“เมจิ” ดารานางแบบไอดอลสุขภาพ เข้าพบดีเอสไอให้เบาะแส หลังถูกขโมยข้อมูลบัตรเครดิตสูญเงินกว่า 1.4 ล้าน เตือนประชาชนควรระมัดระวังใช้เงินผ่านบัตรเครดิตที่ผูกไว้บนสื่อออนไลน์
เมื่อวันที่ 21 ธ.ค. น.ส.อโณมา คุ๊ก หรือ “เมจิ” ดารานางแบบไอดอลสุขภาพ เดินทางมาให้เบาะแสกับกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เกี่ยวกับพฤติการณ์ของกลุ่มมิจฉาชีพ ซึ่งลักลอบเข้าในเฟซบุ๊กแฟนเพจ "Healthymeijianoma" ของ น.ส.อโณมา ซึ่งได้มีการใส่ข้อมูลบัตรเครดิตไว้สำหรับซื้อโฆษณากับทางเฟซบุ๊ก และได้ดึงวงเงินจากบัตรเครดิตไป โดยพบว่ามีการล็อกอินเข้ามาในเพจหลายครั้ง ทั้งจากในประเทศและต่างประเทศ เบื้องต้นมูลค่าความเสียหายกว่า 1.4 ล้านบาท สำหรับพฤติการณ์ของกลุ่มมิจฉาชีพเหล่านี้จะเจาะข้อมูลบัตรเครดิตที่ผูกไว้กับเฟซบุ๊กของ น.ส.อโนมา ซึ่งในเพจดังกล่าวมีการใส่ข้อมูลบัตรเครดิตไว้ เพื่อชำระเงินค่าโฆษณาให้กับเฟซบุ๊ค ครั้งละประมาณ 30,000 บาท วันละไม่ต่ำกว่า 10 ครั้ง รวมมูลค่าการใช้บัตรเครดิต 1 ใบเป็นเงินเกือบ 4 แสนบาทต่อวัน โดยกลุ่มมิจฉาชีพอ้างข้อมูลเพจและข้อมูลบัตรเครดิตของเจ้าของเพจ ทั้งที่เจ้าของเพจดังกล่าวไม่ได้มีการซื้อโฆษณาจากเฟซบุ๊กแต่อย่างใด
น.ส.อโณมา ได้เดินทางมาให้ข้อมูลกับกรมสอบสวนคดีพิเศษ เพื่อให้ตรวจสอบ และเป็นข้อมูลในการเตือนภัยประชาชนให้ระวังมิจฉาชีพกลุ่มดังกล่าว หากตกเป็นเหยื่อในลักษณะเดียวกัน จะได้นำข้อมูลแจ้งกับเจ้าหน้าที่ เพื่อให้ดำเนินการตามกฎหมาย
ด้าน ร.ต.อ.เขมชาติ ประกายหงษ์มณี รอง ผอ.กองกิจการต่างประเทศและคดีอาชญากรรมระหว่างประเทศ เปิดเผยว่า การกระทำในลักษณะนี้เคยเกิดขึ้นแล้วเมื่อ 3-4 ปีที่ผ่านมา แต่ผู้เสียหายบางรายไม่ดำเนินคดี ตามกฎหมายเพราะคิดว่าได้รับความเสียหายในวงเงินเพียงเล็กน้อย ซึ่งขณะนี้กรมสอบสวนคดีพิเศษ เฟซบุ๊ก และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง กำลังดำเนินการรวบรวมข้อมูลของกลุ่มมิจฉาชีพ เพื่อทำการสืบสวนหาตัวผู้กระทำผิดมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป อยากฝากเตือนประชาชน ว่า ควรมีการตรวจสอบข้อมูลการใช้เงินผ่านบัตรเครดิตที่ผูกไว้ตามสื่อสังคมออนไลน์ ควรมีการตั้งวงเงินในบัตรเครดิตหรือตั้งค่าให้มีการแจ้งเตือน ทางโทรศัพท์มือถือ เมื่อมีการใช้บัตรเครดิตทุกครั้ง เพื่อให้ผู้ถือบัตรทราบว่า มีความเคลื่อนไหวทางการเงิน สำหรับเพจที่มีแอดมินหลายคน ควรมีแอดมินหลัก ที่เป็นผู้อนุมัติ การใช้เงินหรือการโพสต์ข้อมูลต่างๆเพียงคนเดียว
หากใครได้รับความเสียหายหรือเคยถูกนำข้อมูลบัตรเครดิตไปใช้ ผูกกับเพจในโซเชียลมีเดียให้ประสาน มาทางกรมสอบสวนคดีพิเศษ ผ่านเว็บไซต์ www.DSI.co.th หรือ Call Center 1202 และสามารถมาแจ้งเบาะเเสที่กรมสอบสวนคดีพิเศษได้โดยตรง