สน.คันนายาวเตรียมคอกดูแล “เจ้าทองคำ” พร้อมสอบ “พี่คล้าว 2018”เรี่ยไรเงินทำคนเดียวหรือไม่
เมื่อวันที่ 27 พ.ย. พ.ต.อ.สิงห์ สิงห์เดช ผกก.สน.คันนายาว เปิดเผยความคืบหน้าคดีที่นายสุรัตน์ แผ้วเกตุ หรือ "พี่คล้าว 2018" ขอเรี่ยไรเงินบริจาคเพื่อไถ่ตัวควายเจ้าทองคำจำนวน 1 แสนบาท แล้วมีผู้เสียหายที่บริจาคเงินให้เข้าแจ้งความให้ดำเนินคดี ว่า คดีนี้จากการสืบสวนสอบสวนทราบว่านายสุรัตน์ต้องการที่จะซื้อควายจากนายบุญเลิศ กาฬภักดี นายก อบต.สุขเดือนห้า จ.ชัยนาท เนื่องจากก่อนหน้านั้น นายบุญเลิศได้นำไปฝากให้นายสุรัตน์เลี้ยง โดยนายสุรัตน์มีควายแม่พันธุ์อยู่แล้ว แต่อยากได้ควายพ่อพันธุ์มา ก่อนหน้าที่นายบุญเลิศได้นำควายมาฝากเลี้ยง จึงมีการขอซื้อต่อจากนายบุญเลิศ โดยเชื่อว่านายสุรัตน์รักสัตว์จริง แต่วิธีการขอรับเรี่ยไรเงินเป็นการกระทำทึ่ผิดกฎหมาย ทั้งนี้นายสุรัตน์คงคิดว่าภาพที่โพสต์คู่กับควายมีประชาชนชื่นชมเยอะ ก็คงหวังไปเปิดบัญชีเพื่อรับบริจาค นำเงินมาซื้อควาย ส่วนการโพสต์คลิปตนเองร้องไห้ ที่ควายจะต้องถูกขาย ระบุว่าตนอยากไถ่ชีวิต ซึ่งไม่เป็นไปตามข้อเท็จจริงเนื่องจากควายที่จะถูกขายไปจะถูกนำไปเลี้ยง นายสุรัตน์ใช้ความขี้สงสารของคนอื่นมาหาเงิน
ผกก.สน.คันนายาว กล่าวต่อว่า สำหรับจำนวน 1 แสนบาทที่ประชาชนบริจาค ขณะนี้ตำรวจได้ยึดเงินไว้แล้ว พร้อมประสานอายัดบัญชีธนาคาร และประสาน ปปง.ตรวจสอบเส้นทางการเงินว่ามีการโอนเงอนต่อหรือไม่ ขณะที่ตอนนี้มีผู้เสียหายเข้าแจ้งความแล้ว 2 ราย 1ในนั้นคือ นายสงกานต์ อัจฉริยะทรัพย์ ทนายความชื่อดัง ส่วนการกระทำที่เรี่ยไรเงิน ต้องสอบสวนว่า นายสุรัตน์ทำคนเดียวหรือไม่เพราะมีการเปิดบัญชีธนาคาร มีการโพสต์คลิปร้องไห้ รวมถึงการติดต่อหน่วยงานต่างๆในวันที่รับมอบควายนั้นก็ต้องทำการสอบสวนต่อไป อย่างไรก็ตามควายจะต้องตกเป็นของกลางในคดี ซึ่งคู่คดีสามารถโต้แย้งสิทธิ์ในการดูแลได้ แต่หากคู่กรณีตกลงการดูแลกันไม่ได้ เบื้องต้น สน.คันนายาวได้เตรียมพื้นที่ ด้านหลังสน.ซึ่งเป็นส่วนของสวนเกษตรทฤษฎีใหม่ มีพื้นที่เป็นคอกสัตว์ให้เจ้าควายทองคำอยู่ก่อนโดยจะจัดเวรให้เจ้าหน้าที่ตำรวจสับเปลี่ยนกันมาดูแล