นายกฯแนะ “สินเชื่อ พิโก ไฟแนนซ์”

2018-12-07 21:05:17

นายกฯแนะ “สินเชื่อ พิโก ไฟแนนซ์”

Advertisement

นายกฯ ระบุรัฐบาลแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบต่อเนื่องบรรเทาความเดือดร้อนพี่น้องประชาชน เผยกระทรวงการคลังไฟเขียว “สินเชื่อ พิโก ไฟแนนซ์" เก็บดอกเบี้ย ค่าปรับ ค่าบริการ ค่าธรรมเนียมไม่เกินร้อยละ 36 ต่อปี กู้ยืมได้ไม่เกิน 50,000 บาท มีหรือไม่มีหลักประกันก็ได้  กู้ง่าย ลดต้นลดดอก แนะสนใจศึกษาข้อมูลจากเว็บไซต์กระทรวงการคลัง หรือ โทรสายด่วน 1359

เมื่อวันที่ 7 ธ.ค. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้า คสช. กล่าวในรายการ “ศาสตร์พระราชา สู่การพัฒนาที่ยั่งยืน” ตอนหนึ่งว่า การแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบ นั้น รัฐบาลได้ดำเนินการมาอย่างต่อเนื่อง เพื่อช่วยบรรเทาความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชน ในหลายกรณีที่ได้เข้าไปช่วยแก้ไข ก็อาจจะเป็นเรื่องการแก้ที่ปลายเหตุ ได้แก่ การเข้าไปประนีประนอมหนี้กับเจ้าหนี้ แต่อีกแนวทางหนึ่ง ที่เราพยายามแก้ไข และ เน้นให้เกิดความเป็นธรรม โปร่งใส ในการกู้ยืมเงินทุนของพี่น้องประชาชน ก็คือ การนำธุรกรรมหนี้นอกระบบเข้ามาสู่ระบบ เพื่อให้เป็นการให้กู้ยืม ที่ถูกต้องตามกฎหมาย และ เป็นการเพิ่มช่องทาง การเข้าถึงแหล่งเงินทุนในระบบ ให้แก่ประชาชนรายย่อย ซึ่งจะเป็นการป้องกัน และแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบ แก่ประชาชนไปด้ว

นายกฯ กล่าวต่อว่า ในเวลาเดียวกัน กระทรวงการคลังได้อนุญาตให้มีการประกอบธุรกิจสินเชื่อรายย่อยประเภทใหม่ได้แก่ สินเชื่อรายย่อยระดับจังหวัดภายใต้การกำกับ หรือที่เรียกว่า “สินเชื่อ พิโก ไฟแนนซ์" ซึ่งผู้ประกอบธุรกิจสามารถเรียกเก็บดอกเบี้ย ค่าปรับ ค่าบริการ และค่าธรรมเนียมใด ๆ ได้ ไม่เกินร้อยละ 36 ต่อปี จำตัวเลขนี้ไว้ด้วย ไม่เกินร้อยละ 36 ต่อปี และจะต้องอยู่ภายใต้การกำกับดูแล ของกระทรวงการคลัง ทั้งนี้ ในการให้บริการสินเชื่อ พิโก ไฟแนนซ์ ผู้ที่จะให้สินเชื่อ หรือ เจ้าหนี้ จะต้องเป็นนิติบุคคล ที่มีทุนจดทะเบียนที่ชำระแล้ว ไม่น้อยกว่า 5 ล้านบาท และ ได้รับอนุญาตจากกระทรวงการคลัง ซึ่งจะทำให้การปล่อยกู้นั้น ถูกกฎหมาย สามารถให้กู้กับลูกหนี้ ที่เป็นคนในพื้นที่ ที่เราก็คงจะเป็นคนคุ้นหน้าคุ้นตากันอยู่แล้ว ช่วยให้สามารถประเมินความเสี่ยง รู้ความสามารถในการชำระหนี้ของผู้กู้ได้ นอกจากนี้ ผู้ให้กู้ คือเจ้าหนี้ ก็สามารถคิดดอกเบี้ยได้สูงกว่าสถาบันการเงินทั่วไป

นายกฯ กล่าวด้วยว่า ในขณะที่ลูกหนี้ จะสามารถกู้ยืมในระบบได้ง่ายขึ้น มีความโปร่งใส เป็นธรรม โดยสามารถกู้ยืมไปใช้อุปโภคบริโภค หรือฉุกเฉินจำเป็น ในแต่ละรายจะสามารถกู้ยืมได้ในวงเงิน ไม่เกิน 50,000 บาท และอาจมี หรือไม่มีหลักประกัน ก็ได้ แล้วแต่เจ้าหนี้จะกำหนด หรือใช้บุคคลเป็นผู้ค้ำประกันก็ได้ นอกจากนี้ อัตราดอกเบี้ยที่คิด แม้จะสูงกว่าสถาบันการเงินทั่วไป แต่ก็จะไม่สูงไปกว่าการออกไปกู้นอกระบบ รวมถึงการกู้ยืมก็ทำได้ง่ายกว่า และยังเป็นแบบลดต้น ลดดอก ซึ่งจะช่วยลดปัญหาในเรื่องที่ผ่อนใช้ไปนานๆ แล้วต้นไม่เคยลดลง จนทำให้ต้องเป็นภาระที่พอกพูน ไม่มีวันจบสิ้นได้ด้วย ทั้งนี้ ผู้ที่สนใจสามารถศึกษาข้อมูลได้ ตามเว็บไซต์ กระทรวงการคลัง หรือ โทรสายด่วน 1359 ได้