เมียหมอดูร้อง ผบ.ตร.สามีถูกวิสามัญฆาตกรรม

2018-12-11 12:12:20

เมียหมอดูร้อง ผบ.ตร.สามีถูกวิสามัญฆาตกรรม

Advertisement

เมียหมอดูไพ่ยิปซีร้อง ผบ.ตร.อ้างไม่ได้รับความเป็นธรรม หลังสามีถูก ตร.วิสามัญฆาตกรรม พบยาบ้าในรถที่ จ.นครศรีธรรมราช

เมื่อวันที่ 11 ธ.ค. น.ส.ฐานิศ หริกจันทร์ หรือ ครูแตง นำเอกสารเข้าร้องเรียนครั้งที่2 ต่อ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. เนื่องจากเกรงว่าจะไม่ได้รับความเป็นธรรมในคดีที่สามีซึ่งประกอบอาชีพหมอดูไพ่ยิปซีชื่อดังใน จ.นครศรีธรรมราช ถูกตำรวจวิสามัญเสียชีวิตเมื่อวันที่ 1พ.ค.ที่ผ่านมา โดยมี พ.ต.อ.สุรชัย เจ็ดพี่น้องร่วมใจ รองผู้บังคับการยุทธศาสตร์ สำนักงานตำรวจแห่งชาติและนายตำรวจเวรชั้นผู้ใหญ่เป็นตัวแทนรับหนังสือ

น.ส.ฐานิศ กล่าวว่า ไม่เชื่อว่าระหว่างตำรวจไล่จับกุมสามีจะใช้อาวุธปืนยิงต่อสู่ เนื่องจากไม่พบร่องรอยกระสุนจากปืนของสามียิงออกจากในรถ และจากการตรวจพิสูจน์หลักฐาน พบว่า ปืนของสามีอยู่ที่บริเวณช่องเก็บของข้างประตูและมือทั้งสองข้างวางอยู่บนตักด้วย รวมถึงมีพยานบอกว่าระหว่างเกิดเหตุสามีลงจากรถพร้อมยกมือไหว้ ก่อนที่จะขึ้นไปบนรถปิดล็อกประตูด้วยความกลัว จากนั้นตำรวจกระหน่ำยิงเข้าไปในรถกว่า 10 นัด จนสามีเสียชีวิตในที่เกิดเหตุ นอกจากนี้พบว่าระหว่างที่เจ้าหน้าที่เข้าไปชันสูตรศพและตรวจพยานหลักฐานนั้น ได้กันบุคคลภายนอกรวมทั้งตนและครอบครัวเข้าในพื้นที่ ต่อมาตำรวจแจ้งว่าตรวจพบยาบ้าจำนวน 107 เม็ด บรรจุอยู่ในถุงสีฟ้าตกอยู่ในรถของสามี ส่วนตัวไม่เชื่อว่าสามีจะเข้าไปยุ่งเกียวกับยาบ้าแน่นอน นอกจากนี้จากการตรวจสอบในที่เกิดเหตุ ตำรวจแจ้งว่าไม่พบกล้องติดหน้ารถของสามี จนกระทั่งล่าสุดแจ้งว่าขณะนี้พบกล้องติดหน้ารถแล้ว แต่ไม่มีการบันทึกภาพแต่อย่างใด และอ้างว่าสามีเป็นคนเอาออกก่อนเสียชีวิต

น.ส.ฐานิศ กล่าวอีกว่า มองว่าไม่ใช่เหตุอุกฉกรรจ์หรือร้ายแรงถึงขั้นต้องวิสามัญฆาตกรรม เนื่องจากเหตุที่เกิดขึ้นนั้นเป็นเพียงการเข้าใจผิดเรื่องระหว่างสามีภรรยาเท่านั้น เพราะก่อนหน้านี้ ตนกับสามีมีปัญหากัน และสามีได้เข้ามาเอาของในบ้าน แต่ตนเองไม่รู้ จึงเข้าใจว่ามีคนร้ายเข้ามาขโมยทรัพย์สิน และได้ไปแจ้งความไว้ ต่อมาทราบว่าเป็นสามี จนกระทั่งวันเกิดเหตุในช่วงเช้า สามีกำลังนำทรัพย์สินมาคืนที่บ้าน จนเกิดเหตุดังกล่าวขึ้น

ด้าน พ.ต.อ.สุรชัย กล่าวว่า จะนำเรื่องเสนอไปยังผู้บังคับ ยืนยันจะให้ความเป็นธรมทั้ง 2 ฝ่าย ทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดยเฉพาะส่วนกลางจะพิจารณาเหตุการณ์ทั้งหมดและการทำงานของตำรวจว่าปฏิบัติตามขั้นตอนหรือไม่ ในส่วนของท้องที่จะตั้งคณะกรรมการขึ้นมาตรวจสอบ ข้อเท็จจริงทั้งหมด