“พี่คล้าว”พบ ตร.โผกอดหอมควายยิ้ม

2018-11-29 15:35:17

“พี่คล้าว”พบ ตร.โผกอดหอมควายยิ้ม

Advertisement

“พี่คล้าว2018” โผกอด หอมเจ้าทองคำควายยิ้ม ก่อนรับทราบข้อกล่าวหาจากพนักงานสอบสวน สน.คันนายาว เปรยกับควาย เดี๋ยวจะได้กลับบ้านไปอยู่ด้วยกันนะ”


จากคดีของนายสุรัตน์ แผ้วเกตุ หรือ "พี่คล้าว 2018" ขอเรี่ยไรเงินเพื่อไถ่ตัวควายเจ้าทองคำจำนวน 1 แสนบาท แล้วมีผู้เสียหายที่บริจาคเงินให้เข้าแจ้งความให้ดำเนินคดีที่ สน.คันนายาว ตามที่นำเสนอข่าวไปแล้วนั้น

เมื่อเวลา 14.40 น. วันที่ 29 พ.ย. นายสุรัตน์ ได้เดินทางเข้ารับทราบข้อกล่าวหากับพนักงานสอบสวน สน.คันนายาวใน 4 ข้อกล่าวหา คือ ความผิดฐานฉ้อโกงประชาชน ความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ความผิด พ.ร.บ.การเรี่ยไร และ ความผิด พ.ร.บ.การฟอกเงิน โดยเมื่อเดินทางมาถึง สน.คันนายาว นายสุรัตน์ ได้เดินไปหาเจ้าควายทองคำ ที่ถูกเลี้ยงไว้ที่ด้านหลัง สน. และได้โผเข้ากอดหอม พูดจากับเจ้าควายทองคำว่า “เดี๋ยวจะได้กลับบ้านไปอยู่ด้วยกันนะ”


นายสุรัตน์ กล่าวว่า วันนี้เดินทางมาเพื่อพบเจ้าหน้าตำรวจยืนยันความบริสุทธิ์ใจ ยืนยันไม่เคยโพสต์ว่า การกระทำนี้เป็นการทำเพื่อการไถ่ชีวิต แค่ยอมรับว้าได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อท้องถิ่น และพูดหลุดไป เนื่องจากเป็นการสัมภาษณ์จากผู้สื่อข่าวถามว่าจะทำอย่างไรต่อไป จึงเผลอพูดคำว่าเรี่ยไรไถ่ชีวิตไป ก่อนเดินทางมาที่นี่ มีการพูดคุยเรื่องนี้กับนายบุญเลิศ กาฬภักดี นายก อบต.สุขเดือนห้า เจ้าของควายคนเก่าแล้ว นายบุญเลิศก็รู้จักกับพ่อตาของตนเป็นอย่างดี ซึ่งนายบุญเลิศยินดีให้นำควายกลับไปเลี้ยง หากสามารถเคลียร์ประเด็นเรื่องนี้ได้ และตอนที่มอบเงิน 1 แสนบาทให้กับนายบุญเลิศนั้น นายบุญเลิศก็ทราบว่าเงินมาจากการบริจาค แต่ไม่ทราบว่าทำไมเรื่องราวถึงกลับกลายเป็นแบบนี้


นายสุรัตน์ กล่าวต่อว่า ส่วนการโพสต์เลขบัญชีรับโอนเงิน เกิดจากก่อนหน้านั้น ตนเองได้โพสต์ว่าหากใครต้องการช่วยเหลือให้ติดต่อผ่านข้อความ แต่เนื่องจากมีผู้สนใจติดต่อผ่านข้อความจำนวนมากจึงตัดสินใจโพสต์เลขบัญชี เพื่อให้สะดวกต่อการรับบริจาคเงิน ยืนยันอีกว่า ไม่ได้มีใครแนะนำให้ทำ ทั้งนี้ในช่วงแรกที่ติดต่อว่าจะเดินทางเข้าพบพนักงานสอบแต่เพิ่งจะเข้ามาวันนี้ เนื่องจากตนเองไม่รู้กฎหมายจึงต้องปรึกษากับผู้มีความรู้และหาทนายความก่อน ไม่ได้เจตนาหลบหนี ส่วนข้อกังขาที่เชิญหน่วยงานต่างๆ มาในวันมอบควายนั้น เพื่อต้องการให้ผู้ที่บริจาคเห็นว่ามีการมอบเงิน และรับควายมาจริงๆ ไม่ได้มีการจัดฉาก หรือมีใครเขียนบทให้แต่อย่างใด


นายสุรัตน์ กล่าวอีกว่า ฝากบอกผู้บริจาคว่า ตนเองตั้งใจจะเลี้ยงเจ้าทองคำไว้เพื่ออนุรักษ์ ไม่ได้ตั้งใจจะหลอกลวงใคร ชาวบ้านในพื้นที่ก็เข้าใจตนเองดี ว่าไม่ได้เจตนาฉ้อโกงหรือหลอกใคร

อย่างไรก็ตาม พนักงานสอบสอบได้ทำการสอบสวนนายสุรัตน์ในประเด็นการเรี่ยไรไถ่ชีวิตควาย รายละเอียดการขอรับบริจาค และวัตถุประสงค์ที่แท้จริง ก่อนจะแจ้งข้อกล่าวหา และพิจารณาปล่อยตัวไปหรือไม่ เนื่องจากนายสุรัตน์ได้เดินทางเข้ามาพบพนักงานสอบสวนเอง