พื้นที่ทางตอนเหนือของรัฐแคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา ที่กำลังเผชิญกับไฟป่าครั้งเลวร้ายสุดในประวัติศาสตร์ของรัฐ ล่าสุดมีฝนตกลงมาแล้ว ช่วยควบคุมไฟป่าที่กำลังไหม้ลาม แต่ขณะเดียวกันก็ทำให้เกิดความวิตก อาจเกิดดินโคลนภูเขาถล่ม สร้างความยุ่งยากต่อความพยายามฟื้นฟู
เจ้าหน้าที่กล่าวคาดการณ์เมื่อวันพฤหัสบดีว่า อาจจะมีฝนตกทางตอนเหนือของแคลิฟอร์เนีย วัดปริมาณได้ราว 4 – 6 นิ้ว ในระยะหลายวันข้างหน้า และบางพื้นที่ได้รับการเตือนให้เตรียมพร้อมรับมือกับภาวะน้ำท่วมฉับพลัน
จนถึงวันพุธ มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 83 ราย จากไฟป่าครั้งล่าสุดในรัฐแคลิฟอร์เนีย และมีผู้ถูกขึ้นบัญชีสูญหาย 563 คน หลังจาก “ไฟป่าแคมป์” ทำลายล้างเมืองพาราไดซ์ อาคารบ้านเรือนถูกไฟเผาจนวอดกว่า 10,000 หลัง ฝนซึ่งเริ่มตกตั้งแต่วันพุธ (21 พ.ย.) นับเป็นฝนตกครั้งใหญ่ครั้งแรก ในเขตรัฐแคลิฟอร์เนีย ในรอบ 6 เดือน
ฝนตกสร้างความยินดีให้กับประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ ที่ได้รับผลกระทบจากไฟป่าน้อยกว่า เนื่องจากมันทำให้หมอกควันที่ปกคลุมท้องฟ้าหายไป โดยหมอกควันจากไฟป่าทำให้ทางการต้องประกาศปิดโรงเรียนจำนวนมาก ในเมืองใหญ่ซานฟรานซิสโก
นายจิม แม็คเคนเซ่น เจ้าหน้าที่ระดับสูงของสำนักงานป่าไม้แห่งชาติสหรัฐ กล่าวว่า ฝนจะช่วยยับยั้งการไหม้ลามของไฟป่า จนถึงจุดที่อาจยกเลิกปฏิบัติการต่อสู้ไฟป่าในเวลาอันรวดเร็ว ส่วนนายจอห์นนี พาวเวลล์ นักพยากรณ์อากาศขชองสำนักอุตุนิยมวิทยาแห่งชาติสหรัฐ กล่าวว่า มีความเสี่ยงสูงมากที่จะเกิดดินโคลนภูเขาถล่มในพื้นที่ เนื่องจากไฟป่าเผาผลาญทำให้ไม่มีต้นไม้ยึดเหนี่ยวดินบนภูเขา