ความคืบหน้าคลื่นยักษ์สึนามิ ถล่มเกาะชวาและสุมาตราของอินโดนีเซียตั้งแต่เมื่อคืนวันเสาร์ที่ผ่านมา ล่าสุดจนถึงเช้าวันจันทร์ มีผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 222 ราย บาดเจ็บ 843 คน และสูญหาย 28 คน ประชาชนหลายพันคนต้องอพยพออกจากบ้านเรือนไปอยู่ในที่สูง โดยสึนามิครั้งนี้ เกิดจากดินถล่มใต้ทะเลลึก ซึ่งเชื่อกันว่ามีสาเหตุมาจากการปะทุรุนแรงของภูเขาไฟ “อานัค กรากาตัว”
สุโตโป ปูร์โว นูโกรโฮ โฆษกของสำนักงานบรรเทาภัยพิบัติแห่งชาติของอินโดนีเซีย แถลงว่า อาคารบ้านเรือนหลายร้อยหลัง ได้รับความเสียหายอย่างหนัก เมื่อคลื่นสึนามิ ถาโถมเข้าถล่มชายฝั่งบริเวณช่องแคบซุนดา โดยไม่มีสัญญาณเตือนใด ๆ
ประชาชนที่อยู่ตามแนวชายฝั่ง กล่าวเป็นเสียงเดียวกันว่า ไม่เห็น หรือไม่รู้สึกว่ามีสัญญาณแจ้งเตือนก่อนการเกิดเหตุ เช่นระดับน้ำทะเลลดลง หรือเกิดแผ่นดินไหว ก่อนที่คลื่นความสูง 2-3 เมตร จะซัดเข้าฝั่ง ขณะที่ประชาชนจำนวนมากยังคงใช้ชีวิตตามปกติในช่วงเวลานั้น
ส่วนช่วงเวลาของการเกิดสึนามิครั้งนี้ ซึ่งเกิดขึ้นในช่วงเทศกาลวันหยุดคริสต์มาส ทำให้หวนกลับไปนึกถึงการเกิดสึนามิในมหาสมุทรอินเดีย ที่เกิดจากแผ่นดินไหว เมื่อวันที่ 26 ธันวาคม 2547 ซึ่งมีผู้เสียชีวิต 226,000 คน ใน 14 ประเทศ รวมทั้งในอินโดนีเซียกว่า 120,000 คน
เจ้าหน้าที่เตือนประชาชนและนักท่องเที่ยวในพื้นที่ชายฝั่งรอบช่องแคบซุนดา ให้อยู่ห่างจากชายหาด และคำเตือนการเกิดคลื่นยักษ์ยังคงบังคับใช้ต่อไปจนถึงวันที่ 25 ธันวาคม
ภูเขาไฟ อานัค กรากาตัว ซึ่งตั้งอยู่กึ่งกลางระหว่างเกาะชวาและสุมาตรา พ่นเถ้าถ่านและลาวา มาอย่างต่อเนื่องหลายเดือนแล้ว และมันปะทุอีกครั้งหลังเวลา 21.00 น.ของวันเสาร์ และเกิดคลื่นสึนามิซัดเข้าฝั่งในเวลาประมาณ 21.30 น.
