"สุริยะ"เผยจากการลงพื้นที่ ทำโพลมั่นใจ พปชร.กวาด 150 ส.ส.ทั่วประเทศ ภาคอีสานได้ประมาณ 50-60 คน ภาคกลาง 40 คน โวความนิยม พล.อ.ประยุทธ์ จะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ชี้ปัจจัยสำคัญทำให้อยู่ได้ถึง 4 ปี เพราะมีความซื่อสัตย์เป็นจุดแข็ง
เมื่อวันที่ 6 ธ.ค. ที่โรงแรมรามาการ์เด้นส์ พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) จัดสัมมนาแนวการรับสมัครสมาชิกภาคกลาง โดยมีนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ แกนนำพรรค เป็นประธาน พร้อมด้วยแกนนำพรรค ร่วมชี้แจงได้แก่ นายสุชาติ ตันเจริญ นายอนุชา นาคาศัย นายณัฎฐพล ทีปสุวรรณ และนายวิเชียร ชวลิต นายทะเบียนพรรค
นายสุริยะ ให้สัมภาษณ์ว่า เป็นการประชุมเพื่อชี้แจงแก่ผู้ที่จะสมัครรับเลือกตั้ง เกี่ยวกับข้อกฎหมาย ว่าจะทำอย่างไรให้ถูกต้องตามกฎเกณฑ์ ที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.)ระบุไว้ เวลานี้ พปชร.ต้องทำนโยบายที่ตอบสนองต่อประชาชน เพื่อให้ได้ ส.ส.มากที่สุด ขณะนี้กระแสของ พปชร.เป็นไปด้วยดี หากผู้สมัครได้ลงพื้นที่อย่างหนัก กระแสของพรรคจะดีขึ้นอีก ในช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา จากการลงพื้นที่และโพล เราได้ประเมินว่าจะได้ ส.ส.150 คนทั่วประเทศ โดยภาคอีสาน จะได้ประมาณ 50 - 60 คน ภาคกลาง 40 คน ภาคใต้น่าจะได้ไม่มาก แต่จะพยายามทำให้ดีที่สุด ส่วนภาคเหนือ วันนี้ประชาชนตอบรับดี เชื่อว่าจะได้คะแนนและ ส.ส.สูสีกับพรรคเพื่อไทย (พท.)
ผู้สื่อข่าวถามว่า นำนโยบายของรัฐบาลมาหาเสียงหรือไม่ นายสุริยะ กล่าวว่า วันนี้ยังไม่สามารถเปิดเผยได้ เพราะจะมีคนลอกเลียนแบบ แต่ยอมรับว่านโยบายของรัฐบาลจะเป็นส่วนหนึ่งในนโยบายหาเสียงของ พปชร. ทั้งนี้ถ้าผู้สมัครทุกคนสามารถลงพื้นที่และบอกในสิ่งที่ พล.อ.ประยุทธ์ ทำไว้ให้กับประชาชนได้ เชื่อว่าความนิยมของ พล.อ.ประยุทธ์ ก็จะสูงขึ้น แต่ขณะนี้ต้องไม่ลืมว่า พล.อ.ประยุทธ์ ยังไม่ตัดสินใจหรือแสดงเจตนาในเรื่องการเมือง แต่มั่นใจว่าคะแนนนิยมของ พล.อ.ประยุทธ์ จะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ปัจจัยสำคัญที่ทำให้ พล.อ.ประยุทธ์ อยู่ได้ถึง 4 ปี เพราะมีความซื่อสัตย์ จนมั่นใจว่าเป็นจุดแข็งของ พล.อ.ประยุทธ์
ต่อข้อาถมว่า กระแสในภาคอีสานจะสู้พรรคเพื่อไทย ได้หรือไม่ นายสุริยะ กล่าวว่า อดีตพรรคไทยรักไทย(ทรท.) และพรรคเพื่อไทย มี 2 นโยบายในการหาเสียงคือ 30 บาทรักษาทุกโรค และกองทุนหมู่บ้าน แต่รัฐบาลปัจจุบัน มีหลายนโยบายที่มากกว่า 2 เรื่องนี้ ซึ่ง พปชร.เองก็จะมีนโยบายใหม่ๆออกมา ดังนั้นเมื่อประชาชนได้พิจารณา แล้วเห็นว่าดี พปชร.ก็จะได้คะแนนมากกว่า พท. เมื่อถามถึงแรงกดดันให้ พล.อ.ประยุทธ์ ลาออกจากตำแหน่งเพื่อลงมาสู้ในสนามเลือกตั้ง นายสุริยะ กล่าวว่า เห็นมีการกดดันทั้ง พล.อ.ประยุทธ์ และ 4 รัฐมนตรี แต่อดีตประธาน กกต.ก็ยังระบุชัดว่า ที่ผ่านมารัฐบาลจากการเลือกตั้ง ไม่มีหัวหน้ารัฐบาลชุดใด ต้องลาออก เมื่อหาเสียงเลือกตั้ง ซึ่งยังคงปฏิบัติหน้าที่จนจบ และสมัยที่ตนดูพรรคไทยรักไทยอยู่กันจนครบสมัย ไม่มีการลาออก แต่ก็หาเสียงกันตามปกติ เช่นเดียวกับสมัยพรรคประชาธิปัตย์เมื่อเป็นรัฐบาล ก็ไม่ได้ลาออกเมื่อจะมีการเลือกตั้ง และเห็นว่ารัฐบาลชุดนี้ยังต้องรับผิดชอบในปัญหาด้านเศรษฐกิจ หากลาออกมาแล้วจะใช้กลไกใดแก้ไขปัญหา