เจ้าอาวาสร้องทุกข์เอกชนขุดบ่อทรายรุกเข้ามาพื้นที่วัดจนทำให้โบสถ์อายุกว่า100ปีได้รับความเสียหาย
นายจุมพฎ เจตน์จันทร์ ที่ปรึกษาคณะกรรมการธรรมาภิบาลจังหวัดชัยนาท พร้อมด้วย ว่าที่ ร.ต.อภิชัย รุ่งพึ่ง ประธานคณะทำงานเครือข่ายภาคประชาสังคมฯ จังหวัดชัยนาท ร.อ.สุชาติ ผลโต ผู้บังคับหมวดรักษาความสงบที่ 2 จังหวัดชัยนาทพร้อมกำลัง เจ้าหน้าที่จากสำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดชัยนาท และหน่วยงานท้องถิ่น ท้องที่ เข้าตรวจสอบบ่อทราย บริเวณหลังวัดหัวถนน หมู่ 5 ต.หางน้ำสาคร อ.มโนรมย์ จ.ชัยนาท หลังได้รับข้อร้องเรียนจาก พระอธิการนิวัฒน์ อาทโร เจ้าอาวาสวัดหัวถนน กรณีมีการขุดบ่อทรายรุกเข้ามาใกล้บริเวณวัด จนทำให้โบสถ์ได้รับความเสียหาย และได้ทำการซ่อมแซม เสียเงินไปกว่า 2 ล้านบาท
พระอธิการนิวัฒน์ อาทโร เจ้าอาวาสวัดหัวถนน กล่าวว่า ปกติโบสถ์เขาอยู่กันได้เป็น 100 ปี แต่อายุโบสถ์ของวัดมีอายุประมาณ 30 ปี ได้เกิดความแตกร้าวชำรุด คาดว่าเกิดจากการขุดทรายบริเวณใกล้เคียงวัดทั้งด้านหลังและด้านข้าง ลักษณะความเสียหายคือพื้นโบสถ์ทรุด ตัวอาคารแตกร้าว จึงได้ทำการซ่อมแซม โดยเสียค่าซ่อมโบสถ์ 2 ล้านบาท แต่หากเวลาผ่านจากนี้ไปอีกไม่ถึง 10 ปี เกิดการชำรุดเสียหายอีกจะเอาเงินที่ไหนมาซ่อม มาคิดว่าจะทำอย่างไรให้เขาอยู่ได้ เราอยู่ได้ อยากให้เจ้าของกิจการดูผลกระทบที่จะเกิดขึ้นแวดล้อมด้วย อย่าให้เกิดความเดือดร้อนมาก แต่มีข้อเสนอว่าขอให้ผู้ประกอบการทำสัญญาว่าหากขุดต่อไปแล้วเกิดอะไรขึ้นกับโบสถ์อีกจะเข้ามาซ่อมให้ก็จบ

นายจุมพฎ เจตน์จันทร์ ที่ปรึกษาคณะกรรมการธรรมาภิบาลจังหวัดชัยนาท กล่าวว่า ผลจากการตรวจสอบพบว่ามีผู้ประกอบการขุดทรายหลายรายโดยรอบ มีทั้งขออนุญาตขุด ขออนุญาตกักเก็บทรายไว้จำหน่าย ทุกบ่อทรายที่ทำการตรวจสอบล้วนแต่ปฏิบัติไม่ถูกต้อง อาทิ ไม่มีการติดป้ายแสดงความเป็นเจ้าของ ขอบเขตที่ขุดมีพื้นที่เท่าใด ไม่ทำเขตแนวให้เห็นอย่างชัดเจน ไม่มีแนวกั้น อีกทั้งแนวขุดทรายก็ไม่อยู่ในลักษณะลาดเอียงเพื่อป้องกันพังทลาย รวมถึงมีรถขนทรายวิ่งเข้าออกจนเกิดผลกระทบทำให้ถนนที่ชาวบ้านใช้สัญจรได้รับความเสียหายจึงจำเป็นต้องใช้มาตรการตามกฎหมายโดยในเบื้องต้นให้อุตสาหกรรมจังหวัดเรียกผู้ประกอบการทุกรายเร่งแก้ไขทันที ทั้งในเรื่องติดป้ายประกาศพื้นที่ที่ได้รับการอนุญาตให้ขุด ชื่อผู้ประกอบการที่ได้รับอนุญาต ทำแนวเขตพื้นที่ที่ขุดให้ชัดเจน ทำบันทึกข้อตกลงว่าจะต้องซ่อมแซมถนนสาธารณะให้กลับสู่สภาพเดิม การขนย้ายทรายจะต้องไม่ร่วงหล่นหรือสร้างความรำคาญกับชุมชน หากไม่ดำเนินการแก้ไขโดยพลัน ก็ให้พิจารณาเพิกถอนใบอนุญาตทันที การขุดต้องตรงตามแบบที่ยื่นขอ หากมีการแก้ไขแบบต้องมีวิศวกรรับรอง ในส่วนของผู้ใหญ่บ้านและกำนันในพื้นที่ใช้อำนาจทางการปกครองให้ร้องทุกข์กล่าวโทษแจ้งความได้เมื่อพบการกระทำที่ทำให้ชาวบ้านเดือดร้อน ในส่วนขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นสามารถระงับไม่ต่อใบอนุญาตในแต่ละปีได้ หากพบว่ามีการกระทำที่ไม่เป็นไปตามแบบ ให้สำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดดำเนินการสำรวจบ่อทรายทั้งหมดใน อ.มโนรมย์ว่ามีจำนวนเท่าใด ทุกบ่อทรายที่ขออนุญาตจะต้องปฏิบัติตามระเบียบและเงื่อนไขของกฎหมายอย่างเคร่งครัด หากมีการร้องทุกข์หรือร้องเรียนซ้ำเข้ามาอีกให้ถือว่าเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องทุกขั้นตอนละเว้นการปฏิบัติหน้าที่