คู่กรณีขอขมา “นาวินต้าร์-น้ำหวาน”

2018-12-07 22:05:16

คู่กรณีขอขมา “นาวินต้าร์-น้ำหวาน”

Advertisement

คู่กรณีจอดรถขวาง “นาวินต้าร์-ไฮโซน้ำหวาน” ที่หาดบางแสน หิ้วกระเช้าดอกไม้ ขอขมาไกล่เกลี่ย พร้อมยอมรับเป็นผู้เขียนข้อความติดหน้ารถ ไม่คิดว่าเรื่องจะบานปลาย


เมื่อวันที่ 7 ธ.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า คู่กรณีที่โพสต์ข้อความหมิ่นประมาท นาวินต้า ร์ หรือนายนาวิน เยาวพลกุล และภรรยาสาวไฮโซน้ำหวาน หรือ นางพัสวี พยัคฆบุตร ทางโซเซียลมีเดีย กรณีจอดรถขวางและใส่เบรกมือที่หาดบางแสน จ.ชลบุรี จนเป็นที่วิพากวิจารณ์ถึงการกระทำดังกล่าว หิ้วกระเช้าดอกไม้ เข้าขอขมาและขอไกล่เกลี่ยกับคู่กรณี ต่อหน้า พ.ต.อ.อำนาจ อินทรศวร ผกก.สน.บางเขน เนื่องจากสำนึกผิดที่ทำลงไป โดยก่อนหน้านี้ทางทนายความของนาวินต้าร์ เข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สน.บางเขน ให้เอาผิดกับเจ้าของเพจเฟซบุ๊ก 2 ราย ในความผิดฐานหมิ่นประมาทโดยการโฆษณาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

น.ส.ชรินทร แสงทอง ยอมรับว่า ตนเองคือคนที่เขียนข้อความในกระดาษติดหน้ารถของนาวินต้าร์ ด้วยถ้อยคำหยาบจริง โดยที่ทำลงไปเพื่อกลั่นแกล้งเท่านั้น ไม่คิดว่าเรื่องจะบานปลาย ส่วนโพสต์ว่าจอดรถเพียง 30 นาที แต่ความจริงคือจอดไว้นานถึง 2 ชั่วโมง พร้อมกราบขอโทษที่ทำให้เสียชื่อเสียงและยอมรับผิดทุกอย่าง โดยเรื่องทั้งหมดไม่ได้เกี่ยวข้องกับนาวินต้าร์และไซโฮน้ำหวานแต่อย่างใด


ส่วนอีก 2 คน คือ นายจุฬาวิทย์ บุญหอม และ น.ส.กัญญารัชย์ อยู่คง เป็นผู้ที่โพสต์ข้อความหยาบคายในโซเซียลเช่นเดียวกัน ออกมาเปิดเผยว่า ขอโทษที่ทำให้เสียชื่อเสียง ทำให้สังคมเข้าใจผิด และขอโทษทุกสิ่งทุกอย่างที่ฟังความข้างเดียวทำให้เข้าข้างคนผิด พร้อมอยากฝากให้เป็นอุทาหรณ์กับตนเองและคนอื่น

ขณะที่นาวินต้าร์และไฮโซน้ำหวาน เปิดเผยว่า หลังจากที่คู่กรณีออกมายอมรับผิดโดยไม่มีเงื่อนไขใดๆ ก็พร้อมจะให้อภัย และคิดว่าคงไม่มีประโยชน์ที่จะต้องดำเนินคดีต่อ ส่วนขั้นตอนต่อไปขอให้เป็นหน้าที่ของทนายความดำเนินการยุติคดี และขอให้เรื่องนี้เป็นอุทาหรณ์เตือนใจผู้ที่จอดรถขวางให้คนอื่นเดือดร้อน เมื่อขอโทษแล้วตนเองก็ให้โอกาส เพื่อได้เปลี่ยนตัวเองเป็นคนใหม่ ส่วนตัวไม่ได้ติดใจอะไรแล้ว เห็นอีกคนมีลูกยังเล็ก ก็เห็นใจมาก


ขณะที่ด้านทนายความของนาวินต้าร์ ขอเงื่อนไขกับคู่กรณีทั้ง3 คน ให้โพสต์ข้อความขอโทษลงเฟซบุ๊ก และลงประกาศทางหนังสือพิมพ์บางฉบับ เป็นเวลา 3 วัน เพื่อแสดงความรับผิดชอบ หากทำได้ทางนาวินต้าร์ก็ยอมยุติคดีให้ ซึ่งทางคู่กรณีก็ยินดีปฏิบัติตาม