ข่าวการวางระเบิดที่หาดสมิหลา จ.สงขลา เป็นเหตุให้ส่วนหางของรูปปั้นนางเงือกที่เป็นดั่งสัญลักษณ์ที่สำคัญของแหลมสมิหลา ขาดออกจากลำตัว ยังความสะเทือนขวัญและสะเทือนใจสู่พี่น้องชาวใต้เป็นวงกว้าง ...
หลังเสียงระเบิดดังขึ้น 2 จุดในเวลาไล่เลี่ยกัน ณ บริเวณชายหาดแหลมสมิหลา เขตเทศบาลนครสงขลา อ.เมือง จ.สงขลา โดยจุดที่เกิดระเบิดอยู่ตรงบริเวณ “รูปปั้นนางเงือกทอง” ซึ่งเป็นแลนด์มาร์ก และ “รูปปั้นหนูกับแมว” บริเวณใกล้กันที่แสดงถึงตำนานความเป็นมาคู่เมืองสงขลา โดยอยู่ห่างกันประมาณ 200 เมตร โดยแรงระเบิดทำให้หางของนางเงือกทอง สัญลักษณ์ของจังหวัดสงขลาขาดออกจากลำตัว
ทั้งนี้ “นางเงือก” เป็นอมนุษย์ชนิดหนึ่งตามความเชื่อในนิยายปรัมปราและเรื่องเล่าที่เกี่ยวข้องกับน้ำ ซึ่งในตำนานและเรื่องเล่าโดยมากจะกล่าวกันว่า เงือกนั้นเป็นมนุษย์ครึ่งสัตว์ มีรูปร่างลักษณะในส่วนครึ่งท่อนบนเป็นคน และส่วนท่อนล่างเป็นปลา ซึ่งมีทั้งเพศหญิงและเพศชาย ซึ่งเรื่องเล่าในส่วนมากจะกล่าวถึงนางเงือกซึ่งเป็นเพศหญิงมากกว่า ส่วนเงือกเพศชายนั้นจะเรียกว่าเงือกเฉยๆ และมักไม่ค่อยถูกกล่าวถึงมากนัก
วันนี้ ทีมข่าวนิว 18 จึงมีบทความสนุกๆ เกี่ยวกับตำนานของเงือกมาฝากกัน แถมเงือกแต่ละตนนั้น บอกเลยว่าไม่ธรรมดา แต่ก่อนที่จะไปอ่านกัน อยากจะให้คุณผู้อ่านลบภาพนางเงือกใน นิทาน Little Mermaid กันออกไปเสียก่อน เพราะว่าเรื่องของเรานั้นมันเหี้ยม มันโหดกว่า รุนแรงกว่า !!
มีใครเคยฝันว่าอยากจะเป็นเงือกกันบ้างหรือเปล่า เป็นเงือกที่ใช้เวลาในแต่ละวันไปกับการว่ายน้ำ แหวกว่ายไปกับฝูงปลา หรือดำดิ่งลงไปในมหาสมุทร ถ้าใครกำลังฝันกันอยู่อย่างนั้น ทุกคนดึงสติกลับมากันก่อน อย่าไปเชื่อและฝันตามเทพนิยายวัยเยาว์ที่เคยดูกัน เพราะความจริงแล้วเงือกควรจะเป็นสัตว์ประหลาดที่อยู่ในหนังสยองขวัญมากกว่า เพราะพวกมันมีความดุร้ายที่สามารถทำร้ายเราถึงตายได้ และยิ่งไปกว่านั้นพวกมันมีพลังสามารถดลบันดาลให้เกิดพายุ แถมเสียงกรีดร้องอันโหยหวนก็สามารถฆ่าเราได้ในพริบตา!
เงือกที่คาดว่าเป็นตำนานตัวแรกถือกำเนิดมาจากความรักที่มิสมหวัง
ตำนานเก่าแก่ที่สุดเกี่ยวกับเงือกน่าจะเป็น ตำนานเทพเจ้าของซีเรียที่ชื่อว่า อธากาทิส เธอคือเทพองค์หนึ่งที่ได้ตกหลุมรักชายเลี้ยงแกะรูปงาม แต่ด้วยความที่เธอเป็นเทพเลยทำให้คนรักของเธอถูกเบื้องบนลงโทษจนเสียชีวิต และด้วยความรู้สึกผิดต่อเขาเลยทำให้เธอตัดสินใจว่าจะจบชีวิตตัวเองตามด้วยวิธีจมน้ำตาย ทันทีที่พระเจ้าเบื้องบนรู้เลยจัดการสาปซ้ำให้เธอกลายร่างเป็นปลาตลอดชีวิต แต่เพราะความสวยและโชคที่ยังเข้าข้างอยู่ คำสาปจึงได้หยุดลงชั่วขณะเลยส่งผลทำให้ร่างกายท่อนล่างของเธอเป็นปลา แต่ท่อนบนยังเป็นหญิงสาวอยู่ อธากาทิส จึงได้กลายเป็นมนุษย์เงือกคนแรกในตำนาน
The Little Mermaid เป็นเทพนิยายในศตวรรษที่ 19 ผลงานการแต่งของนักเขียนชาวเดนมาร์ก “ฮันส์ คริสเตียน แอนเดอร์เซน” โดยเป็นเรื่องราวเกี่ยวกับนางเงือกสาวที่เต็มใจยอมสละชีวิตและเอกลักษณ์ของตน เพื่อให้ได้มาซึ่งจิตวิญญาณของความเป็นมนุษย์ โดยวรรณกรรมเรื่องนี้ได้รับความนิยมมากจนถูกนำไปสร้างเป็นภาพยนตร์ขึ้นมา แต่ในภาพยนตร์ก็มีการบิดเบือนเนื้อหาจนกลายเป็นเรื่องที่สุขสมหวัง ซึ่งผิดกับเรื่องจริงที่เป็นอะไรที่น่าผิดหวังอยู่พอสมควร
โดยในวรรณกรรมของฮันส์ คริสเตียน แอนเดอร์เซนมีอยู่ฉากหนึ่งที่พี่สาวของนางเงือกสาวได้นำเส้นผมของเธอไปขายให้กับแม่มดทะเลเพื่อแลกกับกริชที่จะต้องใช้ในการแทงเจ้าชายเพื่อที่จะทำให้เลือดของเขาหยดลงบนเท้าของเธอ เพราะเมื่อใดที่เลือดของเขาหยดลงบนเท้าของเธอ เมื่อนั้นเธอก็จะได้หางกลับคืนมาและจะสามารถกลับลงไปแหวกว่ายในท้องทะเลได้เหมือนอย่างเคย แต่สุดท้ายนางเงือกสาวก็ทำไม่ลง เธอเลยตัดสินใจกระโดดลงทะเลก่อนที่จะกลายเป็นฟองอากาศไปในที่สุด สาเหตุคงจะมาจากความผิดหวังที่เจ้าชายหันไปแต่งงานกับผู้หญิงคนอื่นที่ไม่ใช่เธอ เลยทำให้เกิดเรื่องราวอันน่าเศร้าดังกล่าวนี้ขึ้นมา...
ตามตำนานของญี่ปุ่นดั้งเดิมได้เรียกสัตว์ประหลาดหรือปีศาจตัวนี้ว่า นูเระ ออนนะ โดยเธอเป็นหญิงสาวครึ่งคนครึ่งงู มีใบหน้าและเส้นผมเหมือนมนุษย์ แต่กลับมีดวงตาและฟันคล้ายงู โดยอาหารที่หล่อเลี้ยงเธอในแต่ละวันก็คือเลือดสดๆ ในประวัติศาสตร์ของชาวญี่ปุ่นได้แบ่งประเภทของนูเระ ออนนะ ออกเป็น 2 ประเภท ประเภทแรกคือ ไร้แขน
ส่วนอีกประเภทคือมีแขนเหมือนแขนของมนุษย์ ซึ่งรวมๆ ก็คือท่อนบนนั้นเหมือนมนุษย์ทั้งหมด แต่มีหน้าตาเป็นสาวหมวยสไตล์ คิขุอาโนเนะนั่นเอง และจากข้อมูลที่น่าสนใจได้มีการพูดถึงเงือกเอาไว้อีกเหมือนกัน โดยตำนานนี้ได้พูดถึงแม่ชีบิคุนิที่ได้บังเอิญกินเนื้อเงือกเข้าไปจนมีอายุขัยยาวนานถึง 800 ปี เพราะเนื้อเงือกนั้นสามารถทำให้เธอเป็นอมตะและไม่มีวันแก่ แต่เธอไม่สามารถทนทุกข์กับการจากไปของคนรอบข้างเธอได้อีกต่อไป สุดท้ายเธอได้ตั้งจิตอธิษฐานขอความตาย หลังจากนั้นไม่นานท่านแม่ชีจึงได้ตายสมใจ
หลังจากที่เราได้รู้จักกับเงือกของญี่ปุ่นกันไปแล้ว ขอพาข้ามฝั่งมายังดินแดนของประเทศฝรั่งเศส ที่บอกเลยว่ามีความคล้ายคลึงกับตำนานเงือกตัวแรกเอามากๆ เลยคือ หญิงสาวคนหนึ่งเกิดมาจากความสัมพันธ์ลับๆ ของเทพกับมนุษย์ ซึ่งก่อนหน้านั้นเทพตนนั้นเคยมีความสัมพันธ์กับแม่มดตนหนึ่งมาก่อน เมื่อนางลูกสาวได้รู้ความจริง เธอจึงโกรธมากถึงขนาดจับพ่อที่เป็นเทพมาขังไว้บนภูเขา และเมื่อแม่ที่เป็นมนุษย์ของเธอรู้เข้าเลยก็โมโหมาก (เอาผัวเขาไปขังยังที่ห่างไกลขนาดนี้) จึงลงคาถาสาปแช่งเธอผู้เป็นลูกสาวทุกวันๆ จนคำสาปแช่งนั้นเป็นจริงทำให้ร่างกายท่อนล่างของเธอกลายเป็นงูในทุกๆ คืนวันเสาร์
แต่อย่างไรก็ตามด้วยหน้าตาที่สะสวยของเธอได้ทำให้เจ้าชายรูปงามท่านหนึ่งตกหลุมรักเข้า โดยเธอได้ให้เขาสัญญากับเธอว่า ห้ามออกมาหาเธอในคืนวันเสาร์เด็ดขาด! ซึ่งเจ้าชายก็ตอบตกลงว่าจะทำตามนั้น แต่เมื่อเอาเข้าจริงแล้วเขากลับผิดสัญญา ทำให้เธอรู้สึกอายมากจนต้องระหกระเหินหนีไปในที่สุด
ถ้าถามถึงสัตว์ประหลาดในตระกูลเงือกอีกหนึ่งตัวที่น่าสนใจไม่แพ้กัน หลายคนก็คงจะนึกถึง “ไซเรน” กันอย่างแน่นอน ถ้าผู้อ่านกำลังสงสัยไซเรนคืออะไร มามะตามเรามา เดี๋ยวจะอธิบายให้ฟัง ไซเรน เป็นปิศาจในปกรณัมของกรีก เป็นการผสมผสานของสัตว์ 3 อย่าง อันได้แก่ เงือก ปลา และนก
ไซเรนมีลักษณะที่แตกต่างจากเงือกเพียงเล็กน้อย แถมพวกมันยังมีความสามารถพิเศษในการสะกดจิตผู้อื่นด้วยเสียงอันไพเราะของมัน ซึ่งใครที่ทนฟังเสียงของมันได้ก็นับได้ว่าโชคดี แต่ส่วนใหญ่ก็มักจะทนไม่ได้กันทั้งนั้น
ในลุ่มแม่น้ำไรน์ในประเทศเยอรมนี ได้มีอุบัติเหตุทางเรือเกิดขึ้นบ่อยๆ โดยชาวบ้านเชื่อกันว่าน่าจะมีสาเหตุมาจากไซเรน แถมไซเรนยังปรากฏในวรรณกรรมชื่อดังมากมาย
สำหรับตำนานของเงือกทั้ง 5 เรื่องเหล่านี้ มีเรื่องไหนที่ถูกใจกันบ้าง ทั้งนี้เรื่องของตำนานเก่าแก่เป็นเรื่องที่มีอยู่ในแทบทุกประเทศ แต่ละประเทศแต่ละท้องถิ่นก็จะมีความเชื่อส่วนบุคคล ซึ่งเราไม่รู้หรอกว่ามันจริงหรือไม่จริง เพียงแต่ว่ามันถูกบอกต่อกันมาเรื่อยๆ จากรุ่นสู่รุ่น จากสังคมสู่สังคม จนได้เกิดเป็นความเชื่อขึ้นมาในที่สุด ก็หวังว่าคุณผู้อ่านคงจะสนุกและมีความสุขกับการอ่านบทความนี้กัน เอาไว้เรามาเจอกันใหม่ในบทความหน้า สำหรับวันนี้ไปแล้ว สวัสดีจ้า
