นักวิจัยรายงานในวันพุธว่าการปลูกถ่ายมดลูกของผู้บริจาคที่เสียชีวิตแล้วสามารถช่วยเหลือผู้หญิงที่มีปัญหามีลูกยาก หลังผู้หญิงที่ผ่าตัดปลูกถ่ายมดลูกได้ให้กำเนิดลูกน้อยสำเร็จแล้วเป็นคนแรก
รายงานอีกขั้นของความสำเร็จในวงการแพทย์ถูกตีพิมพ์ลงบนวารสารเดอะแลนเซ็ต โดยการผ่าตัดซึ่งเกิดขึ้นตั้งแต่เมื่อเดือนกันยายนปีพ.ศ. 2559 ที่เมืองเซาเปาโลของประเทศบราซิล ได้แสดงให้เห็นว่าการปลูกถ่ายมดลูกเกิดขึ้นได้จริงและสามารถช่วยเหลือผู้หญิงนับพันที่ประสบกับภาวะมีบุตรยาก
โดยก่อนหน้านี้ผู้หญิงที่มีภาวะมีบุตรยากมีทางเลือกแค่รับเลี้ยงบุตรบุญธรรมหรือไม่ก็ใช้บริการคุณแม่อุ้มบุญเท่านั้น
การผ่าตัดปลูกถ่ายมดลูกนี้เป็นครั้งแรกที่สำเร็จ หลังจากที่มีความพยายามปลูกถ่ายมดลูกจากผู้บริจาคที่ยังมีชีวิตอยู่ในประเทศสวีเดนเมื่อปีพ.ศ. 2557 ซึ่งหลังจากนั้นก็มีความพยายามตามมาอีก 10 ครั้ง แต่ปัญหาคือผู้หญิงที่มีภาวะมีบุตรยากมีจำนวนมากกว่าผู้บริจาคที่ยังมีชีวิตอยู่มาก แพทย์จึงต้องการหาทางปลูกถ่ายมดลูกของผู้บริจาคที่เสียชีวิตไปแล้ว
ความพยายามปลูกถ่ายมดลูกจากผู้บริจาคที่เสียชีวิตแล้วเคยเกิดขึ้นทั้งในสหรัฐอเมริกา สาธารณรัฐเช็กและประเทศตุรกีแล้วก่อนหน้านี้ ก่อนที่จะมีรายงานความสำเร็จในวันพุธ
ดานิ เอจเซนเบิร์ก อาจารย์แพทย์ประจำมหาวิทยาลัยแห่งเซาเปาโลกล่าวว่าจำนวนผู้บริจาคที่ต้องการและตั้งใจจะบริจาคอวัยวะหลังเสียชีวิตนั้นมากกว่าผู้บริจาคที่ยังมีชีวิตมาก ทำให้มีจำนวนผู้บริจาคสูงกว่ามาก
ในกรณีความสำเร็จของการผ่าตัดที่ประเทศบราซิลนี้ หญิงผู้รับบริจาคอายุ 32 ปีไม่มีมดลูกตั้งแต่กำเนิดเพราะป่วยเป็นโรคหายาก และ 4 เดือนก่อนจะปลูกถ่ายอวัยวะเธอก็ต้องทำการปฏิสนธินอกร่างกายและได้ไข่ที่ปฏิสนธิแล้ว 8 ใบแช่แข็งเก็บไว้ ก่อนจะเข้ารับการผ่าตัดปลูกถ่ายอวัยวะจากผู้บริจาควัย 45 ปีที่เสียชีวิตจากเส้นเลือดในสมองแตก
โดยเด็กหญิงตัวน้อยที่เกิดจากมดลูกปลูกถ่ายคลอดออกมาเมื่อเดือนธันวาคมพ.ศ. 2560