ผู้ประท้วงหลายพันคน เปลี่ยนถนนฌ็องเซลีเซ่ เป็นพื้นที่สงครามขนาดย่อม เมื่อปะทะกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ หลังรวมตัวประท้วงแสดงความไม่พอใจที่รัฐบาลขึ้นราคาน้ำมันรถยนต์
เจ้าหน้าที่ตำรวจฝรั่งเศสยิงแก๊สน้ำตาและฉีดน้ำแรงดันสูงเข้าใส่ผู้ประท้วงหลายพันคน ที่ขว้างปาสิ่งของเข้าใส่ บนถนนฌ็อง เซลีเซ่ ในกรุงปารีส เมืองหลวงของฝรั่งเศสเมื่อวันเสาร์ ขณะที่ กลุ่มผู้ประท้วงที่เรียกตัวเองว่า “เสื้อกั๊กสีเหลือง” (Yellow Vest) ก่อเหตุจลาจล แสดงความโกรธแค้นต่อการขึ้นราคาเชื้อเพลิง ซึ่งได้แปรเปลี่ยนสถนนสายสัญลักษณ์ของเมืองหลวงแห่งนี้ กลายเป็นเขตสงคราม หรือวอร์ โซน ขึ้นมา


ถนนฌ็องเซลีเซ่ เต็มไปด้วยกลุ่มควันคละคลุ้ง ขณะฝูงชนผู้ประท้วงพยายามที่จะเคลื่อนกำลังเข้าไปใกล้ทำเนียบประธานาธิบดี พร้อมขว้างปาขวดและก้อนหินเข้าใส่เจ้าหน้าที่ตำรวจ ทำให้เจ้าหน้าที่ต้องตอบโต้ด้วยการยิงแก๊สน้ำตาและฉีดน้ำแรงดันสูงเข้าสกัด รถยนต์หลายคันและสิ่งปลูกสร้างกลางแจ้งหลายแห่งถูกจุดไฟเผา ซึ่งก็ยิ่งเพิ่มควันไฟหนาทึบมากขึ้น ปิดบังทัศนวิสัย แม้แต่ประตูชัยฝรั่งเศ หรือ อาร์กเดอทรียงฟ์ เดอเลตวล ก็แทบมองไม่เห็น ส่วนผู้ประท้วงก็ขว้างปาสิ่งของลอยผ่านกลุ่มควันเข้าใส่เจ้าหน้าที่ ขณะการปะทะกันยังคงเกิดขึ้นต่อเนื่อง ตำรวจสามารถจับกุมตัวผู้ประท้วงในกรุงปารีสไปแล้วอย่างน้อย 42 คน
กลุ่มผู้ประท้วงหลายพันคน ที่โกรธแค้นกรณีรัฐบาลขึ้นราคาน้ำมันรถยนต์ และไม่พอใจต่อนโยบายเศรษฐกิจของประธานาธิบดีเอ็มมานูเอล มาครง ผู้นำฝรั่งเศส ก่อหวอดประท้วงทั่วฝรั่งเศสต่อเนื่องครั้งที่ 2 แล้วในวันสุดสัปดาห์
ในช่วงกลางคืน ถนนฌ็องเซลีเซ่ที่มีชื่อเสียง ซึ่งคาร์ล ลาเกอร์เฟลด์ ดีไซเนอร์แฟชั่นชื่อดัง เพิ่งเนรมิตรสถานที่ให้สวยงาม ติดไฟสีแดงเพื่อฉลองเทศกาลคริสต์มาสเมื่อไม่กี่วันก่อน ก็ยังคงสว่างไสวอยู่และสว่างเพิ่มมากขึ้นจากการจุดไฟเผาเศษสิ่งของต่าง ๆ ของกลุ่มผู้ประท้วง
ประธานาธิบดีมาครงต้องขอบคุณเจ้าหน้าที่ตำรวจที่มีความกล้าหาญและมีความเป็นมืออาชีพ ในการจัดการกับกลุ่มผู้ประท้วง ขณะความสงบค่อย ๆ กลับคืนสู่ถนนฌ็องเซลีเซ่ “มันเป็นเรื่องที่น่าอายสำหรับคนที่โจมตีเจ้าหน้าที่ ไม่มีพื้นที่ว่างสำหรับการก่อความรุนแรงเช่นนี้ในสาธารณรัฐแห่งนี้” มาครง เขียนในทวิตเตอร์

