“มัลลิกา” ทวงความสามารถรัฐบาลและทีมเศรษฐกิจ ไม่ลาออกก็ให้เร่งแก้ราคาอ้อยก่อนที่สิ้นปีนี้ราคาจะตกอีก ติงอย่าโม้เศรษฐกิจดีขณะที่ชาวไร่อ้อยน้ำตาซึม
เมื่อวันที่ 15 ธ.ค.นางมัลลิกา บุญมีตระกูล มหาสุข กรรมการบริหารพรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะประธานมูลนิธิมัลลิกาเพื่อประชาชน กล่าวว่า หลังจากการลงพื้นที่พบปะประชาชนครั้งล่าสุดที่ จ.สุโขทัยและจังหวัดอื่นๆที่มีเกษตรกรร้องเรียนผ่านอดีต ส.ส.และว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. รวบรวมความเดือดร้อนมาแล้วพบว่าขณะนี้สถานการณ์เกษตรกรชาวไร่อ้อยกำลังเร่งตัดอ้อยส่งโรงงานน้ำตาลก่อนสิ้นปี เนื่องจากปีนี้ราคาอ้อยตกต่ำอย่างน่าตกใจ บางจังหวัด เช่น ปราจีนบุรี ล่าสุดสามารถขายได้เพียงราคา 800 บาทต่อตันเท่านั้น ต่างก็หวั่นเกรงว่าสิ้นปีนี้ราคาจะตกต่ำลงอีกเนื่องจากไม่มีความใส่ใจหรือกระตือรือร้นจากผู้บริหารกระทรวงทางด้านเศรษฐกิจทั้งที่มีการส่งสัญญาณก่อนนี้แล้ว
นางมัลลิกา กล่าวว่า เกษตรกรร้องทุกข์ว่าสาหัสมากสภาพความเป็นจริงของชาวไร่อ้อยราคาจะถูกหรือแพงอย่างไรก็จำเป็นต้องตัดขายเนื่องจากถึงฤดูตัดเพราะเป็นพืชที่มีอายุเก็บเกี่ยวหนึ่งปีต้องรีบตัดภายในระยะเวลากำหนด หากล่าช้าโรงงานน้ำตาลพื้นที่ใกล้เคียงก็ปิดต้องนำไปขายในพื้นที่โรงงานที่ไกลกว่าเกษตรกรก็แบกรับภาระค่าขนส่งอีก
"ถ้าไม่ตัดอ้อยส่งโรงงานใกล้เคียงก็สู้ราคาขนส่งไม่ไหว เมื่อถึงเวลาเก็บเกี่ยวแล้วก็ต้องลงมือทั้งที่ราคาอย่างต่ำอยู่เรื่องนี้เกษตรกรได้สะท้อนปัญหามาระยะหนึ่งแล้วก่อนการเก็บเกี่ยวแต่จะสังเกตว่าแม้เกษตรกรหรือฝ่ายต่างๆจะท้วงติงรัฐบาลอย่างไรก็ตามแต่กระทรวงพาณิชย์ซึ่งเป็นผู้รับผิดชอบร่วมกับกระทรวงทางด้านเศรษฐกิจก็ไม่ค่อยเหลียวแลเท่าใดนัก ไม่รู้เอาเวลาไปทำอะไร ถ้าได้รับความใส่ใจจากรัฐบาลในการแก้ไขปัญหาราคาพืชผลการเกษตรหรือถ้ามีรัฐมนตรีที่มีความรู้ความสามารถอย่างแท้จริงเกษตรกรสามารถรวยได้ด้วยความเป็นธรรมทางด้านราคา " นางมัลลิกา กล่าว
นางมัลลิกา กล่าวอีกว่า สถานการณ์อ้อยในฤดูการผลิตปี 2561 / 2562 ได้มีการประกาศราคาอ้อยเบื้องต้นมาแล้วราคาตันละ 650 บาทส่งผลให้เกษตรกรผู้ปลูกอ้อยเจ๊งกันระนาวเนื่องจากทางสำนักงานคณะกรรมการอ้อยและน้ำตาลทรายได้มีการประเมินผลการลงทุนแล้วพบว่าจะต้องใช้เงินในการลงทุนปลูกอ้อยตันละ 1,041 บาท ที่เป็นเช่นนี้เป็นผลพวงมาจากรัฐบาลทำงานไม่เป็นประกอบกับการผลักดันให้เกษตรกรที่ปลูกข้าวนาปรังหันมาปลูกอ้อยส่งผลให้มีผลผลิตสูงขึ้นแต่รัฐบาลไม่ได้มีทักษะในการรองรับนโยบายของตนเอง
“จากการประเมินเบื้องต้น ของทางสมาคมกลุ่มอาชีพการเกษตรชลบุรี เคยประเมินว่าอ้อยในประเทศปกติจะมีประมาณ 100 ล้านตัน ราคาอ้อยจะตกประมาณตันละ 1,000 บาท แต่ขณะนี้อ้อยในประเทศหลังจากรัฐบาลชุดนี้มีนโยบายส่งเสริมปลูกพืชหลังนาปรากฏมีปริมาณ 137 ล้านตันเป็นผลผลิตปี 2560 / 2561 ราคาอ้อยจึงตกต่ำย่อยยับเกษตรกรลำบากอย่างมาก เกษตรกรชาวไร่อ้อยนั้นเป็นพลังหลักของการผลิตพืชเศรษฐกิจของประเทศมาตลอดและเป็นพลังสำคัญของธุรกิจน้ำตาลทรายส่งออก แต่เขาต้องมาลำเค็ญเพราะความไม่เป็นงานของรัฐบาล สุดท้ายนี้จึงขอแนะนำว่ารัฐบาลควรหาวิธีออกมาตรการช่วยเหลือทดแทน เพราะทั้งหมดเป็นผลจากความผิดพลาดทางการบริหารของทีมเศรษฐกิจของรัฐบาลเอง”นางมัลลิกา กล่าว