ 11 เดือน ออกจากใต้ซากอาคาร เกือบ 36 ชั่วโมงหลังจากอาคารพังถล่มลง ทารกน้อยอยู่ในอาการสาหัส มีบาดแผลแตก ฟกช้ำทั่วร่างกาย และภาวะอุณหภูมิร่างกายต่ำกว่าปกติ หลังติดอยู่ใต้ซากท่ามกลางอุณหภูมิ -20 องศาเซลเซียส ผู้เป็นพ่อถึงกับร่ำไห้ด้วยความดีใจ ที่เห็นลูกน้อยยังมีชีวิต โดยกล่าวว่า ถือเป็น “ความมหัศจรรย์ของวันขึ้นปีใหม่”
ทารกน้อยถูกนำขึ้นเครื่องบินไปรักษาตัวที่กรุงมอสโก ขณะที่นายพียอร์ต กริตเซนโก หนึ่งในเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยเผยว่า สาเหตุที่ช่วยให้เด็กน้อยรอดชีวิต อาจจะเนื่องจากนอนอยู่ในเปล และมีผ้าห่มหนาห่อหุ้มร่างกาย เจ้าหน้าที่กล่าวว่า โอกาสที่จะพบผู้สูญหายรอดชีวิต ริบหรี่มาก เนื่องสภาพอากาศที่หนาวเหน็บเกินกว่าร่างกายคนธรรมดาทั่วไปจะทนได้.