ยังจำกันได้ไหม เมื่อหลายปีก่อน ใครที่ใช้บริการรถไฟฟ้า BTS สถานีอโศก เป็นประจำ มักจะพบเห็นเจ้าแมวเหมียวสีเหลืองตัวอ้วนกลมนั่งเล่นเดินเล่นอวดโฉมความน่ารัก จนใครไปใครมาต่างอดไม่ได้ที่จะแชร์ภาพความประทับใจไปทั่วอินเทอร์เน็ต จนทำให้มันกลายเป็นแมวเซเลบชื่อดังชั่วข้ามคืน
แต่แล้วเหตุการณ์ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้นเมื่อ “เจ้าเหมียวอโศก” ถูกสุนัขไล่ฟัดจนได้รับบาดเจ็บไปทั้งตัว กระทั่งแอดมินเพจ "ทูนหัวของบ่าว" ไปพบเข้าก็เลยพาไปรักษากับสัตวแพทย์ และรับดูแลตั้งแต่บัดนั้นเป็นต้นมา
จวบจนวันนี้วันเวลาผ่านไปกว่า 5 ปีแล้ว “แมวอโศก” เป็นอย่างไรบ้าง หลายคนคงอยากทราบข่าวคราว ล่าสุด แอดมินเพจ "ทูนหัวของบ่าว" ได้โพสต์เรื่องราวของ “แมวอโศก” อีกครั้ง มีใจความน่าสนใจดังนี้
“แมวอโศก มาอยู่กับเราตั้งแต่ปี 2557 เพราะมีอาการบาดเจ็บจากการถูกทำร้าย และ มีอาการปอดบวม และอาการป่วยหลายอย่างจากการใช้ชีวิตข้างถนน ก่อนหน้านั้นหลายปี นัชญ์ก็คงเหมือนคนทั่วไปที่เห็นแมวที่ไหนเป็นไม่ได้ต้องแวะให้ข้าวให้น้ำ แมวอโศกคือแมวดังในโลกอินเตอร์เน็ตมาก่อน เพราะเขาอาศัยอยู่ที่รถไฟฟ้า ใช้ชีวิตกิน เดิน เล่น นอนอยู่แถวบันไดเลื่อน ร้านขายของ นอนไปทั่ว ด้วยความน่ารักของเขาทำให้คนถ่ายภาพและติด hashtag แมวอโศก จนโด่งดัง
นัชญ์ก็เป็นคนหนึ่งค่ะที่ใช้ชีวิตเดินทางด้วย MRT ปกติตรงยาวไปถึงออฟฟิศย่านสีลมเลยก็ได้ แต่ก็มักจะแวะขึ้นที่สถานีสุขุมวิทเพื่อป้อนข้าวป้อนน้ำแมวอโศกก่อนเสมอ จนวันหลังก็ไปเจอนอนจมกองเลือด ตั้งแต่เช้า ด้วยความที่รีบไปทำงานเลยถ่ายภาพอัพเดทในทวิต ขอให้คนช่วยพาแมวอโศกไปหาหมอ จนสองทุ่มก็ยังไม่มีใครพาไป แต่ก็รับการติดต่อจากคุณเก๋ คนใจดีที่เคยดูแลแมวอโศกตอนหางบาดเจ็บจนต้องตัดหางว่า แมวอโศก มีประวัติอยู่ที่โรงพยาบาลหนึ่งแถวสุขุมวิท เลยพาไปรักษา พอออกจากโรงพยาบาลก็ต้องพักฟื้น เลยคิดว่าการส่งแมวอโศกกลับไปอยู่ข้างถนนคงไม่ใช่วิถีทางที่ดี ตั้งแต่ตอนนั้นจนตอนนี้ แมวอโศกก็อยู่บ้านทูนหัวของบ่าวมา 6 ปีแล้ว เราพากันตระเวนเที่ยวทุกทิศทั่วไทย ใช้ชีวิตอย่างที่แมวตัวหนึ่งจะมีความสุขได้ เวลาขับรถไปต่างจังหวัด แมวอโศกจะชอบนอนบนตัก กี่พันกิโลก็ต้องอดทน เพราะเฮียเขาไม่ยอมไปนอนเบาะอื่น
นัชญ์เคยพาแมวอโศกกลับไปเยี่ยมพี่ ๆ รปภ. ที่สถานีด้วยนะคะ มีพี่ รปภ คนหนึ่งดีใจมากที่อโศกมาเยี่ยม แกวิ่งมาอุ้มอโศก และเล่าให้ฟังว่า อโศก อยู่กับแกตั้งแต่ MRT เปิด ตั้งแต่แกมาเป็น รปภ วันแรก ตั้งแต่ตอนยังมีตลาดแยกอโศก อโศกเป็นแมวที่เกิดในตลาด แต่ถูกพวกรุ่นใหญ่ในตลาดรังแกบ่อย ๆ เลยชอบย้ายมานอนที่สถานี หิวก็กลับไปกินที่ตลาด ใช้ชีวิตวนเวียนอยู่แบบนี้ นัชญ์กลับไปย้อนดูว่า MRT เปิดให้บริการปี 2542 นับนิ้วดูก็เกือบ 19 ปีแล้ว
ไม่รู้เรื่องนี่เป็นเรื่องจริงไหม เพราะถ้าจริงแมวอโศกจะมีอายุเกือบ 19 ปีเลย
แต่ตอนนัชญ์พาอโศกไปหาหมอครั้งแรก หมอบอกว่าแมวอโศกอายุน่าจะมากกว่า 8 ปีแล้ว เพราะฟันล่างหายไปหมดแล้ว และสภาพฟันก็บ่งบอกความแก่ได้ในระดับหนึ่ง แต่ก็ไม่แน่ใจว่า หายจากการเป็นนักรบหรือแก่ตัว มาอยู่ด้วยกันอีก 6 ปี ก็เท่ากับ 14 ปี
เลยเป็นที่มาของการอยากให้คนช่วยเล่าประวัติ แมวอโศก ที่ทุกคนรู้จักสู่กันฟังได้ไหมคะ"
แต่...การโพสต์ข้อความถึง “แมวอโศก” ครั้งนี้ต่างจากทุกครั้งที่ผ่านมา เพราะมีเรื่องสำคัญเรื่องหนึ่งที่ “แอดมินเพจ ทูนหัวของบ่าว” อยากบอกให้ทุกคนที่ยังรักและคิดถึงเจ้าเหมียวตัวนี้ได้รับทราบ “ข่าวเศร้า” พร้อมขอให้ช่วยส่งกำลังใจถึง “แมวอโศก” ด้วย โดยข้อความดังกล่าวมีใจความต่อเนื่องซึ่งสุดแสนสะเทือนใจดังนี้
“เขียนมาซะยาวเหยียด เลยอยากจะบอกว่า พวกเราคงมีเวลาเห็นความน่ารักของแมวอโศกได้ไม่นาน เพราะตอนนี้แมวอโศก ได้ป่วยหนัก รักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล และอาการก็เริ่มแย่ลงในทุกวันค่ะ
หลังจากที่มะลิเสียเมื่อเดือนมีนาคม แมวอโศกที่เคยมีคู่ชีวิต นอน กิน เที่ยว ตัวติดกันมาตลอด ก็เริ่มตรอมใจ เริ่มมีอาการอยากออกไปเที่ยวนอกบ้าน ตรวจสุขภาพประจำปีโดยละเอียด อัลตราซาวด์ทุกอย่าง เมื่อเดือนมกราคม พร้อมกับมะลิ ก่อนเสียแค่สามเดือนก็ยังปกติดีทุกอย่าง หลังจากมีนาคม อโศกก็เริ่มอยากออกเที่ยว จนเรามักจะแซวอโศกอยู่บ่อย ๆ ว่า พอไม่ได้เที่ยวก็ฉี่เรี่ยราด ทำน้ำลายฟูมปากตลอด จนต้องพาไปหาหมอ หมอก็บอกว่า เขาเครียด นัชญ์เองก็ไม่ได้อยากให้เขาออกไปนอกบ้าน แต่ก็พบว่าวันไหนให้ไปเที่ยวก็จะดูสบายใจขึ้น เลยให้ไปบ้าง
แต่นัชญ์ก็มาพบว่าอาการฉี่เรี่ยราดของเขา อาจจะเป็นอาการของแมวแก่ที่กลั้นปัสสาวะไม่อยู่ ฉี่กระปิดกระปอยเหมือนคนแก่ สัปดาห์ช่วงที่นัชญ์ไปต่างประเทศ แมวอโศกเริ่มนอนมากขึ้น และ ไม่กินข้าว พี่เลี้ยงเลยพามาส่งโรงพยาบาลรักษาอาการกระเพาะปัสสาวะอักเสบ เพราะฉี่มีเลือดปนเยอะ และเริ่มเข้าสู่กระบวนการตรวจอย่างละเอียด เราจึงพบว่า ไตของอโศกสูญเสียไปเยอะมาก เนื่องจากอายุมาก และ กระเพาะปัสสาวะอักเสบทำให้ไตทำงานหนัก ค่าไตพุ่งไปถึง 10.4 ซึ่งปกติควรอยู่ไม่เกิน 2.4 ไตทำงานได้ไม่ถึง 50% แล้ว
"อโศก"เข้ารับการรักษามาสัปดาห์หนึ่งแล้วค่ะ ทั้งสวนท่อปัสสาวะ เจาะเลือดจนแขนขาบวม และไม่ยอมกินข้าวเลย อาการเริ่มแย่ลงเรื่อย ๆ
นัชญ์ไม่ได้บอกเรื่องนี้กับทุกคนตั้งแต่วันแรก เพราะรู้สึกว่า อยากรักษาสภาพจิตใจตัวเองก่อน เพราะนัชญ์ทำใจยากกว่าตอนมะลิมาก อย่างตอนมะลิป่วยแค่วันสองวันแล้วก็จากไปเลย แต่แมวอโศกมีช่วงเวลาที่ทำให้เราทรมานใจกับความเจ็บป่วยของเขา ทำให้เศร้ามากที่ต้องคอยมากอดเขาทุกวันที่โรงพยาบาล และรู้ว่าเขาเจ็บปวดแค่ไหน วันนี้ผลตรวจเลือดออกมาทุกอย่างแย่ลงมาก นัชญ์เลยตัดสินใจบอกหมอว่า
“ถ้าต้องทำอะไรให้เจาะเจ็บตัว เช่นเจาะปอด หรืออะไรเหมือนมะลิ ขอให้เขาไปอย่างสงบดีกว่าค่ะ”
อยากให้เขาเหมือนคุณตาแก่ ๆ ที่นอนหลับไปเฉย ๆ ก็ได้ ไม่ต้องยื้ออะไรแล้ว อันนี้พูดเผื่อในกรณีที่ไม่ไหวแล้วนะคะ
ทางเราก็อยากได้กำลังใจจากทุกคน จึงอยากให้ช่วยกันเขียนเล่าเรื่องแมวอโศกสู่กันฟังบ้างนะคะ
เขียนมาซะยาวเหยียด เลยอยากจะบอกว่า พวกเราคงมีเวลาเห็นความน่ารักของแมวอโศกได้ไม่นาน เพราะตอนนี้แมวอโศก ได้ป่วยหนัก รักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล และอาการก็เริ่มแย่ลงในทุกวันค่ะ
หลังจากที่มะลิเสียเมื่อเดือนมีนาคม แมวอโศกที่เคยมีคู่ชีวิต นอน กิน เที่ยว ตัวติดกันมาตลอด ก็เริ่มตรอมใจ เริ่มมีอาการอยากออกไปเที่ยวนอกบ้าน ตรวจสุขภาพประจำปีโดยละเอียด อัลตราซาวด์ทุกอย่าง เมื่อเดือนมกราคม พร้อมกับมะลิ ก่อนเสียแค่สามเดือนก็ยังปกติดีทุกอย่าง หลังจากมีนาคม อโศกก็เริ่มอยากออกเที่ยว จนเรามักจะแซวอโศกอยู่บ่อย ๆ ว่า พอไม่ได้เที่ยวก็ฉี่เรี่ยราด ทำน้ำลายฟูมปากตลอด จนต้องพาไปหาหมอ หมอก็บอกว่า เขาเครียด นัชญ์เองก็ไม่ได้อยากให้เขาออกไปนอกบ้าน แต่ก็พบว่าวันไหนให้ไปเที่ยวก็จะดูสบายใจขึ้น เลยให้ไปบ้าง
แต่นัชญ์ก็มาพบว่าอาการฉี่เรี่ยราดของเขา อาจจะเป็นอาการของแมวแก่ที่กลั้นปัสสาวะไม่อยู่ ฉี่กระปิดกระปอยเหมือนคนแก่ สัปดาห์ช่วงที่นัชญ์ไปต่างประเทศ แมวอโศกเริ่มนอนมากขึ้น และ ไม่กินข้าว พี่เลี้ยงเลยพามาส่งโรงพยาบาลรักษาอาการกระเพาะปัสสาวะอักเสบ เพราะฉี่มีเลือดปนเยอะ และเริ่มเข้าสู่กระบวนการตรวจอย่างละเอียด เราจึงพบว่า ไตของอโศกสูญเสียไปเยอะมาก เนื่องจากอายุมาก และ กระเพาะปัสสาวะอักเสบทำให้ไตทำงานหนัก ค่าไตพุ่งไปถึง 10.4 ซึ่งปกติควรอยู่ไม่เกิน 2.4 ไตทำงานได้ไม่ถึง 50% แล้ว
อโศกเข้ารับการรักษามาสัปดาห์หนึ่งแล้วค่ะ ทั้งสวนท่อปัสสาวะ เจาะเลือดจนแขนขาบวม และไม่ยอมกินข้าวเลย อาการเริ่มแย่ลงเรื่อย ๆ
นัชญ์ไม่ได้บอกเรื่องนี้กับทุกคนตั้งแต่วันแรก เพราะรู้สึกว่า อยากรักษาสภาพจิตใจตัวเองก่อน เพราะนัชญ์ทำใจยากกว่าตอนมะลิมาก อย่างตอนมะลิป่วยแค่วันสองวันแล้วก็จากไปเลย แต่แมวอโศกมีช่วงเวลาที่ทำให้เราทรมานใจกับความเจ็บป่วยของเขา ทำให้เศร้ามากที่ต้องคอยมากอดเขาทุกวันที่โรงพยาบาล และรู้ว่าเขาเจ็บปวดแค่ไหน วันนี้ผลตรวจเลือดออกมาทุกอย่างแย่ลงมาก นัชญ์เลยตัดสินใจบอกหมอว่า
“ถ้าต้องทำอะไรให้เจาะเจ็บตัว เช่นเจาะปอด หรืออะไรเหมือนมะลิ ขอให้เขาไปอย่างสงบดีกว่าค่ะ”
อยากให้เขาเหมือนคุณตาแก่ ๆ ที่นอนหลับไปเฉย ๆ ก็ได้ ไม่ต้องยื้ออะไรแล้ว อันนี้พูดเผื่อในกรณีที่ไม่ไหวแล้วนะคะ
ทางเราก็อยากได้กำลังใจจากทุกคน จึงอยากให้ช่วยกันเขียนเล่าเรื่องแมวอโศกสู่กันฟังบ้างนะคะ เป็นการเยียวยาครอบครัวเราอีกทาง ❤
