ผบก.ภ.จว.สุพรรณบุรี ตั้ง 2 สมมติฐาน เด็กชาวเมียนมา 2 ขวบ อาจถูกรถไถดินทับ หรืออาจมีคนพาไป รอผลนิติเวชก่อนสรุปสาเหตุการเสียชีวิต ด้านพ่อแม่เชื่อถูกฆาตกรรม
จากกรณีการหายตัวไปในไร่อ้อย ของ ด.ช.ซูลุยผิว อายุ 2 ขวบ ลูกของแรงงานชาวเมียนมาใน พื้นที่ หมู่ที่ 9 ต.สระพังลาน อ.อู่ทอง จ.สุพรรณบุรี ตั้งแต่วันที่ 17 ธ.ค.ที่ผ่านมา โดยฝ่ายปกครอง ตำรวจและทหาร ต่างสนธิกำลังกันออกค้นหาอยู่ 8 วันก็ยังไม่พบ ล่าสุดบ่ายวันที่ 25 ธ.ค.มีการพบศพ ด.ช.ซูลุยผิว แล้วบริเวณหลังไร่อ้อยใกล้กับบ่อน้ำด้านใน โดยสภาพศพขึ้นอืด จำสภาพเดิมแทบไม่ได้ เนื่องจากเสียชีวิตมานานหลายวัน
เมื่อวันที่ 25 ธ.ค. พล.ต.ต.คมศักดิ์ สุมังค์เกษตร ผบก.ภ.จว.สุพรรณบุรี กล่าวว่า หลังจากเจ้าหน้าที่ส่งศพไปตรวจพิสูจน์ที่สถาบันนิติเวชวิทยาแล้ว ก็จะติดตามผลให้เร็วที่สุด เนื่องจากทางเจ้าหน้าที่ตำรวจต้องการดูตามที่ตั้งสมมติฐานไว้ 2 เรื่องคือ 1.รถไถดินแถวนั้น ไถไปทับเด็กหรือไม่ ถ้าไถทับเด็กจนเสียชีวิต ก็อาจจะนำไปทิ้งเพื่ออำพรางได้ 2.มีคนพาไป แต่จะพาไปด้วยเหตุอะไรก็แล้วแต่ ต้องมีการสอบสวนให้แน่ชัด ทั้งนี้จากสภาพศพเด็กที่เห็นไม่ได้จมน้ำและมีหญ้าขึ้นเต็มไปหมด เหมือนกับเป็นการเอาศพไปทิ้งอำพราง ส่วนที่พบศพนั้นเป็นรัศมีที่ทีมค้นหายังไปไม่ถึง เลยระยะที่ค้นหาไปถึง 5 กม. เด็กอายุแค่ 2 ขวบ คงจะไม่น่าจะเดินถึงตรงนั้น เชื่อว่าต้องมีคนพาไปมากกว่า เพราะดูจากสภาพศพแล้วไม่ใช่ลักษณะจมน้ำแน่นอน อย่างไรก็ต้องรอผลทางนิติเวชก่อนจึงจะสรุปได้ชัดเจน
นายผิว อายุ 26 ปี และนางมอ อายุ 20 ชาวเมียนมา พ่อและแม่ของ ด.ช.ซูลุยผิว กล่าวทั้งน้ำตาว่า ได้ดูศพเด็กที่พบแล้วยืนยันว่าใช่ลูกตนอย่างแน่นอน เนื่องจากจำเสื้อผ้าที่สวมใส่ได้ เชื่อด้วยว่าลูกชายถูกฆ่าตายก่อนจะนำศพไปทิ้ง เพราะจุดที่พบห่างไกลจากจุดที่หายไปมาก ไม่เชื่อว่าลูกที่อายุเพียง 2 ขวบ จะเดินหลงไปไกลได้ขนาดนั้น ทั้งนี้ระหว่างที่ออกตามหาตัวลูกชาย พบว่ามีรถไถคันหนึ่งในพื้นที่มีพิรุธ เพราะปกติแล้วจะไม่เคยเห็นรถไถคันดังกล่าว ถูกขับออกไปนอกพื้นที่ หรือขับไป-กลับมาก่อน และบางครั้งก็เห็นคนขับรถไถคันดังกล่าวขี่จักรยานยนต์ไปยังที่จอดรถไถไว้ เพื่อไถดินทำงานในไร่แทน จึงอยากให้ทางตำรวจเข้าไปตรวจสอบว่า ขับรถพลาดทับลูกชายขณะวิ่งเล่นจนถึงแก่ชีวิตหรือไม่