นายกฯยกย่อง “สุภาพบุรุษสุทธิวราราม”

2018-12-21 21:20:01

นายกฯยกย่อง “สุภาพบุรุษสุทธิวราราม”

Advertisement

นายกฯ ชื่นชม “สุภาพบุรุษสุทธิวราราม”ช่วยชาวจีนคิดสั้นจะกระโดดสะพานฆ่าตัวตาย ยกย่องมีทักษะชีวิตที่ดี ช่างสังเกตสิ่งผิดปกติ สร้างชื่อเสียง และความประทับใจให้กับนักท่องเที่ยว เผยการจัดประกวดนางงามจักรวาลประสบความสำเร็จ ถ่ายทอดความเป็นไทย ผ่านความสง่างามของบรรดานางงามจากทั่วโลก ด้วยการไหว้อย่างไทยไปสู่ชาวโลก

เมื่อวันที่ 21 ธ.ค. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้า คสช. กล่าวในรายการ “ศาสตร์พระราชา สู่การพัฒนาที่ยั่งยืน” ตอนหนึ่งว่า ขอแสดงความชื่นชม กลุ่มนักเรียนชั้น ม.ปลาย รร.วัดสุทธิวราราม ที่ช่วยให้นักท่องเที่ยวชาวจีนเลิกความคิดฆ่าตัวตายด้วยการกระโดดสะพานได้สำเร็จ โดยเกลี้ยกล่อม ปลอบประโลมทั้งคำพูดเตือนสติ ภาษากาย จับมือ จนทำให้เขาเชื่อใจเเละใจเย็นลง ก่อนที่จะส่งต่อให้ตำรวจดูแลต่อไป สมกับเป็น “สุภาพบุรุษสุทธิวราราม” ตัวจริง เห็นว่าเด็กไทยกลุ่มนี้มีทักษะชีวิตที่สำคัญ คือ ความช่างสังเกตสิ่งผิดปกติ จึงรู้ว่านักท่องเที่ยวชาวจีนคนนี้กำลังคิดสั้น และการสนทนาภาษาจีน ที่ได้จากการเรียนในห้อง ที่แม้จะไม่ได้ใช้อย่างจริงจังมานาน แต่เมื่อถึงยามคับขัน ก็สามารถช่วยชีวิตเพื่อนมนุษย์ได้ เป็นการสร้างกุศลอันยิ่งใหญ่จากสติปัญญา ที่น่ายกย่อง อีกทั้ง เป็นการสร้างชื่อเสียง และความประทับใจให้กับนักท่องเที่ยวด้วย ตนเห็นว่าเป็นเหตุการณ์เล็กๆ ไม่กี่นาที ที่ส่งผลยิ่งใหญ่ต่อบ้านเมือง สะท้อนภาพลักษณ์อันดีของประเทศไทย และคนไทยในสายตาชาวโลก ที่ส่งผลดีไม่เฉพาะด้านการค้าขาย การลงทุนเท่านั้นแต่ยังส่งเสริมในด้านการท่องเที่ยว


นายกฯ กล่าวต่อว่า ที่เราตั้งเป้าเชิญชวนนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามาสัมผัสประเทศไทยกว่า 30 ล้านคนต่อปี ในจำนวนนี้ เป็นนักท่องเที่ยวชาวจีน สัดส่วนถึง 1 ใน 3 ซึ่งข้อมูลทางสถิติ ตลอดปี 2561 นี้ มีนักท่องเที่ยวมากกว่า 10 ล้านคน คิดเป็นอัตราการเติบโตร้อยละ 5 – 7สร้างรายได้ทางการท่องเที่ยวมากกว่า 5.9 แสนล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 10 – 12 ส่วนใหญ่เดินทางมาไทยมากกว่า 1 ครั้ง ด้วยความประทับใจในความสวยงามและสัมผัสได้ว่าไทยเป็นประเทศแห่งความสุข ตนรู้สึกดีใจ ที่เราสามารถทำให้นักท่องเที่ยวรู้สึกอบอุ่นในบ้านเรา เหมือนอยู่บ้านตนเอง ทั้งนี้การเป็นเจ้าบ้านที่ดี รวมทั้งการใช้ภาษาจีนและอังกฤษได้ดีของคนไทย ทุกเพศ ทุกวัย ทุกสาขาอาชีพ ย่อมมีส่วนช่วยส่งเสริมภาพลักษณ์ที่ดีให้กับบ้านเมืองของเราอีกด้วย


พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวต่อว่า อีกเรื่อง ที่เห็นว่ามีความเชื่อมโยงกัน ระหว่าง การประกวดนางงามกับการประชาสัมพันธ์ประเทศได้แก่ “น้องนิโคลีน” พิชาภา ลิมศนุกาญจน์ มิสไทยแลนด์เวิลด์ 2018 ที่สามารถคว้ามงกุฎรองชนะเลิศอันดับ 1 มิสเวิลด์ 2018 มาครองได้สำเร็จ ด้วยความงามที่ทรงคุณค่าของหญิงไทย ที่มีเป็นเป็นรองชาติใดในโลก ทุกยุค ทุกสมัย นับเป็นโอกาสอันดี ที่ได้ตอกย้ำภาพลักษณ์ความงดงามที่น่าประทับใจตามแบบฉบับไทยๆ ในเวทีระดับโลก ในขณะที่ “น้องนิ้ง” โศภิดา กาญจนรินทร์ สาวงามตัวแทนประเทศไทยอีกคนก็สามารถผ่านเข้ารอบ10 คนสุดท้ายเวทีมิสยูนิเวิร์ส2018 ซึ่งก็ถือว่าทำหน้าที่ได้ดีที่สุด น่าประทับใจ


นายกฯกล่าวด้วยว่า นอกจากนี้ คุณคำภีร์ อลังการ ดีไซเนอร์คนไทย ผู้ออกแบบชุดสามกินนรี ให้สาวงามจากประเทศลาว จนสามารถคว้ารางวัลชุดประจำชาติยอดเยี่ยม มิสยูนิเวิร์ส2018 เป็นครั้งแรก ถือว่าเป็นบุคคลที่อยู่เบื้องหลังความสำเร็จนี้เช่นกัน ทั้งนี้ เวทีมิสยูนิเวิร์ส 2018 ที่ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพนี้ ขอขอบคุณ ขอชื่นชมทุกฝ่าย ที่ช่วยให้ชาวโลกได้เห็นสิ่งดีงามในบ้านเมืองของเราเริ่มตั้งแต่การไหว้ สถานที่ท่องเที่ยวทางวัฒนธรรมและทางธรรมชาติทั่วไทย รวมทั้งการแต่งกายชุดไทยย้อนยุคของเหล่านางงาม เพื่อมาร่วมงานอุ่นไอรัก คลายความหนาว สายน้ำแห่งรัตนโกสินทร์ ซึ่งสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวได้พระราชทานพระราชานุญาตให้จัดขึ้น

“ผมถือว่า เราประสบความสำเร็จมากกว่าการจัดเวทีการประกวดนางงาม แต่เราได้บอกกล่าว เล่าด้วยภาพ ความงดงามของความเป็นไทย ผ่านความสง่างามของบรรดานางงามจากทั่วโลก ด้วยการไหว้อย่างไทย ประกอบกับรอยยิ้มบนใบหน้า ไปสู่ชาวโลกนับร้อย นับพันล้านคน นอกจากนี้ ผมทราบว่าเมนูอาหารไทย ก็เป็นอีกความประทับใจหนึ่ง ที่เหล่านางงาม จาก 95 ประเทศ ต่างให้การชื่นชม บอกว่าทานได้ทั้ง 3 มื้อ เป็นครั้งแรก เช่น ผัดไทย แกงพะแนง รวมไปถึงผลไม้ไทย อีกทั้ง ข้าวเหนียวมะม่วง ซึ่งได้รับการยกย่องให้เป็น 1 ใน 50 ของหวานที่อร่อยที่สุดในโลก จัดอันดับโดยสำนักข่าว CNN ของสหรัฐอเมริกา และมีทับทิมกรอบก็เป็น 1 ในนั้นด้วย ทั้งหมดนี้ เป็นสิ่งดีๆ ที่ผมอยากให้เราทุกคน ได้ภาคภูมิใจร่วมกัน”นายกฯ กล่าว

ขอบคุณภาพน้องๆ รร.วัดสุทธิวรารามจาก JS100