แจ้งจับ “พี่คล้าว 2018”

2018-11-26 13:10:46

แจ้งจับ “พี่คล้าว 2018”

Advertisement

"ทนายสงกานต์"แจ้งจับ "พี่คล้าว2018" เรี่ยไร่เงินซื้อควายยิ้ม ด้าน นายก อบต.สุขเดือนห้า อ.เนินขาม จ.ชัยนาท เข้าให้ปากคำตำรวจ แสดงความบริสุทธิ์ใจ ไม่เกี่ยวกับ “พี่คล้าว 2018” 


เมื่อวันที่ 26 พ.ย. นายบุญเลิศ กาฬภักดี นายก อบต.สุขเดือนห้า เจ้าของเก่าควายเพศผู้ชื่อเจ้าทองคำ เดินทางเข้าให้ปากคำกับ พนักงานสอบสวน สน.ยานนาวา กรณีนายสุรัตน์ แผ้วเกตุ หรือ "พี่คล้าว 2018" ขอเรี่ยไรเงินบริจาคไถ่ตัวควายเจ้าทองคำจำนวน 1 แสนบาท โดยก่อนหน้านี้นายสงกานต์ อัจฉริยะทรัพย์ทนายความ ได้เข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สน.คันนายาว ให้ดำเนินคดีกับนายสุรัตน์ ชาวบ้านสุขเดือนห้า อ.เนินขาม จ.ชัยนาท เจ้าของควายยิ้มที่โด่งดังในโลกออนไลน์ ที่ประกาศเรี่ยไรเงินผ่านทางโซเชียลมีเดียได้เงินกว่า 1.3 แสนบาท ในข้อหาฉ้อโกง และความผิด พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ร.บ.ควบคุมการเรี่ยไร และ พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน


นายบุญเลิศ กล่าวว่า วันนี้เดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวน เพื่อให้ปากคำ แสดงบริสุทธิ์ใจ ไม่เกี่ยวข้องกับนายสุรัตน์ ที่ไปเรี่ยไรเงินบริจาค ก่อนหน้านี้ตนได้นำควายไปฝากให้นายสุรัตน์เลี้ยงจริง เนื่องจากนายสุรัตน์ก็เลี้ยงควายอยู่แล้ว แต่เมื่อเดินทางไปดูพื้นที่จริง ก็คิดว่านายสุรัตน์ไม่น่าจะเลี้ยงได้ จึงบอกกับนายสุรัตน์ว่าจะนำควายไปขายให้กับนักธุรกิจในพื้นที่ หลังจากนั้น นายสุรัตน์ได้ติดต่อว่าจะนำเงิน 1 แสนบาทมามอบให้เพื่อเป็นค่าควายตนจึงให้เพื่อนไปรับเงินแทน แต่ไม่ทราบว่านายสุรัตน์ นำเงินมาจากที่ใด มาทราบเมื่อไม่นานมานี้ ว่านายสุรัตน์ มีการประกาศเรี่ยไรเงินผ่านโซเชียลมีเดีย เพราะตนเองไม่ได้ติดตามข่าว จึงคิดว่าการกระทำดังกล่าวไม่เหมาะสม พร้อมนำเงิน 1 แสนบาทดังกล่าว มามอบให้ตำรวจเพื่อนำคืนผู้เสียหายด้วย


ด้านนายสงกานต์ ระบุว่า ตนเองเป็น 1 ในผู้ที่บริจาคเงินให้กับนายสุรัตน์เพื่อไปไถ่ชีวิตเจ้าทองคำ อยากรู้ว่าเจ้าของควายเป็นใคร จึงตรวจสอบ พบว่า นายบุญเลิศ เป็นเจ้าของ จริงๆแล้วนายบุญเลิศไม่ได้คิดจะขายควายให้กับนายสุรัตน์ แต่นายสุรัตน์กลับมาเรี่ยไรเงินจากประชาชนคิดว่าน่าจะเป็นการฉ้อโกงประชาชน และหลอกลวงซึ่งก่อนหน้านี้ มีพยานเข้าให้ปากคำกับพนักงานสอบสวนแล้ว 4 ปาก คาดว่าภายในช่วงวันนี้ อาจมีการขอศาลอนุมัติออกหมายจับต่อไป

ด้าน พ.ต.อ.สิงห์ สิงห์เดช  ผกก.สน.คันนายา เปิดเผยว่า หลังผู้เสียหายเข้าแจ้งความร้องทุกข์ พนักงานสอบสวนได้ทำการสืบหาหลักฐาน และสอบปากคำพยานไปแล้ว เบื้องต้นพบว่า เรื่องดังกล่าวมีมูลความผิด ผู้ถูกกล่าวหามีการกระทำในลักษณะการเรี่ยไรเงิน ซึ่งพนักงานสอบสวนอยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐาน เพื่อขอศาลอนุมัติออกหมายจับต่อไป

ขณะที่พนักงานสอบสวน ได้สอบปากคำ นายบุญเลิศไว้แล้ว ส่วนเงินจำนวน 1 แสนบาท อยู่ระหว่างพิจารณาว่าจะรับเงินไว้เป็นของกลางหรือไม่





เพิ่มเติ่ม เรื่องควายค่ะ