นายกรัฐมนตรีเปิดทดลองให้บริการเดินรถไฟฟ้าสายสีเขียว ช่วงแบริ่ง – สมุทรปราการ ให้ใช้ไฟรี 4 เดือน ตั้งแต่วันที่ 6 ธ.ค. 2561 -15 เม.ย. 2562 เติมเต็มการพัฒนาระบบขนส่งมวลชนทางรางให้เชื่อมโยงพื้นที่ กทม. และปริมณฑล
เมื่อเวลา 07.00 น. วันที่ 6 ธ.ค. ณ โรงจอดและซ่อมบำรุงรถไฟฟ้าสมุทรปราการ ถนนสุขุมวิท ต.ท้ายบ้าน อ.เมือง จ.สมุทรปราการ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้า คสช. เป็นประธานเปิดทดลองให้บริการเดินรถไฟฟ้าสายสีเขียว ช่วงแบริ่ง – สมุทรปราการ โดยมี นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คมนาคม นายไพรินทร์ ชูโชติถาวร รมช.คมนาคม พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร นายชัยวัฒน์ ทองคำคูณ ปลัดกระทรวงคมนาคม นายภคพงศ์ ศิริกันทรมาศ ผู้ว่าราชการการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย นายชาติชาย อุทัยพันธ์ ผวจ.สมุทรปราการ พร้อมด้วยคณะผู้บริหารส่วนราชการ ผู้แทนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วม
สำหรับโครงการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีเขียวช่วงแบริ่ง - สมุทรปราการ ถือเป็นโครงการรถไฟฟ้าแบบยกระดับ ตลอดเส้นทาง 13 กิโลเมตร จำนวน 9 สถานี โดยเป็นเส้นทางเริ่มต้นต่อเนื่องจากแนวเส้นทางโครงการ บีทีเอส ส่วนต่อขยายสายสุขุมวิท ตอนที่ 1 ช่วง อ่อนนุช - แบริ่ง ซึ่งจะเปิดให้ประชาชนทดลองใช้บริการรถไฟฟ้าสายสีเขียวช่วงแบริ่ง - สมุทรปราการ ตั้งแต่วันที่ 6 ธ.ค. 2561 -15 เม.ย. 2562 รวมระยเวลา 4 เดือน โดยไม่เก็บค่าโดยสารเพื่อมอบความสุข เป็นของขวัญปีใหม่ให้กับประชาชนทุกคน ก่อนจะมีกำหนดการเปิดเดินรถจริงในเดือน เม.ย. 2562 ต่อไป ในเบื้องต้นได้กำหนดเพดานอัตราค่าโดยสารตั้งแต่สายสุขุมวิท สายสีลม และส่วนต่อขยายนี้ สูงสุดให้ไม่เกิน 65 บาท
โอกาสนี้ นายกรัฐมนตรี กล่าวเปิดทดลองให้บริการเดินรถไฟฟ้าสายสีเขียว ช่วงแบริ่ง – สมุทรปราการ ว่า การเปิดเดินรถไฟฟ้าสายสีเขียว ช่วงแบริ่ง - สมุทรปราการ เป็นโครงการระบบขนส่งมวลชนสำคัญ ที่เติมเต็มการพัฒนาระบบขนส่งมวลชนทางรางให้เชื่อมโยงพื้นที่ กทม. และปริมณฑล ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ครอบคลุมในทุกพื้นที่ และเป็นระบบขนส่งมวลชนที่สะดวก ปลอดภัย มีประสิทธิภาพ รวมทั้งเพื่อให้ประชาชนเข้าถึงการให้บริการได้อย่างเสมอภาค และเท่าเทียม นำไปสู่การบรรลุวิสัยทัศน์ ประเทศมีความมั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน พร้อมกับช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจของไทยให้เติบโต ยกระดับคุณภาพชีวิต สร้างความอยู่ที่ดีให้กับพี่น้องประชาชน และสามารถแก้ไขปัญหาจราจรให้ประชาชนที่เดินทางมาทำงานจากสมุทรปราการ เข้า กทม. ทั้งนี้ การแก้ไขปัญหาจราจรต้องแก้ทั้งระบบ ทุกภาคส่วนต้องช่วยกันอย่างจริงจัง และที่สำคัญประชาชนต้องเคารพกฎจราจร ซึ่งที่ผ่านมารัฐบาลได้พยายามแก้ไขปัญหามาโดยตลอด แต่ยังไม่สามารถแก้ไขปัญหาได้ เพราะยังขาดความร่วมมือ และยังมีประชาชนที่ไม่เคารพกฎหมาย
จากนั้นนายกรัฐมนตรี ได้ทดลองนั่งรถไฟฟ้าฯ จากโรงจอดและซ่อมบำรุงรถไฟฟ้าสมุทรปราการ ไปยังสถานีการเคหะฯ โดยมีประชาชนในพื้นที่ใกล้เคียงมารอให้การต้อนรับ โดยนายกรัฐมนตรีได้กล่าวกับประชาชน ยืนยันรัฐบาลต้องการที่จะสร้างการขนส่งมวลชนให้เกิดการเชื่อมโยงจากปริมณฑลเข้าสู่เมือง แต่การจะดำเนินการก่อนสร้างได้นั้น ประชาชนต้องให้การร่วมมือ เพราะยังติดขัดเรื่องที่ดิน ดังนั้น จึงมีแนวคิดมอบให้กระทรวงคมนาคม และ กทม.ไปดูแลประชาชนผู้มีรายได้น้อย รวมถึงประชาชนที่ถูกเวนคืนที่ดิน โดยให้สร้างอาคารที่อยู่อาศัยในพื้นที่โครงการจอดเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนให้กับผู้ที่ได้รับผลกระทบโดยตรงก่อน
นายกฯ กล่าวชี้แจงถึงมาตรการการช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อยว่า ไม่ได้เป็นการแจก แต่เพื่อต้องการลดภาระของแต่ละครัวเรือน ซึ่งงบประมาณที่จัดสรรอยู่ในกรอบกฎหมาย ยืนยันว่ารัฐบาลชุดนี้ ไม่ได้ล้มละลาย มีหนี้สาธารณะเพียง 41.7 % เท่านั้น ซึ่งกฎหมายกำหนดให้มีได้ไม่เกิน 60 % โดยที่ผ่านมารัฐบาล ใช้งบประมาณก่อให้เกิดประโยชน์ และนำไปดำเนินโครงการต่าง ๆ ให้เกิดเป็นรูปธรรมเป็นจำนวนมาก
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า 4 ปี ที่ผ่านมา ประเทศชาติสงบ จึงต้องระมัดระวังไม่ให้มีปัญหาเกิดขึ้น ขอร้องฝ่ายการเมือง อย่านำกฎหมายมาสู้กัน ควรนำประเทศชาติมาคุยกันอยู่ในกติกา โดยวันที่ 7 ธ.ค.นี้ ได้ เชิญพรรคการเมืองมาพูดคุยหารือ หากพรรคไหน ไม่ยอมมา ก็ถือไม่เคารพกติกา พร้อมกับขอให้ประชาชนมีหลักคิดใหม่ มีเหตุ และผล มีความรักความสามัคคี อย่านำประเทศกลับไปสู่สถานการณ์ความขัดแย้งแบบเดิมอีก
เริ่มนั่งฟรีตั้งแต่ ช่วงแบริ่ง – สมุทรปราการ