ดีเอสไอเอาผิดมูลนิธิมหารัตนอุบาสิกาจันทร์

2018-11-29 17:40:54

ดีเอสไอเอาผิดมูลนิธิมหารัตนอุบาสิกาจันทร์

Advertisement

ดีเอสไอเอาผิดมูลนิธิมหารัตนอุบาสิกาจันทร์ ขนนกยูง ในอุปถัมภ์พระราชภาวนาวิสุทธิ์ และกรรมการ ในข้อหาสมคบกันฟอกเงินและร่วมกันฟอกเงิน

เมื่อวันที่ 29 พ.ย. พ.ต.อ.ไพสิฐ วงศ์เมือง อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) พร้อมด้วยพ.ต.ท.ปกรณ์ สุชีวกุล ผอ.กองการเงินการธนาคาร และนายขจรศักดิ์ พุทธานุภาพ รองอธิบดีอัยการ สำนักการสอบสวน 3 ร่วมแถลงความคืบหน้าการดำเนินคดีฟอกเงินกับมูลนิธิมหารัตนอุบาสิกาจันทร์ขนนกยูงในพระอุปถัมภ์พระราชภาวนาวิสุทธิ์ (พระธัมมชโย) และกรรมการมูลนิธิ ที่ได้รับเงิน 125 ล้านบาท จากนายศุภชัย ศรีศุภอักษร กับพวก คดีทุจริตเซ็นเช็คสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น จำกัด ระบุว่า ตามที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ ได้มีการดำเนินคดีอาญากับนายศุภชัย กับพวก ในความผิดฐานฉ้อโกงประชาชนหลอกลวงให้นำเงินมาฝากที่สหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น จำกัด โดยอ้างว่าจะได้ผลตอบแทนสูง และเมื่อประชาชนหลงเชื่อและได้นำเงินมาฝากแล้วได้มีการกระทำการทุจริตในสหกรณ์ มีการนำเงินของสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น จำกัด ไปโดยไม่ชอบ และกรมสอบสวนคดีพิเศษ ได้ดำเนินคดีฟอกเงินต่อเนื่องอีกหลายคดี ซึ่งรวมถึงคดีวัดพระธรรมกายที่ได้สรุปสำนวนส่งสำนักงานอัยการคดีพิเศษและอัยการคดีพิเศษได้สั่งฟ้องผู้ต้องหาไปแล้วนั้น


ในการดำเนินคดีเกี่ยวกับการฟอกเงินข้างต้น กองคดีการเงินการธนาคารและการฟอกเงินได้สอบสวนคดีพิเศษที่ 24/2560 กรณีนายธรรมนูญ อัตโชติ กับพวก ร้องทุกข์กล่าวโทษให้ดำเนินคดีฟอกเงินกับมูลนิธิมหารัตนอุบาสิกาจันทร์ขนนกยูงในพระอุปถัมภ์พระราชภาวนาวิสุทธิ์ (พระธัมมชโย) และกรรมการมูลนิธิฯ ที่ได้รับเงินจำนวน 125 ล้านบาท จากนายศุภชัย ศรีศุภอักษร กับพวก กระทำทุจริต เซ็นเช็คสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น จำกัด โดยไม่มีมูลหนี้ต่อกัน ทางการสอบสวนมีข้อมูลเพียงพอแจ้งข้อกล่าวหานางวรรณา จิรกิติ ประธานกรรมการมูลนิธิฯ และ น.ส.อารีพันธุ์ ตรีอนุสรณ์ (เสียชีวิต) กรรมการและเลขานุการมูลนิธิฯ ผู้ถูกกล่าวหา ในข้อหาสมคบกันฟอกเงินและร่วมกันฟอกเงินตาม พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. 2542 มาตรา 3 (3), 5, 9 และ 60 โดยนางวรรณา ผู้ถูกกล่าวหา ได้เข้าชี้แจงต่อสู้ข้อกล่าวหาและยื่นพยานหลักฐานกับทางคณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษแล้ว บัดนี้ การสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐานเสร็จสิ้นแล้ว คณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษจึงได้สรุปสำนวนการสอบสวนและมีความเห็นทางคดี เพื่อจะได้ส่งสำนวนการสอบสวนพร้อมตัวผู้ถูกกล่าวหาไปยังพนักงานอัยการคดีพิเศษ พิจารณาดำเนินการตามกฏหมายต่อไป


อนึ่ง เนื่องจากเรื่องที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินกิจกรรมของมูลนิธิว่ากระทำการขัดต่อกฎหมายหรือไม่ ซึ่งพนักงานอัยการ สำนักงานอัยการสูงสุด มีอำนาจในการดำเนินการ ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 131 (2) คณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษจึงเสนอเรื่องต่ออธิบดีดีเอสไอให้ส่งเรื่องไปยังสำนักงานอัยการสูงสุดเพื่อพิจารณาดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ต่อไป