“พี่คล้าว 2018” รุดขอความช่วยเหลือเรื่องคดีจากอัยการจังหวัดชัยนาท และยุติธรรมจังหวัด ด้าน ผกก.สน.คันนายาว ขอให้มามอบตัว ไม่อยากออกหมายจับ
เมื่อวันที่ 28 พ.ย. นายสุรัตน์ แผ้วเกตุ หรือ “พี่คล้าว2018” อายุ 34 ปี ชาวสุขเดือนห้า อ.เนินขาม จ.ชัยนาท เดินทางเข้าพบ นายมนตรี สิงหะ อัยการจังหวัดคุ้มครองสิทธิและช่วยเหลือทางกฎหมายและการบังคับคดีจังหวัดชัยนาท และเจ้าหน้าของสำนักงานยุติธรรมจังหวัดชัยนาท เพื่อขอคำปรึกษาเกี่ยวกับด้านกฎหมาย กรณีถูกแจ้งความ ที่ สน.คันนายาว ในคดีฉ้อโกงประชาชน ความผิดตาม พ.ร.บ.เรี่ยไรเงิน ความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ และข้อหาฟอกเงิน หลังได้โพสต์เฟซบุ๊ก ขอเรี่ยไรเงินบริจาค จำนวน 1 แสนบาท เพื่อไถ่ควายเพศผู้เจ้าทองคำ ของ นายบุญเลิศ การภักดี นายก อบต.สุขเดือนห้า ที่นำมาฝากเลี้ยงไว้
นายสุรัตน์ กล่าวว่า พร้อมที่จะเดินทางไปพบตำรวจ โดยจะขอให้มีทนายไปด้วย เพื่อความสบายใจ ส่วนคำว่าไถ่มองว่าเป็นภาษาชาวบ้าน คือ การซื้อกระบือมาทำการเลี้ยงโดยไม่มีการขายออกไป ทั้งนี้ไม่คิดว่าทั้งที่ตกลงในการซื้อกันแล้วจะเกิดเรื่องราวนี้ขึ้น ตอนนี้อยากให้เจ้าทองคำกลับมาอยู่ด้วย ยินดีคืนเงินให้ผู้บริจาค
ขณะที่ พนักงานอัยการและนิติกร ได้ให้คำปรึกษาตามขั้นตอนของกระบวนการกฎหมาย รวมทั้งสิทธิต่างๆ ที่สามารถร้องขอความช่วยเหลือจากหน่วยงานด้านยุติธรรมได้ เช่น การขอทนายความเข้าร่วมรับฟังการสอบสวน การขอเงินช่วยเหลือ ด้านการปล่อยตัวชั่วคราว และค่าทนายความ หากคู่กรณี ต้องการให้มีการไกล่เกลี่ย สำนักงานอัยการคุ้มครองสิทธิฯ จะติดต่อให้ทั้งสองฝ่ายเข้าร่วมเจรจาไกล่เกลี่ย เพื่อให้ยุติปัญหาทางด้านสังคม แต่จะไม่มีผลทางด้านคดีความ
พ.ต.อ.สิงห์ สิงห์เดช ผกก.สน.คันนายาว กล่าวว่า ขอให้นายสุรัตน์เข้ามามอบตัว ชี้แจงคำว่าไถ่ ไม่อยากใช้วิธีการรุนแรงคือการขอหมายจับ เพราะเข้าใจว่านายสุรัตน์รักควาย แต่อาจจะใช้วิธีผิดไป ตอนนี้มีผู้เสียหาย 2 คน ส่วนเจ้าทองคำได้ให้เจ้าหน้าที่จากปศุสัตว์เข้ามาตรวจสุขภาพแล้วแข็งแรงดี